แผนการสอน สื่อ บทเรียนและบททดสอบ


แผนการสอน สื่อ บทเรียนและทดสอบ(นำเสนอ) .doc

1. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด

สาระที่ 1 : ภาษาเพื่อการสื่อสาร

มาตรฐาน ต 1.1 ม.1/4, ต 1.2 ม.1/1, ต 1.3 ม.1/1

สาระที่ 4 : ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ม.1/1

2. ความสัมพันธ์กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น

สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม; ศิลปะ

3. ความรู้

- คำศัพท์และสำนวนภาษา

บทเรียนย่อยที่ 1

- present (n.): something you give someone on a special occasion or to thank him/her for something (ของขวัญ)

- week (n.): a period of seven days beginning with Sunday and ending with Saturday (สัปดาห์)

- wish (n.): a desire to do something, to have something, or to have something happen (ความปรารถนา, ความอยาก)

- best (adj.): better than all others (ดีที่สุด)

- Happy Birthday: used to wish someone happiness on a birthday occasion
(สุขสันต์วันเกิด)

- make a wish: to express the hope or desires silently to yourself for good luck, a happy life, etc. (อธิษฐาน)

บทเรียนย่อยที่ 2

- Gee (interj.): an expression of surprise, enthusiasm, or sympathy
(คำอุทานใช้แสดงความตื่นเต้น ประหลาดใจ)

- brother (n.): a boy or man who has the same parents as you (พี่ชายหรือน้องชาย)

- sister (n.): a girl or woman who has the same parents as you (พี่สาวหรือน้องสาว)

- little (adj.): being younger (ที่อายุน้อยกว่า, น้อง)

- married (adj.): united in marriage (ที่แต่งงานแล้ว)

- husband (n.): the man that a woman is married to; a married man (สามี)

- wife (n.): the woman that a man is married to; a married woman (ภรรยา)

บทเรียนย่อยที่ 3

-

บทเรียนย่อยที่ 4

- famous (adj.): known about by many people in many places (มีชื่อเสียง)

- important (adj.): having a big effect or influence on people’s lives or on events in the future (สำคัญ)

- lead (n.): the first position in a race or competition (ตำแหน่งนำ)

- talent (n.): a special ability or cleverness (ความสามารถพิเศษ)

- โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์

- Verb: have

- Question words: When, How many

When is your birthday?

- ข้อมูลด้านวัฒนธรรม

บทเรียนย่อยที่ 1

- การเลี้ยงฉลองวันเกิดในยุคแรก ๆ จัดขึ้นสำหรับบุคคลสำคัญเท่านั้น เช่น พระเจ้าแผ่นดิน เนื่องจากมีความเชื่อว่าในวันเกิดจะมีสิ่งชั่วร้ายมาทำอันตรายเจ้าของวันเกิด ดังนั้นจึงมีการเชิญญาติพี่น้อง และเพื่อนฝูงมาอวยพรให้เจ้าของวันเกิดเพื่อให้ประสบแต่ความโชคดีตลอดไป

- การนำของขวัญมาให้เจ้าของวันเกิด ถือเป็นการให้กำลังใจและขจัดสิ่งชั่วร้าย (evil spirits) ให้พ้นไป ต่อมามีการจัดฉลองวันเกิดให้เด็ก ๆ ซึ่งเชื่อกันว่าจะทำให้เด็กเหล่านั้นโชคดี งานวันเกิดสำหรับเด็ก จัดครั้งแรกที่เมือง Kinderfeste ประเทศเยอรมนี

- งานฉลองวันเกิดที่ใหญ่ที่สุดจัดขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1970 เป็นงานวันเกิดปีที่ 89 ของพันเอก Sanders (Colonel Harlan Sanders) ซึ่งมีผู้มาร่วมงานถึง 35,000 คน

- บัตรอวยพรวันเกิด (birthday card) เริ่มที่ประเทศอังกฤษเมื่อประมาณ 100 ปีมาแล้ว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการขอโทษที่มาร่วมงานวันเกิดไม่ได้

- เพลง Happy Birthday แต่งโดยสองพี่น้องชื่อ Patty และ Mildred Hill ซึ่งเป็นครูที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในเมือง Louisville, รัฐ Kentucky เมื่อประมาณร้อยกว่าปีมาแล้ว (ปี 1893) โดยแรกเริ่มใช้ชื่อเพลงว่า Good Morning to All ต่อมา Robert H. Coleman ได้เปลี่ยนชื่อเพลงดังกล่าวเป็น Happy Birthday to You โดยบริษัท Warner Communications ได้ซื้อลิขสิทธิ์เพลงนี้ไป

- sweet sixteen หมายถึง งานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันเกิดสำหรับเด็กสาวที่อายุย่างเข้า 16 ปี ในสหรัฐอเมริกา อายุ 16 ปี นับเป็นวัยเปลี่ยนผ่านจากเด็กสู่ความเป็นผู้ใหญ่ ในบางรัฐ อายุ 16 ปี เป็นวัยที่สามารถทำใบขับขี่ได้แล้ว สำหรับเด็กสาวในสหรัฐอเมริกา อายุ 16 ปี ถือเป็นวัยเริ่มเข้าสู่วัยสาว งานวันเกิดนี้จึงจัดขึ้นเป็นพิเศษ อาจมีการจุดเทียน 16 เล่มบนเค้ก และมีการเต้นรำ ซึ่งโดยปกติจะเป็นเพลงช้าและเพลงเร็วอย่างละ 1 เพลง

บทเรียนย่อยที่ 2

-

บทเรียนย่อยที่ 3

-

บทเรียนย่อยที่ 4

- Kate Hudson (เคท ฮัดสัน) เป็นนักแสดงสาวชาวอเมริกัน เธอเกิดในครอบครัวนักแสดง แม่คือดาราหญิงโกลดี ฮอว์น พ่อคือดาราตลกทางทีวี บิล ฮัดสัน พ่อกับแม่ของเธอแยกทางกันตั้งแต่เธอยังเล็ก เธอได้รับการเลี้ยงดูจากแม่และพ่อเลี้ยงคือ ดาราชายเคิร์ท รัสเซล ผลงานภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงของเธอ เช่น How to Lose a Guy in 10 Days

- Liv Tyler (ลิฟ ไทเลอร์) เป็นลูกสาวของสตีเฟ่น ไทเลอร์ นักร้องนำวงแอโรสมิท (Aerosmith) และเบบ บูเอล อดีตนางแบบ ผลงานการแสดงที่โดดเด่นของเธอ คือ That Thing You Do และ Amageddon

- Drew Barrymore (ดรูว์ แบร์รีมอร์) เกิดมาในครอบครัวฮอลลีวูด เธอเป็นหลานสาวของนักแสดงจอห์น แบร์รีมอร์ เธอเป็นนางแบบโฆษณาสินค้าตั้งแต่อายุเพียง 9 เดือน ได้รับบทบาทนักแสดงเด็กในภาพยนตร์ชื่อดังเรื่อง E.T. ของผู้กำกับ สตีเฟ่น สปีลเบิร์ก ซึ่งสร้างชื่อเสียงเป็นอย่างมากให้กับเธอในวัยเพียง 7 ขวบ ผลงานที่เป็นที่รู้จักของเธอในปัจจุบัน เช่น Ever After, The Wedding Singer และ Chalie’s Angels

- Enrique Iglesias (เอนริเก อิเกลเซียส) เป็นนักร้องหนุ่มชาวสเปน ศิลปินดนตรีแนวลาติน เพลงของนักร้องคนนี้ได้รับความนิยมทั่วโลก เขาประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง เอนริเก อิเกลเซียส เป็นลูกชายของนักร้องลาตินชื่อดัง ฮูลิโอ อิเกลเซียส

- Charlie Sheen (ชาร์ลี ชีน) เป็นลูกชายของนักแสดงเจ้าบทบาทมาร์ติน ชีน คนส่วนมากเห็นว่าเขาเกิดในวงการนักแสดงได้เพราะอาศัยชื่อของพ่อ แต่เขาก็ได้พิสูจน์ฝีมือให้ทุกคนยอมรับว่าเขาเป็นนักแสดงที่มีความสามารถมากคนหนึ่ง ชาร์ลี ชีน ก้าวขึ้นเป็นดารานำจากการแสดงบทบาทที่น่าจดจำในภาพยนตร์เรื่อง Platoon, Wall Street, Young Guns และ Hot Shots

4. ทักษะ/กระบวนการ

- ทักษะคร่อมวิชา

กระบวนการกลุ่ม, ทักษะการนำเสนอ, ทักษะการคิด

5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

ความสามารถในการสื่อสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้ทักษะชีวิต การใช้เทคโนโลยี

6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์

รู้จัก เข้าใจ และภูมิใจในตนเอง : นักเรียนภูมิใจในครอบครัวตนเอง

7. ความเข้าใจที่ยั่งยืน

การให้ของขวัญวันเกิดแก่เพื่อนและการเป่าเทียนเค้กวันเกิดเป็นประเพณีตะวันตก

8. สิ่งที่นักเรียนเรียนรู้และปฏิบัติได้

1. พูดถามและให้ข้อมูลเกี่ยวกับสมาชิกในครอบครัว (ต 1.2 ม.1/1, ต 4.1 ม.1/1)

2. เข้าใจข้อความบรรยายความสัมพันธ์ของบุคคลในครอบครัวที่ฟัง(ต 1.1 ม.1/4)

3. เข้าใจบทอ่านเกี่ยวกับครอบครัวที่มีชื่อเสียง (ต 1.1 ม.1/4)

4. เขียนบรรยายเกี่ยวกับสมาชิกแต่ละคนในครอบครัว(ต 1.3 ม.1/1)

1. ผลงานปฏิบัติ/ชิ้นงาน

1. กิจกรรมกลุ่ม : บทบาทสมมติสถานการณ์งานวันเกิด

2. คำตอบที่ได้จากการตอบคำถามที่ฟังข้อความบรรยายครอบครัว

3. คำตอบที่ได้จากการตอบคำถามบทอ่านเกี่ยวกับครอบครัวที่มีชื่อเสียง

4. Family tree และประโยคบรรยายแต่ละบุคคลในครอบครัว

2. การวัดผลและประเมินผล

1. ประเมินการแสดงบทบาทสมมติสถานการณ์งานวันเกิดโดยใช้แบบประเมินการแสดงบทบาทสมมติ

2. ประเมินการฟังและการอ่านโดยใช้เกณฑ์การประเมินดังนี้

ร้อยละของคำตอบที่ถูกต้อง ระดับความสามารถ

90-100 ดีมาก

70-89 ดี

50-69 พอใช้

น้อยกว่า 50 ต้องปรับปรุงแก้ไข

3. ประเมินการเขียนบรรยายบุคคลในครอบครัวจากการใช้คำศัพท์และไวยากรณ์ถูกต้องร้อยละ 70 ขึ้นไป

หลักฐานอื่น ๆ

- การทำแบบฝึกหัดในหนังสือเรียนและหนังสือแบบฝึกหัด

นักเรียนประเมินตนเอง

- นักเรียนประเมินการเรียนรู้หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 โดยใช้แบบประเมิน Unit 6Self-Evaluation

ครูนำเสนอโครงสร้างประโยค When is your birthday? โดยอธิบายให้นักเรียนฟังว่า เป็นประโยคที่ใช้ถามวันเกิด และเมื่อตอบให้ตอบเป็นชื่อเดือน เช่น

T: (Subin), when is your birthday?

S1: September./It’s in September.

- ครูสุ่มถามนักเรียนคนอื่น ๆ อีก และให้นักเรียนสลับถามเพื่อนบ้าง เพื่อให้นักเรียนเข้าใจการถาม-ตอบมากยิ่งขึ้น ให้นักเรียนทำแบบฟอร์มการสำรวจวันเกิด โดยใช้คำถาม “When is your birthday?” ในการสอบถาม และบันทึกคำตอบลงในแบบฟอร์มดังตัวอย่าง

เมื่อนักเรียนฝึกกิจกรรมนี้เสร็จแล้วให้นักเรียนนำข้อมูลในตารางมาเขียนเป็นประโยค เช่น

1. My birthday is in June.

2. Subin’s birthday is in September.etc.


สื่อ


บทเรียนย่อยที่ 1                                                                            เวลา 2 ชั่วโมง

สิ่งที่นักเรียนเรียนรู้และปฏิบัติได้

1. ถาม-ตอบเกี่ยวกับวัน เดือนเกิด ได้

กิจกรรมการเรียนรู้

ขั้นที่ 1 - นำเข้าสู่บทเรียน

- ครูนำเข้าสู่บทเรียนโดยให้นักเรียนดูชื่อหน่วยการเรียนรู้ “Happy Birthday!” และดูรูปภาพจากกิจกรรม New Language ในหนังสือเรียน หน้า 38 ถามนักเรียนว่าบทเรียนนี้น่าจะเกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้าง พยายามดึงคำตอบ (elicit) ที่เป็นความรู้เดิมของนักเรียน เช่น วันทั้งเจ็ด (Days of the Week) และเดือนทั้งสิบสอง (Months of the Year) ซึ่งนักเรียนส่วนมากรู้แล้ว แต่อาจจะออกเสียงไม่ถูกต้องหรือเรียงลำดับไม่ได้ จากนั้นสนทนากับนักเรียนเรื่องวันเกิด โดยถามว่าใครเคยจัดงานวันเกิดบ้าง และผู้คนมักทำอะไรกันในงานเลี้ยงวันเกิด เป็นต้น ครูอาจเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับวันเกิดให้นักเรียนฟัง (ดูข้อมูลด้านวัฒนธรรม)

- ครูเปิดซีดีบันทึกเสียง Days of the Week จากกิจกรรม New Language ในหนังสือเรียน หน้า 38 ให้นักเรียนฟังการออกเสียง โดยให้นักเรียนชี้ที่วันต่าง ๆ ตามไปด้วย

- ครูเปิดซีดีบันทึกเสียงอีกครั้ง โดยหยุดเป็นระยะเพื่อให้นักเรียนออกเสียงตาม หลังจากนั้นสุ่มเรียกนักเรียนทีละคนให้ออกเสียง แล้วให้นักเรียนจับคู่ฝึกออกเสียงวันทั้งเจ็ดกับเพื่อน

- ให้นักเรียนฟังซีดีบันทึกเสียง Months of the Year จากกิจกรรม New Language ใน หนังสือเรียน หน้า 38 ครูใช้วิธีเดียวกันกับ Days of the Week

ขั้นที่ 2 - ครูใช้บัตรคำชื่อวันทั้งเจ็ดเพื่อฝึกการถาม-ตอบเกี่ยวกับชื่อวัน เช่น ครูชูบัตรคำ “Sunday” แล้วให้นักเรียนช่วยกันตอบ โดยใช้ตัวอย่างการถาม-ตอบ ดังต่อไปนี้

T: What day is it today?

Ss: It’s Sunday.

- จากนั้นครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มย่อย กลุ่มละ 4-6 คน แจกบัตรคำวันทั้งเจ็ด (Days of the Week) กลุ่มละ 1 ชุด ให้นักเรียนฝึกถาม-ตอบดังตัวอย่างข้างบน ครูคอยเดินดูเพื่อสังเกตการฝึกกิจกรรม

ขั้นที่ 3 - ครูใช้บัตรคำเดือนทั้งสิบสอง (Months of the Year) ฝึกถาม-ตอบเดือนทั้งสิบสอง โดยชู บัตรคำให้นักเรียนดูพร้อมถามว่า What is this month? ครูอาจรอให้นักเรียนตอบเอง ถ้าไม่ได้จึงบอกคำตอบเป็นบางส่วน เช่น “It’s (เดือน) .” จากนั้นใช้วิธีการฝึกเช่นเดียวกันกับกิจกรรมวันทั้งเจ็ด (Days of the Week) โดยแจกบัตรคำให้นักเรียนฝึกเป็นกลุ่ม ครูคอยเดินสังเกตการปฏิบัติกิจกรรมของนักเรียน

ขั้นที่ 4 - ให้นักเรียนทบทวนคำศัพท์ Days of the Week และ Months of the Year โดยทำแบบฝึกหัด ข้อ A ใน Workbook หน้า 25 (ดูเฉลยท้ายเล่ม)

ขั้นที่ 5 - ให้นักเรียนดูรูปภาพงานวันเกิดในหนังสือเรียน หน้า 39 สนทนาเกี่ยวกับรูปภาพและกิจกรรมตามรูปภาพ และครูอธิบายสำนวน “Close your eyes and make a wish.” ให้นักเรียนฟัง จากนั้นให้นักเรียนฟังซีดีบันทึกเสียงและชี้ที่รูปภาพเจ้าของวันเกิด

ขั้นที่ 6 - ครูอ่านคำสั่งจากกิจกรรม Comprehension ในหนังสือเรียน หน้า 39 อธิบายกิจกรรมที่นักเรียนต้องทำให้เข้าใจแล้วให้นักเรียนจับคู่ทำกิจกรรมดังกล่าว เสร็จแล้วตรวจคำตอบพร้อมกัน (ดูเฉลยท้ายเล่ม)

ขั้นที่ 7 - ครูนำเสนอโครงสร้างประโยค When is your birthday? โดยอธิบายให้นักเรียนฟังว่า เป็นประโยคที่ใช้ถามวันเกิด และเมื่อตอบให้ตอบเป็นชื่อเดือน เช่น

T: (Subin), when is your birthday?

S1: September./It’s in September.

- ครูสุ่มถามนักเรียนคนอื่น ๆ อีก และให้นักเรียนสลับถามเพื่อนบ้าง เพื่อให้นักเรียนเข้าใจการถาม-ตอบมากยิ่งขึ้น ให้นักเรียนทำแบบฟอร์มการสำรวจวันเกิด โดยใช้คำถาม “When is your birthday?” ในการสอบถาม และบันทึกคำตอบลงในแบบฟอร์มดังตัวอย่าง

เมื่อนักเรียนฝึกกิจกรรมนี้เสร็จแล้วให้นักเรียนนำข้อมูลในตารางมาเขียนเป็นประโยค เช่น

1. My birthday is in June.

2. Subin’s birthday is in September.etc.

ขั้นที่ 8 - ให้นักเรียนฟังซีดีบันทึกเสียงกิจกรรม Practice ในหนังสือเรียน หน้า 39 แล้วฝึกพูดถาม-ตอบตามซีดีบันทึกเสียงกับเพื่อนคนอื่น ๆ ในชั้นเรียน

ขั้นที่ 9 - ถ้ามีนักเรียนคนใดที่เกิดในเดือนนี้ให้เพื่อน ๆ ช่วยกันร้องเพลง Happy Birthday เพื่ออวยพร วันเกิดให้ ครูให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเพลง Happy Birthday โดยดูจากข้อมูลด้านวัฒนธรรม

ขั้นที่ 10 - ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด ข้อ B-C ใน Workbook หน้า 25-26 (ดูเฉลยท้ายเล่ม)

กิจกรรมเสริมทักษะ/ประสบการณ์ทางภาษา

-ให้นักเรียนจับคู่ทำบัตรอวยพรวันเกิดให้เพื่อน โดยออกแบบให้สวยงาม มีคำอวยพรเป็นภาษาอังกฤษ นักเรียนอาจค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต

บทเรียนย่อยที่ 2                                                                            เวลา 2 ชั่วโมง

สิ่งที่นักเรียนเรียนรู้และปฏิบัติได้

1. พูดถามและให้ข้อมูลเกี่ยวกับสมาชิกในครอบครัว (ต 1.2 ม.1/1, ต 4.1 ม.1/1)

2. เข้าใจข้อความบรรยายความสัมพันธ์ของบุคคลในครอบครัวที่ฟัง(ต 1.1 ม.1/4)

กิจกรรมการเรียนรู้

ขั้นที่ 1 - นำเข้าสู่บทเรียน

-ทบทวนความรู้เดิม และคำศัพท์ใหม่เกี่ยวกับครอบครัว โดยใช้แผนภูมิลำดับเครือญาติ (family tree) ดังนี้

- ครูเขียนคำศัพท์บนกระดานดำ เช่น father, mother, son, daughter, brother, sister, husband, wife แล้วถามนักเรียนโดยใช้คำถามต่อไปนี้

- Who is Tim/Mr.Brown?

- Who is Sue’s brother/big brother/little brother?

- Who is Judy’s husband?

ขั้นที่ 2 - ครูสอนคำศัพท์ใหม่ to be married โดยเขียนประโยคต่อไปนี้บนกระดานดำ

Tim and Judy are married. They are husband and wife. They have there children, Jack, Sue and Sam.

ให้นักเรียนช่วยกันเดาความหมายคำศัพท์ที่ขีดเส้นใต้ เพื่อตรวจสอบความเข้าใจ

ขั้นที่ 3 - ให้นักเรียนดูภาพจากกิจกรรม Conversation ในหนังสือเรียน หน้า 40 สนทนาเกี่ยวกับภาพ ถามนักเรียนเกี่ยวกับภาพ โดยให้นักเรียนชี้บอกว่าสมาชิกในครอบครัวของ Sue มีใครบ้าง และถามนักเรียนว่าเพื่อนของ Sue มาทำอะไรที่บ้านของเธอ

- ให้นักเรียนฟังซีดีบันทึกเสียงในกิจกรรม Conversation ในหนังสือเรียน หน้า 40 โดยครูกระตุ้นให้นักเรียนออกเสียงตาม เสร็จแล้วครูสุ่มเรียกนักเรียนอ่านออกเสียงทีละประโยค

ขั้นที่ 4 - ครูอ่านคำถามจากกิจกรรม About the Conversation ในหนังสือเรียน หน้า 40 โดยให้นักเรียน
ช่วยกันเดาคำตอบ เพื่อตรวจสอบความเข้าใจเกี่ยวกับคำถามแต่ละข้อ จากนั้นให้นักเรียนลงมือตอบคำถาม เสร็จแล้วครูสุ่มเรียกนักเรียนอ่านคำตอบ หากผิดครูแก้ไขให้ถูกต้อง (ดูเฉลยท้ายเล่ม)

ขั้นที่ 5 - ครูเขียนประโยคต่อไปนี้บนกระดานดำ

S1: Hi, (ชื่อนักเรียน). Happy Birthday! I have a present for you.

S2: (ของขวัญ). Gee thanks, (ชื่อนักเรียน).

Come and meet my family. That’s my father, my mother and my sister/brother, (ชื่อสมมติ).

S1: Hi, nice to meet you.

S3: Nice to meet you, too.

แล้วให้นักเรียนจับกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน แสดงบทบาทสมมติ (role-play) เป็นเจ้าของวันเกิด เพื่อน พ่อแม่ และน้อง ตามบทสนทนาที่ครูเขียนให้ดูเป็นแบบอย่างบนกระดานดำ โดยออกมาแสดงหน้าชั้นเรียนทีละกลุ่ม

- ครูประเมินการแสดงบทบาทสมมติของนักเรียนโดยใช้แบบประเมินการแสดงบทบาทสมมติ

ขั้นที่ 6 - ให้นักเรียนดูกิจกรรม Listening ในหนังสือเรียน หน้า 40 ครูอธิบายกิจกรรมการฟังให้นักเรียนเข้าใจ และให้นักเรียนดูรูปด้านข้าง โดยการสังเกตรูปร่างและลักษณะของบุคคลในรูปภาพว่ามีความสัมพันธ์ต่อกันอย่างไร เช่น เป็นพ่อ แม่ พี่ น้อง หรือเพื่อน

-ครูเขียนชื่อคนบนกระดานดำ เช่น Mike, Mrs. Green, Barbara, Mr. Green, Vanessa และ Dan แล้วให้นักเรียนฟังซีดีบันทึกเสียงครั้งที่ 1 โดยดูรูปขณะฟัง หลังจากนั้นครูเปิด ซีดีบันทึกเสียงครั้งที่ 2 ให้นักเรียนทำกิจกรรม ครูอาจหยุดซีดีบันทึกเสียงเป็นระยะ ๆ เพื่อให้นักเรียนเขียนคำตอบ ครูเปิดซีดีบันทึกเสียงครั้งที่ 3 ให้นักเรียนตรวจคำตอบ เสร็จแล้วครูเฉลยคำตอบ (ดู Tapescript และเฉลยท้ายเล่ม)

-ครูประเมินการฟังบทความบรรยายเกี่ยวกับบุคคลในครอบครัวของนักเรียนจากจำนวนคำตอบที่ถูกต้องโดยใช้เกณฑ์การประเมินการตอบคำถาม

ขั้นที่ 7 - ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด ข้อ D ใน Workbook หน้า 26 เพื่อทดสอบความเข้าใจของผู้เรียน

บทเรียนย่อยที่ 3                                                                     เวลา 2 ชั่วโมง

สิ่งที่นักเรียนเรียนรู้และปฏิบัติได้

1.ถามและตอบคำถามเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวของบุคคล

กิจกรรมการเรียนรู้

ขั้นที่ 1 - นำเข้าสู่บทเรียน

- ครูเขียน I, You, We, They, He, She, It, Sue and Jay, Jim, etc. บนกระดานดำ หลังจากนั้นทบทวนความรู้เดิมเรื่องการใช้ have กับประธานรูปต่าง ๆ โดยใช้ repetition drill โดยครูเขียนประโยค I have one brother. บนกระดานดำ แล้วให้นักเรียนใช้ประโยคบนกระดานดำ พูดต่อกันไปเรื่อย ๆ โดยเปลี่ยน Subject และ Verb: have ให้ถูกต้อง เช่น You have one brother. She has one brother, etc. ถ้าไม่ให้นักเรียนพูดปากเปล่าอาจให้นักเรียนเขียนบนกระดานดำก็ได้

ขั้นที่ 2 - ครูสอนโครงสร้างการใช้ How many โดยใช้ตัวอย่างประโยคดังนี้

T: Do you have a brother, Subin?

S1: Yes./Yes, I do.

T: How many brothers do you have?

S1: I have one brother.

ครูสุ่มเรียกนักเรียนสนทนาตามบทสนทนานี้ไปเรื่อย ๆ จนนักเรียนเข้าใจ

- ครูเขียนคำสำคัญบนกระดานดำ แล้วสุ่มเรียกนักเรียนออกมาทำให้เป็นประโยคที่สมบูรณ์ตามตัวอย่าง

>ร่องรอย หลักฐานการเรียนรู้

1. ผลงานปฏิบัติ/ชิ้นงาน

1. กิจกรรมกลุ่ม : บทบาทสมมติสถานการณ์งานวันเกิด

2. คำตอบที่ได้จากการตอบคำถามที่ฟังข้อความบรรยายครอบครัว

3. คำตอบที่ได้จากการตอบคำถามบทอ่านเกี่ยวกับครอบครัวที่มีชื่อเสียง

4. Family tree และประโยคบรรยายแต่ละบุคคลในครอบครัว

2. การวัดผลและประเมินผล

1. ประเมินการแสดงบทบาทสมมติสถานการณ์งานวันเกิดโดยใช้แบบประเมินการแสดงบทบาทสมมติ

2. ประเมินการฟังและการอ่านโดยใช้เกณฑ์การประเมินดังนี้

ร้อยละของคำตอบที่ถูกต้อง ระดับความสามารถ

90-100 ดีมาก

70-89 ดี

50-69 พอใช้

น้อยกว่า 50 ต้องปรับปรุงแก้ไข

3. ประเมินการเขียนบรรยายบุคคลในครอบครัวจากการใช้คำศัพท์และไวยากรณ์ถูกต้องร้อยละ 70 ขึ้นไป

หลักฐานอื่น ๆ

- การทำแบบฝึกหัดในหนังสือเรียนและหนังสือแบบฝึกหัด

นักเรียนประเมินตนเอง

- นักเรียนประเมินการเรียนรู้หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 โดยใช้แบบประเมิน Unit 6Self-Evaluation

ครูนำเสนอโครงสร้างประโยค When is your birthday? โดยอธิบายให้นักเรียนฟังว่า เป็นประโยคที่ใช้ถามวันเกิด และเมื่อตอบให้ตอบเป็นชื่อเดือน เช่น

T: (Subin), when is your birthday?

S1: September./It’s in September.

- ครูสุ่มถามนักเรียนคนอื่น ๆ อีก และให้นักเรียนสลับถามเพื่อนบ้าง เพื่อให้นักเรียนเข้าใจการถาม-ตอบมากยิ่งขึ้น ให้นักเรียนทำแบบฟอร์มการสำรวจวันเกิด โดยใช้คำถาม “When is your birthday?” ในการสอบถาม และบันทึกคำตอบลงในแบบฟอร์มดังตัวอย่าง

เมื่อนักเรียนทำเสร็จแล้วตรวจคำตอบพร้อมกัน หากผิดครูอธิบายและแก้ไขให้ถูกต้อง

- จากประโยคคำถามบนกระดานดำให้นักเรียนสังเกตดังนี้

a) การใช้คำนามพหูพจน์ตามหลัง How many

b) การใช้ do และ does ในประโยคคำถาม

c) การใช้ have ในประโยคคำถาม

ให้นักเรียนดูกรอบ Grammar ในหนังสือเรียน หน้า 41 ประกอบความเข้าใจและชี้ให้นักเรียนดูการตอบคำถาม How many ซึ่งต้องบอกจำนวนตัวเลข (number) เช่น one, two, three
เป็นต้น

ขั้นที่ 3 - ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด ข้อ C และ E กิจกรรม Language in Context ในหนังสือเรียน หน้า 42 เสร็จแล้วครูเฉลยคำตอบ (ดูเฉลยท้ายเล่ม)

ขั้นที่ 4 - ครูทบทวนการใช้ When โดยถามวันเกิดของนักเรียนคนหนึ่งในห้อง แล้วให้นักเรียนคนที่ถูกครูถาม ถามเพื่อนคนอื่นต่อไปเรื่อย ๆ ตามความเหมาะสมของเวลา เช่น

T: When is your birthday?

S1: It’s in December.

S1: When is your birthday?

S2: It’s in July.

ขั้นที่ 5 - ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด ข้อ A-B และ ข้อ D กิจกรรม Language in Context ในหนังสือเรียน หน้า 41-42 เสร็จแล้วครูสุ่มเรียกนักเรียนเฉลยคำตอบ หากผิดครูแก้ไขให้ถูกต้อง (ดูเฉลยท้ายเล่ม)

ขั้นที่ 6 - ครูอธิบายนักเรียนเพิ่มเติมว่าเมื่อถาม When จะเกี่ยวข้องกับเวลาเสมอ อาจเป็นวัน เดือน หรือปี โดยย้ำการใช้คำบุพบท “in” กับชื่อเดือนที่ไม่ระบุวัน เช่น in March, in May เป็นต้น และสำหรับวัน เช่น วันจันทร์ วันอังคาร ใช้คำบุพบท “on” เช่น on Monday, on Wednesday เป็นต้น แล้วครูเขียนคำถาม When do you have English class/Thai class? และ What days do you have English class/Thai class? บนกระดานดำ บอกนักเรียนว่าต้องตอบคำถามเหล่านี้ว่า On Monday/On Wednesday เป็นต้น หลังจากนั้นครูสุ่มเรียกนักเรียนถามคำถามบนกระดานดำ ให้นักเรียนตอบวันต่าง ๆ ตามความเป็นจริง

ขั้นที่ 7 - ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด ข้อ E-G ใน Workbook หน้า 27 เพื่อทดสอบความเข้าใจของผู้เรียน (ดูเฉลยท้ายเล่ม)

กิจกรรมเสริมทักษะ/ประสบการณ์ทางภาษา

- ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มย่อย กลุ่มละ 5-6 คน ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทำปฏิทินของเดือนที่ นักเรียนเรียนเรื่องนี้อยู่บนกระดาษขนาด A3 ในปฏิทินจะต้องใส่วัน เดือน ปี วันหยุดต่าง ๆ และวันที่มีกิจกรรมพิเศษหรือเทศกาลงานเฉลิมฉลอง ซึ่งอาจจะจัดขึ้นภายในโรงเรียนหรือใน ท้องถิ่น เช่น วันก่อตั้งโรงเรียน วันงานประเพณีของจังหวัด และอื่น ๆ โดยให้นักเรียนวาดรูป ประกอบหรือตกแต่งด้วยรูปภาพต่าง ๆ หรือรูปถ่ายให้สวยงาม


บทเรียนย่อยที่ 4                                                                        เวลา 3 ชั่วโมง

สิ่งที่นักเรียนเรียนรู้และปฏิบัติได้

1. เข้าใจบทอ่านเกี่ยวกับครอบครัวที่มีชื่อเสียง (ต 1.1 ม.1/4)

2. เขียนบรรยายเกี่ยวกับสมาชิกแต่ละคนในครอบครัว(ต 1.3 ม.1/1)

กิจกรรมการเรียนรู้

ขั้นที่ 1 - นำเข้าสู่บทเรียน

- ครูใช้รูปบุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น นักกีฬา นักร้อง นักแสดง สอนความหมายคำศัพท์ famous เช่น ติดรูปนักยกน้ำหนักบนกระดานดำพร้อมเขียนประโยค Pawina is a famous weightlifter. ติดรูป David Beckham พร้อมเขียนประโยค David Beckham is a famous football player. แล้วให้นักเรียนดูรูปภาพในหนังสือเรียน หน้า 43 พร้อมทั้งหัวเรื่อง Famous Families ให้นักเรียนเดาว่าบุคคลในรูปภาพมีอาชีพอะไร (singer, actor, actress) บุคคลทั้งหมดเป็น famous actor/actress/singer หลังจากนั้นให้นักเรียนบอกความหมายของคำว่า famous

- ครูยกตัวอย่างบุตรหลานผู้มีชื่อเสียงในท้องถิ่นที่นักเรียนรู้จัก สนทนากับนักเรียนว่าบุคคลเหล่านี้ เป็นที่รู้จักกันทั่วไปเพราะตนเองหรือเพราะพ่อแม่ ถามนักเรียนว่าการเป็นลูกหลานของผู้มีชื่อเสียงดีหรือไม่ดีอย่างไร นักเรียนชอบแบบไหน ถามนักเรียนด้วยว่า ถ้านักเรียนอยากจะมีชื่อเสียง นักเรียนเลือกที่จะมีชื่อเสียงด้วยความสามารถของตนเอง หรืออาศัยบารมีของครอบครัว ในขณะที่สนทนาครูสอนความหมายของคำว่า talent ด้วย

ขั้นที่ 2 - ครูเปิดซีดีบันทึกเสียงกิจกรรม Reading ในหนังสือเรียน หน้า 43 ให้นักเรียนฟังพร้อมกับดูรูปอย่างเดียวในครั้งแรก

- ครูเปิดซีดีบันทึกเสียงกิจกรรม Reading ในหนังสือเรียน หน้า 43 ให้นักเรียนฟังอีกครั้ง พร้อมกับสุ่มเรียกนักเรียนอ่านออกเสียงตาม โดยครูหยุดเป็นระยะ

ขั้นที่ 3 - ครูอธิบายคำถามในกิจกรรม About the Reading ในหนังสือเรียน หน้า 43 ให้นักเรียนเข้าใจแล้วให้นักเรียนอ่านเรื่อง Famous Families ในหนังสือเรียน หน้า 43 เพื่อหาคำตอบกิจกรรม About the Reading ในหนังสือเรียน หน้า 43 เสร็จแล้วครูสุ่มเรียกนักเรียนเฉลยคำตอบ หากผิดครูแก้ไขให้ถูกต้อง (ดูเฉลยท้ายเล่ม)

-ครูอาจอธิบายความหมายของข้อความเหล่านี้ในบทอ่านเพิ่มเติมว่า

Is it the name? (name last name) เป็นเพราะชื่อเสียงเรียงนาม/นามสกุล

Is it their talent? เป็นเพราะความสามารถ

Or is it the two?(the two หมายถึง the name + talent) หรือเป็นเพราะทั้งสองอย่าง

(จึงทำให้บุคคลเหล่านี้ประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียงโด่งดัง)

- ครูประเมินความเข้าใจในการอ่านของนักเรียนจากจำนวนคำตอบที่ถูกต้องโดยใช้เกณฑ์การประเมินการตอบคำถาม

ขั้นที่ 4 - ให้นักเรียนดูคำถามทั้ง 7 ข้อในกิจกรรม Speaking ในหนังสือเรียน หน้า 43 ครูอธิบาย
คำถามแต่ละข้อให้นักเรียนเข้าใจ แล้วให้นักเรียนเขียนคำตอบสั้น ๆ เกี่ยวกับตนเองและครอบครัว โดยครูคอยช่วยเหลือ เช่น

- How many brothers and sisters do you have?

- One brother. (ถ้าไม่มี ให้ตอบว่า I’m the only child. (ฉันเป็นลูกคนเดียว) และข้ามไปตอบข้อ 5-7)

ขั้นที่ 5 - ให้นักเรียนจับคู่สนทนาโดยใช้คำถามทั้ง 7 ข้อในกิจกรรม Speaking ในหนังสือเรียน หน้า 43สลับกันถาม-ตอบ

ขั้นที่ 6 - ครูสุ่มเรียกนักเรียนบางคู่ออกมาสนทนาถาม-ตอบคำถามในกิจกรรมSpeaking ในหนังสือเรียน หน้า 43 หน้าชั้นเรียน เพื่อดูการออกเสียงและความกล้าแสดงออกของนักเรียน

ขั้นที่ 7 - ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด ข้อ H-I ใน Workbook หน้า 28 เพื่อทดสอบความเข้าใจ (ดูเฉลยท้ายเล่ม)

ขั้นที่ 8 - ให้นักเรียนทำแผนภูมิลำดับเครือญาติของครอบครัวตนเอง (family tree) โดยดูตัวอย่างจากกิจกรรม Speaking ในหนังสือเรียน หน้า 43 (นักเรียนอาจวาดเป็นรูปการ์ตูนหรือนำภาพถ่ายมาติดก็ได้) แล้วจับคู่ผลัดกันถาม-ตอบเกี่ยวกับ family tree โดยใช้ตัวอย่างคำถามต่อไปนี้

S1: Who is this?

S2: This is my father.

S1: What is his name?

S2: His name is Tongchai.

ทำเช่นนี้จนครบทุกรูป โดยครูคอยดูแลช่วยเหลือและแก้ไขเมื่อนักเรียนทำผิด

ขั้นที่ 9 - ให้นักเรียนนำรูปถ่ายบุคคลในครอบครัวของตนเองมาเขียนบรรยาย เพื่อทำกิจกรรม Project  เช่น

This is my father.

His name is Thongchai.

He is fifty years old.

He is a policeman.

-ครูรวบรวมชิ้นงานทั้งหมดติดบนป้ายนิเทศ แล้วทั้งครูและนักเรียนช่วยกันประเมินผลงานประโยคบรรยายแต่ละบุคคลในครอบครัวจากการใช้คำศัพท์และไวยากรณ์ถูกต้องร้อยละ 70 ขึ้นไป

ขั้นที่ 10 -ให้นักเรียนทำแบบประเมิน Self-Evaluation เพื่อประเมินตนเองเกี่ยวกับเนื้อหาที่ได้เรียนไปแล้ว

แบบทดสอบ

1. ครูสุ่มถามนักเรียนคนอื่น ๆ อีก และให้นักเรียนสลับถามเพื่อนบ้าง เพื่อให้นักเรียนเข้าใจการถาม-ตอบมากยิ่งขึ้น ให้

นักเรียนทำแบบฟอร์มการสำรวจวันเกิด โดยใช้คำถาม “When is your birthday?” ในการสอบถาม และบันทึกคำตอบลง

ในแบบฟอร์มดังตัวอย่าง

เมื่อนักเรียนฝึกกิจกรรมนี้เสร็จแล้วให้นักเรียนนำข้อมูลในตารางมาเขียนเป็นประโยค เช่น

1. My birthday is in June.

2. Subin’s birthday is in September.etc.


2. ครูเขียนคำสำคัญบนกระดานดำ แล้วสุ่มเรียกนักเรียนออกมาทำให้เป็นประโยคที่สมบูรณ์ตามตัวอย่าง

3. ให้นักเรียนทำบัตรเชิญมางานวันเกิด เพื่อส่งให้เพื่อนหรือผู้ที่รู้จัก เช่น

โดยนักเรียนอาจหารูปภาพต่าง ๆ จากอินเทอร์เน็ตมาตกแต่งบัตรเชิญได้

———————————————————————

————– ขอขอบคุณ สำหรับการติดตาม ————–

หมายเลขบันทึก: 576902เขียนเมื่อ 25 กันยายน 2014 13:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 กันยายน 2014 21:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท