ผมกำลังอ่านทบทวนหนังสือ “การบริหารงานวิจัย และแนวคิดจากประสบการณ์” ของท่านอาจารย์หมอวิจารณ์ พานิช เพื่อให้ได้แนวคิดไว้พูดคุยกับรองคณบดีฝ่ายวิจัยที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่จากคณะต่าง ๆ ตามที่ผมเคยเล่าให้ฟังแล้ว <Link> และ <Link>
ยังมีอีก 4 ประเด็นหลัก ๆ ที่ผมอยากจะคุย ด้วย แต่คงต้องอาศัยอ้างอิงจากแนวคิดในหนังสือที่ผมกล่าวข้างต้น
เรื่องแรก เป็นเรื่องความแตกต่างของภารกิจของนักวิจัยและผู้บริหารงานวิจัย
เรื่องที่สอง เป็นความแตกต่างของความภาคภูมิใจของนักวิจัยและผู้บริหารงานวิจัย
เรื่องที่สาม เป็นเรื่องที่ว่านักบริหารงานวิจัยต้องทำงานเต็มเวลา
เรื่องที่สี่ เป็นเรื่องจรรยาบรรณของนักบริหารงานวิจัย
สำหรับครั้งนี้เป็นเรื่องที่สามครับ
"นักบริหารงานวิจัยต้องทำงานเต็มเวลา
นักบริหารงานวิจัยในประเทศไทยต้องทำงานในลักษณะ “เข็นครกขึ้นภูเขา” คือ ทำงานทวนกระแสค่อนข้างมาก จึงต้องใช้ความอดทนไหวพริบ และกุศโลบายต่างๆ เพื่อผลักดันให้งานวิจัยสามารถดำเนินการลุล่วงไปได้
การทำงานดังกล่าว จึงต้องใช้ความคิดริเริ่มสูง ต้องทุ่มเทความคิดและทุ่มเทเวลาทำงานร่วมกับ “แนวร่วม” หรือหุ้นส่วน คือ นักวิจัย สถาบันวิจัย “ผู้ใช้” และสาธารณชน นักบริหารงานวิจัยจึงจำเป็นต้องทำงานเต็มเวลาซึ่งการทำงานในที่นี้ หมายถึง การทำงานของสมอง ใช้สมองครุ่นคิดหาวิธีการอยู่ตลอดเวลา
การจ้างงานนักบริหารงานวิจัยในสถาบันให้ทุนสนับสนุนการวิจัยควรมีเงื่อนไขการทำงานเต็มเวลาดังกล่าว และกำหนดค่าตอบแทน รวมทั้งผลงานที่คาดหวังตามเงื่อนไขดังกล่าว"
วิบูลย์ วัฒนาธร
ไม่มีความเห็น