ไตรสิกขา กับ I WE IT ...
ไตรสิกขาถ้าเราย้อนมองไปอีกครั้งหนึ่ง กระผมเองนั้นก็นึกนึง ทฤษฎีหนึ่งที่ ชื่อว่า I WE IT ... ซึ่งถ้าเราลองมาจับทั้ง 2 อย่างนี้ให้เข้าด้วยกัน เอาทฤษฎีในการจัดการกับความรู้เข้าด้วยกันกับทฤษฎีการจัดการตนเองเเละจัดการโลก จะเห็นดังภาพ
I คือ จุดประสงค์หรือเป้าหมายหรือความคาดหวังที่เรามีที่อยากให้เกิดขึ้น ซึ่งวัตถุประสงค์นี้มาจากหลายๆอย่างหรือมาจากอย่างเดียวก็ได้ อาจมาจากศีลที่เป็นกาย
กายเป็นสังคม (อันได้เเก่ ครอบครัว ชุมชน สังคม เพื่อน โรงเรียน สถาบัน หรือประเทศชาติ)
เป็นวัฒนธรรม (อันได้เเก่ ความหลัง จุดเปลี่ยน เเละปัจจุบัน)
เป็นสิ่งเเวดล้อม (อันได้เเก่ ธรรมชาติสร้าง ทั้งชีว เเละกาย เเละมนุษย์สร้างทั้ง รูปเเละนาม)
เป็นเศรษฐกิจ (อันได้เเก่ ปัจจัย ๗ คือ อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค เงินทอง รถขับ เเละสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆในชีวิต)
หรือ I อาจมาจากสมาธิที่เป็นผลร่วมจาก ฉันทะ วิริยะ จิตตะ เเละวิมังสา หรือ I อาจมาจากปัญญาที่เป็นการเกิดเเสงสว่างขึ้นในความคิดด้วยกระบวนการ อริยสัจ๔ ได้เเก่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ เเละมรรค จนเกิดปัญญา เเต่อย่างไรก็ดี คำว่า I นั้นเกิดได้ในทั้ง 3 ด้าน เกิดได้จากศีล จากสมาธิ เเละจากปัญญา เมื่อ I เกิดหรือเป้าหมายเกิดเเล้วก็นำมาสู่วิธีการ คือ WE
WE คือ กุญเเจสำคัญ เป็นวิธีการ เป็นกระบวนการหรือลำดับขั้นตอนในการทำงานเพื่อให้บรรลุผลตามเป้าหมาย (I) เมื่อ I เกิดขึ้นจากไตรสิกขาในด้านต่างๆเเล้ว WE ที่เป็นวิธีการจะดำรงค์เป้าหมายเพื่อดำเนินงาน ดำรงค์จิตใจเพื่อดำเนินงาน เเละดำรงค์หลักปัญญาเพื่อดำเนินงานไปอย่างถูกทาง WE ต้องดำรงค์ทั้ง 3 อย่างนี้จึงจะมั่นคงเเละหนักเเน่น
IT คือ ผลที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจาก I ที่เป็นเป้าหมาย นำมาสู่ WE ที่เป็นวิธีการขึ้นไปสู่เป้าหมาย เเล้วจนเกิดผล คือ IT ในอิท นี้เป็นผลที่เกิดขึ้นที่จะ Feedback กลับไปสู่ศีล สู่สมาธิ เเละสู่ปัญญา
สู่ศีล นั้นเป็นการสะท้อนกลับมายังสังคมฯ ที่อยากอยากพัฒนาหรือทำให้ดีขึ้น อาจเกิดผลในด้านปริมาณเเละคุณภาพ ทั้งมากเเละน้อย อันนี้ขึ้นอยู่กับวิธีการเเละบริบทประกอบด้วยศักนภาพของเราด้วย เป็นการดึงผลพวงเเห่ง it เข้ามาสู่ ศีลหรือกาย เเล้วกลับมายัง I ใหม่อีกครั้งหนึ่ง
สู่สมาธิ นั้นเป็นการสะท้อนกลับจิตใจของตนเองให้มีเเรงบันดาลใจในการ WE มายิ่งขึ้นไปอีก ทั้งเกิดกับตนเอง เกิดกับเพื่อนร่วมงาน เกิดกับครอบครัว ฯ ที่เป็นซึ่งลพังสำคัญในการทำงาน เป็นการดึงผลเเห่ง it เข้ามาสู่สมาธิเเล้วกลับมายัง I ใหม่
สู่ปัญญา นั้นเป็นการสะท้อนกลับเพื่อต่อเสริมเติมจุดด้อย เป็นการต่อยอดจากผลให้เกิดผลต่อไปในอนาคต เป็นการดึงผลเเห่ง IT มาเข้าสู่ปัญหาเเล้วเข้าไปหา I ใหม่
สู่ผล (IT) เมื่อเริ่มจาก I -->WE-->IT -->ไตรสิกขา(ศีล,สมาธิ,ปัญญา) -->I -->WE-->IT -->........ เเล้วก็เป็นอยู่เช่นนี้ตลอด
.
.
.
.
.
.
เป็นการนำไตรสิกขามาประยุกต์ได้ดีเลยนะครับ