เคยมีผู้รู้ ผู้ทรงภูมิความรู้ ท่านมองการณ์ไกลให้ข้อคิดร่วม 20 ปี ว่า ผู้คนยุคต่อไปจะใช้ภาษาสั้น ๆ แล้วคนจะอ่านน้อย สมาธิสั้น เฉลียวฉลาดแต่ขาดความอดทน มานึกตรึกตรองดูคำกล่าวของท่านไม่ผิด ที่น่าสนใจท่านมองการณ์ไกลได้อย่างไร
มานึกดูอาจเป็นเพราะท่านเคยไปต่างประเทศมาก่อน แต่ก็มีผู้คนมากมายไปต่างประเทศมาก่อน เป็นคนในแวดวงการศึกษา การพัฒนาประเทศชาติ ท่านเหล่านั้นไม่เห็นสื่อสารเพื่อเตรียมการ หรือเตือนสติผู้คน ออกแบบวางมาตรการป้องกันความเสียหาย
จึงมองว่า ในหลายร้อยคน หลายพันคนที่เป็นผู้รู้ ๆ มาแล้วเก็บความรู้น้้นไว้ ไม่ยอมถ่ายทอด รู้มาเพื่อประโยชน์ส่วนตน การที่จะแสดงทรรศนะหรือแสดงข้อห่วงใยไว้เป็นแนวทาง ดูเหมือนผู้รู้ที่กล่าวมาไม่มีความกล้าหาญที่จะสื่อสาร ว่า ภาษาสั้น ๆ เกิดผลดี ผลเสียอย่างไร ?
มานึกดูกัน ภาษาสั้น ๆ มองแง่ดี เป็นความรวดเร็ว คุ้มค่า คุณราคา หากเป็นกลยุทธในการโฆษณาต่าง ๆ เพราะภาษาที่ยืดยาวเป็นการฟุ่มเฟื่อน หากมองแง่ร้าย ภาษาที่สั้น หากผู้บริโภคจดจำแล้วอาจทำให้เขาขาดความยับยั้งช่างคิด จดจำผิด ๆ นำไปใช้ผิด ๆ คนรักกัน คนเกลียดชั่งกัน คนเราฆ่าฟันทำร้ายกันก็เกิดมาจากการใช้ภาษาสั้น ๆ
ในสังคมแห่งปัญหา หรือสังคมอุดมปัญญา จำเป็นที่ผู้คนในสังคมจะต้องรู้กาลเทศะ ว่า ภาษาสั้น ๆ หรือภาษายาว ๆ เมื่อไหร่ เนื่องจากในบางเรื่องหรือเรื่องสำคัญ ๆ จะใช้ภาษาสั้น ๆ ไม่ได้เด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเมือง การปกครอง เอามันปากว่าบ้านเมืองพินาศได้ครับ : 31 ธันวาคม 2556
ไม่มีความเห็น