กฎหมายไทยว่าด้วยสิทธิมนุษยชนในสังคมไทย
โทษ ประหารชีวิตนั้นเป็นบทลงโทษลักษณะหนึ่งที่มีความรุนแรงที่สุดของโทษทางอาญา ของประเทศไทยในปัจจุบัน ซึ่งไทยเป็นเพียง 1 ใน 58 ประเทศทั่วโลกเท่านั้นที่ยังมีโทษประหารชีวิต จึงเป็นที่น่าพิจารณาว่าเหตุใดประเทศส่วนใหญ่ในโลกมีการยกเลิกโทษดังกล่าว แต่เหตุใดยังคงมีบางประเทศที่กำหนดโทษดังกล่าวไว้
การ กำหนดบทลงโทษต่างๆแก่ผู้กระทำผิดนั้นมีวัตถุประสงค์ตามทฤษฎีต่างๆหลายประการ ได้แก่ ทฤษฎีการลงโทษเพื่อทดแทนความผิด (Retributive Theory)ทฤษฎีการลงโทษแบบอรรถประโยชน์(Utilitarian Theory)ทฤษฎีการลงโทษเพื่อแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิด (Rehabilitative Theory)และทฤษฎีการลงโทษเพื่อปกป้องคุ้มครองสังคม (Social Protection Theory)
เมื่อพิจารณาตามวัตถุประสงค์ของ การลงโทษแล้วจะพบว่าโทษประหารชีวิตนั้นสามารถบรรลุวัตถุประสงค์เพียงอย่าง เดียวคือเป็นการปกป้องคุ้มครองสังคมเพราะเป็นการกันบุคคลผู้กระทำผิดให้ออก ไปจากสังคมได้อย่างถาวร แต่ไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์อื่นใดตามทฤษฎีในการลงโทษผู้กระทำผิดดังที่ ได้กล่าวมาเลย
หากพิจารณาในแง่ของการยับยั้งหรือ สร้างความกลัวให้แก่ผู้ที่คิดจะกระทำความผิดรายหลัง ก็จะพบว่าการกำหนดให้มีโทษดังกล่าวนั้นมิได้ทำให้การกระทำความผิดลดน้อยลง แต่อย่างใดอันมีปรากฏในงานวิจัยทางวิชาการจากหลายประเทศ
ทั้งเมื่อพิจารณาตามหลักสิทธิมนุษยชนก็ จะพบว่าเป็นวิธีการลงโทษที่กระทบโดยตรงต่อสิทธิในการมีชีวิตอันเป็นสิทธิ ขั้นพื้นฐานที่บุคคลทุกคนต้องมีในฐานะที่เกิดเป็นมนุษย์ อันเป็นสิทธิที่ไม่สามารถถูกผู้ใดพรากไปได้หรือแม้แต่ตัวผู้ทรงสิทธิเองก็ ไม่อาจสละสิทธิในการมีชีวิตไปได้เช่นกัน แม้ว่าบุคคลผู้ต้องโทษประหารชีวิตนั้นต้องเป็นบุคคลที่กระทำความผิดรุนแรง แต่คำจำกัดความของคำว่าความผิดที่รุนแรงนั้นก็มีความแตกต่างกันไปในแต่ละ ประเทศแต่ละสังคม อันเป็นเพียงการกำหนดขึ้นของผู้มีอำนาจในการตรากฎหมาย
จึงเป็นที่น่า พิจารณาเป็นอย่างยิ่งว่าบุคคลเหล่านั้นมีสิทธิที่จะกำหนดบทลงโทษที่มองข้าม สิทธิในการมีชีวิตของมนุษย์อันเป็นคุณค่าขั้นพื้นฐานของมนุษย์ได้หรือไม่
นิภัทร สันติสัตยพรต 5501680994
ไม่มีความเห็น