วันที่สิบเอ็ด


วันนี้ตื่นตีสามได้ตามอัตโนมัติของร่างกาย ไม่มีอาการงัวเงีย

อาการที่มักปวดเมื่อยซีกขวา มีเบาบาง ไม่มาก  ต่างจากทุกวันที่ตื่นนอนขึ้นมาจะมีอาการปวดศีรษะและปวดเมื่อยตามตัวโดยเฉพาะซีกขวา

ทำวัตรเช้าสวดมนต์ไหว้พระเสร็จก็นั่งสมาธิภาวนาต่อ

ประมาณตีสี่ก็เข้าสู่กระบวนการถอดถอนพิษ (Toxin) เริ่มด้วย...

การพอก = สิบวันที่ผ่านมาข้าพเจ้าใช้วิธีพอกถอนพิษ ซึ่งส่วนผสมในการพอกก็มี ผงถ่าน (ถ่านที่เราใช้ในการหุงต้ม)บดให้ละเอียด ผสมดินสอพอง ผสมน้ำมันเขียว พอกตามบริเวณที่ปวด ทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาที แล้วค่อยล้างออกอาการปวดเมื่อยก็จะลดลง ซึ่งข้าพเจ้าทำเช้า - เย็น ทุกวันติดต่อกันสิบวัน ให้ผลดีมาก ไม่ต้องไปพึ่งการนวด

การสวนทวารด้วยสมุนไพรฤทธิ์เย็น = ใช้น้ำอุ่นผสมน้ำสกัดฤทธิ์เย็นเพื่อทำ Detox ช่วยกระบวนการตับขับพิษระบายพิษ (พิษในที่นี้หมายถึง ของเสียต่างๆที่ตับและร่างกายขับออกไม่ได้) ซึ่งการอักเสบคือ ความร้อน (ธาตุไฟ) เกิน หลักการก็คือ การทำความร้อนให้ลดลง ปรับสมดุลให้เกิดขึ้นภายในร่างกาย

ร่างกายเราประกอบด้วย ธาตุ๔

ตอนนี้สภาวะร่างกายมีธาตุไฟเกิน และสังเกตพบว่า มีสภาวะลมเกินด้วย

หลังจากที่เสร็จภาระกิจส่วนตัว

ก็ออกมาทำกับข้าวเตรียมถวายพระ เริ่มต้นน้ำ RC ข้าวที่เหลือ นำไปหุงกับข้าวกล้อง

จากนั้นก็เริ่มเตรียมเมี่ยงผัก มีผักโขม ใบมะรุม ใบชะพู ผักสลัด มะละกอเกือบสุก เส้นหมี่ขาว

ข้าวหม้อเล็กหุงข้าวซ้อมมือและแบ่งข้าวมาทำข้าวต้มขาวใส่เกลือด้วย

กระบวนการสุดท้าย คือ ทำน้ำคลอโรฟิลด์(นำผักสมุนไพรฤทธิ์เย็นหลายๆอย่างคั้นเอาน้ำ)ใช้ดื่มก่อนทานข้าว

และวันนี้เป็นวันที่สองของการขึ้นรับข้าวที่ลานธรรม 

ข้าพเจ้าเลือกดื่มน้ำคลอโรฟิลด์ก่อนทานข้าว แล้วทานมังคุดกับกล้วย แล้วก็ทานเมี่ยงผัก จากนั้นก็ทานข้าวตามปกติ วันนี้ดีมากทานกับผัดวุ้นเส้นผัดใส่เห็ด การทานแบบนี้สบายตัวสบายท้อง

แต่ก็เกิดความสงสัยอยู่ว่า " ผักโขม" เป็นฤทธิ์ร้อนหรือฤทธิ์เย็น

จึงถามพี่แกะ และพี่แกะจึงเรียนถาม อ.หมอเขียว ได้คำตอบมาว่า "

ดิบมีสารคล้ายไซยาไนด์มีฤทธิ์ร้อนเบื่อเมา ทานเป็นบางครั้งเป็นเหมือนวัคซีน เป็นพิษดับพิษ

เมื่อผ่านความร้อน พิษดังกล่าวถูกทำลาย กลายเป็นฤทธิ์เย็นครับ"

ส่วนใบมะรุมก็เช่นเดียวกัน

อาการ...และสุขภาพทั้งวันโดยรวมดี

ไม่มีอาการคล้ายทานผักคะน้าดั่งเมื่อวาน พาเด็กๆทำขนมได้ทั้งวันกว่า 400 ชิ้น

กำลังกายและพลังดีมาก

และข้าพเจ้าเชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า " พลังจิตอันเบิกบาน" ของเด็กๆ คือยาเย็นที่วิเศษสุดยอด เพราะใจของเด็กเป็นใจที่สะอาด เปื้อนด้วยกิเลสน้อยมาก เสียงหัวเราะของเด็กๆ และพฤติกรรมของเขาสะท้อนถึงความไร้เดียงสา

...

๒๙ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๗

หมายเลขบันทึก: 571436เขียนเมื่อ 1 กรกฎาคม 2014 14:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 กรกฎาคม 2014 14:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท