ที่มา:www.manager.co.th
การละเมิดสิทธิในชีวิตอื่นๆ
สำหรับการคุ้มครองสิทธิในร่างกายก็เช่นกัน รัฐธรรมนูญและกฎหมายให้ความคุ้มครอง การกระทำใดที่ก่อให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจของบุคคลนั้น ไม่ว่าจะเป็นการกระทำโดยเจตนาหรือโดยประมาท กฎหมายอาญาได้ให้ความคุ้มครองสิทธิในร่างกายอีกหลายประการ เช่น การทำให้บุคคลเสียเสรีภาพในร่างกาย การข่มขู่ให้ผู้อื่นกระทำการที่ผู้นั้นไม่ประสงค์ การจับกุมคุมขังโดยไม่มีอำนาจ การจับตัวไปเรียกค่าไถ่ การบังคับให้เป็นทาส การจับคนไปทดลองยา การตัดอวัยวะของคนไปขายโดยไม่ได้รับความยินยอม การล่อลวงหญิงไปขาย การฉุดคร่าอนาจารหญิง การข่มขืนการกระทำที่เป็นการทรมาน การทารุณกรรม รวมถึงการลงโทษที่โหดร้ายหรือไร้มนุษยธรรม
หากพิจารณาถึงอาชญากรรมข้ามชาติ เช่นขบวนการค้ามนุษย์ที่จับชาวโรฮิงญาไป ถือเป็นการลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์รูปแบบหนึ่ง คือ การหลอกหลวงเพื่อเอาเขาไปเป็นทาส ต้องถูกทรมาน กดขี่ข่มเหง อาจถูกข่มขืนกระทำชำเรา เหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ทั้งๆที่มนุษย์ทุกคนมีชีวิตจิตใจ มีความเป็นมนุษย์ มีสิทธิเสรีภาพอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกันทุกคน ดังนั้น ขบวนการค้าชาวโรฮิงญานี้ เป็นการละเมิดสิทธิมนุยชนในชีวิตอย่างหนึ่ง คือการลดทอนศักดิ์ศรีความเป็มนุษย์ทั้งในเรื่องการละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่นอย่างร้ายแรงและการเอาคนลงเป็นทาสตามปฎิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนดังต่อไปนี้
ข้อ 1. มนุษย์ทุกคนเกิดมามีอิสระและความเสมอภาคกัน ควรปฏิบัติต่อกันด้วนเจตนารมณ์แห่งภราดรภาพ
ข้อ3คนทุกคนมีสิทธิในการดำรงชีวิต เสรีภาพ และความมั่นคงแห่งตัวเอง
ข้อ 4. บุคคลใดๆจะถูกนำไปเป็นทาสไม่ได้ และห้ามการค้าทาสทุกรูปแบบ
ข้อ5 บุคคลใดๆ จะถูกทรมาน หรือได้รับผลปฏิบัติ หรือการลงโทษที่โหดร้ายผิดมนุษยธรรม หรือต่ำช้าไม่ได้
ประเทศไทยมีพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์พ.ศ. ๒๕๕๑และในรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550ได้บัญญัติเกี่ยวกับสิทธิในชีวิต ดังนี้
มาตรา 4 ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ และเสรีภาพของบุคคลย่อมได้รับการคุ้มครอง
มาตรา32 บุคคลย่อมมีสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย
การทรมาน ทารุณกรรม หรือการลงโทษด้วยวิธีการโหดร้าย หรือไร้มนุษยธรรม จะกระทำมิได้ แต่การลงโทษตามคำพิพากษาของศาล หรือตามที่กฎหมายบัญญัติไม่ถือว่า เป็นวิธีการโหดร้าย หรือไร้มนุษยธรรม ตามความในวรรคนี้
การคุมขังบุคคลจะกระทำมิได้ เว้นแต่มีคำสั่ง หรือหมายของศาล หรือมีเหตุอย่างอื่น ตามที่กฎหมายบัญญัติ
การค้นตัวบุคคล หรือกระทำอันใดกระทบต่อสิทธิ เสรีภาพ ตามวรรคหนึ่ง จะกระทำมิได้ เว้นแต่มีเหตุตามที่กฎหมายบัญญัติ
ในกรณีที่มีการกระทำซึ่งกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพตามวรรคหนึ่ง ผู้เสียหาย พนักงานอัยการ หรือบุคคลอื่นใด เพื่อประโยชน์ของผู้เสียหาย มีสิทธิร้องต่อศาล เพื่อให้สั่งระงับ หรือเพิกถอนการกระทำ เช่นว่านั้น ร่วมทั้งจะกำหนดวิธีการตามความเหมาะสม หรือการเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นด้วยก็ได้
อ้างอิง
1. ปกป้อง วงษ์สรรพ์ ,ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน(UDHR) : ความเป็นมาและสาระสำคัญ, http://www.l3nr.org/posts/519241
2.ธัญวลี อุณหเสรี ,สิทธิในชีวิตและร่างกาย, http://www.l3nr.org/posts/465925
3.รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550,http://www.ombudsman.go.th/10/documents/law/Consti...
สืบค้นเมื่อ 17 พฤษภาคม 2557
ไม่มีความเห็น