ความรู้ที่ฉันมีก่อนออกไปสอนน้องๆ


บทที่ 10
อินเทอร์เน็ต
10.1 อินเทอร์เน็ตคืออะไร
อินเทอร์เน็ต คือ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกนั เป็นจา นวนมากครอบคลุมไปทวั่ โลก
โดยอาศัยโครงสร้างระบบสื่อสารโทรคมนาคม เป็ นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูล มีการประยุกต์ใช้งาน
หลากหลายรูปแบบ อินเทอร์เน็ตเป็นท้งัเครือข่ายของคอมพิวเตอร์ และเครือข่ายของเครือข่าย เพราะ
อินเทอร์เน็ตประกอบด้วย เครือข่ายยอ่ ยเป็นจา นวนมากต่อเชื่อมเขา้ดว้ยกนั ภายใตม้ าตรฐานเดียวกนั จนเป็ น
สังคมเครือข่ายขนาดใหญ่อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายสาธารณะ ที่ไม่มีผูใ้ดเป็นเจา้ของ ทา ให้การเขา้สู่
เครือขา่ ยเป็นไปไดอ้ยา่ งเสรีภายใตก้ ฎเกณฑบ์ างประการที่กา หนดข้ึน เพื่อไม่ใหเ้กิดความสับสน และวุน่ วาย
จากการเชื่อมต่อจากเครือข่ายทวั่ โลก
10.2 พัฒนาการของอินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายที่พฒั นามาจากอาร์พาเน็ต (ARPAnet) ซ่ึงเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ภายใตค้วามรับผิดชอบของหน่วยงาน โครงการวิจยัข้นั สูง (Advanced Research Projects Agency : ARPA )
ในสังกัดกระทรวงกลาโหมของประเทศสหรัฐอเมริกา อาร์พาเน็ต เป็นเครือข่ายทดลองที่ต้งัข้ึนเพื่อ
สนับสนุนงานวจิยัทางดา้นทหารที่มีผลมาจากสงครามเยน็ ระหวา่ งกลุ่มประเทศใน ค่ายคอมมิวนิสต์กบัค่าย
เสรีประชาธิปไตย ซ่ึงสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศผนู้ า ในค่ายเสรีประชาธิปไตย ที่ต้องพัฒนาเทคโนโลยีด้าน
การทหารใหล้้า หนา้กวา่ สหภาพโซเวยีต
พ.ศ. 2512
การพัฒนาอาร์พาเน็ตได้ด าเนินการมาเป็นลา ดบัและไดม้ีการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ถึงกนั เป็น
คร้ังแรก โดยใชม้ินิคอมพิวเตอร์รุ่น 316 ของฮนั นีเวลล์เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย (host) และมีเครื่อง
คอมพิวเตอร์ที่ใชร้ะบบปฏิบตัิการต่างกนัและอยใู่ นสถานที่4 แห่งคือ
1) มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียที่ลอสแอนเจลิส
2) สถาบันวิจัยสแตนฟอร์ด156 คอมพิวเตอร์ในการสอนระดับประถมศึกษา
3) มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียที่ซานตา บาร์บารา
4) มหาวิทยาลัยยูทาห์
พ.ศ. 2515
อาร์พาเน็ตเป็นเครือข่ายที่ประสบความส าเร็จอยา่ งมากทา ให้มีหน่วยงานอีกหลายแห่งเชื่อมต่อ
เพิ่มมากข้ึน ทา ให้อาร์พาเน็ต กลายเป็นเครือข่ายที่ใชง้านไดจ้ริง หน่วยงานอาร์พามีการปรับปรุงใหม่ในปีน้ี
และเรียกชื่อใหม่วา่ ดาร์พา (Defense Advanced Research Project Agency : DARPA)
พ.ศ. 2518
ความรับผดิชอบอาร์พาเน็ตใหก้ บั หน่วยการสื่อสารของกองทพั ในปีพ.ศ. 2518
พ.ศ. 2526
เครือข่ายอาร์พาเน็ตน้นั ไดม้ีแผนการขยายเครือข่ายและเปิดการเชื่อมต่อกบั เครือข่ายอื่นโดยใช้
เกณฑ์วิธีหรือโพรโทคอล (protocol) ชื่อ คาห์น-เซอร์ฟ (Kahn-Cerf Protocol) ตามชื่อของผู้ออกแบบคือ
บ๊อบ คาห์น (Bob Kahn) และวินตัน เซอร์ฟ (Vinton Cerf) ซ่ึงก็คือโพรโทคอลทีซีพี/ไอพี(Transmission
Control Protocol/ Internet Protocol : TCP/IP) ที่รู้จกักนั ในปัจจุบนั และไดก้า หนดให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทุก
เครื่องที่ตอ้งการต่ออินเทอร์เน็ตโดยใชโ้พรโทคอลน้ี
ในปลายปี พ.ศ. 2526 อาร์พาเน็ตไดแ้ บ่งออกเป็นสองเครือข่ายคือเครือข่ายวิจยั (ARPAnet)
และเครือข่ายของกองทพั (MILNET) โดยในช่วงตน้ น้นั เครือข่ายท้งัสองเป็นเครือข่ายแกนหลกั ส าคญั ภายใน
ทวีปอเมริกาเหนือ และในช่วงเวลาต่อมาหน่วยงานหลกั ของสหรัฐที่มีเครือข่ายที่ใชโ้พรโทคอลทีซีพี/ไอพี
(TCP/IP) เชื่อมต่อเขา้มา เช่น เอ็นเอฟเอสเน็ต (NFSNet) และเครือข่ายของนาซา ท าให้มีการปรับเปลี่ยนชื่อ
จากอาร์พา เป็ น เฟเดอรัล รีเสิร์ช อินเทอร์เน็ต และเปลี่ยนไปเป็น ทีซีพี/ไอพีอินเทอร์เน็ต จนกระทงั่ เป็น
อินเทอร์เน็ต ในปัจจุบันบทที่ 10 อินเทอร์เน็ต 157
พัฒนาการของอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย
ส าหรับประเทศไทย เริ่มเชื่อมโยงเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตต้ังแต่ปีพ.ศ. 2532 โดย
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ต่อเชื่อมโยง เพื่อส่งไปรษณียอ์ิเล็กทรอนิกส์กบั ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งท าให้
ระบบไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์เชื่อมกับอินเทอร์เน็ตเป็นคร้ังแรก ในช่วงระยะเวลาเดียวกันน้ี
กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดลอ้ ม โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์
แห่งชาติไดม้ีโครงการที่จะเชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ระหวา่ งมหาวิทยาลยัข้ึน เครือข่ายคอมพิวเตอร์
ระหวา่ งมหาวทิยาลยั ในประเทศไทยก็ค่อยๆ พฒั นาข้ึน
10.3 การเติบโตของอินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ตเป็ นเทคโนโลยีที่มีอัตราการเติบโตเร็วมาก จา นวนเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายใน
อินเทอร์เน็ตในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2524 มีเพียง 213 เครื่องต่อมาในเดือนธนั วาคม 2530 มีการส ารวจโดยใช้
ระบบโดเมนเดิม พบวา่ จา นวนเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายไดเ้พิ่มข้ึนเป็น 28,174 เครื่องและในการส ารวจคร้ัง
หลังสุดในเดือนมกราคม พ.ศ. 2546 มีจา นวนเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายท้งัสิ้น 171,638,297 เครื่องและอัตรา
การเพิ่มของจา นวนเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายมีแนวโนม้ ที่จะเพิ่มข้ึนในอตัราที่สูง
10.4 ชื่อและเลขทอี่ ยู่ไอพี
คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่ต่ออยบู่ นอินเทอร์เน็ตจะมีเลขที่อยไู่ อพี(IP address) และแต่ละเครื่อง
ทวั่ โลกจะตอ้งมีเลขที่อยไู่ อพีไม่ซ้า กนั เลขที่อยู่ไอพีน้ีจะไดร้ับการกา หนดเป็นกฎเกณฑ์ให้แต่ละองค์กร158 คอมพิวเตอร์ในการสอนระดับประถมศึกษา
น าไปปฏิบัติเพื่อให้ระบบการเรียกชื่อง่ายข้ึนและการบริหารเครือข่ายทา ไดด้ีจึงมีการกา หนดชื่อแทนเลขที่
อยไู่ อพีเรียกวา่ ชื่อโดเมน โดยจะมีการต้งัชื่อส าหรับเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องที่อยบู่ นเครือข่าย เช่น
ipst.ac.th ซ่ึงใชแ้ทนเลขที่อยไู่ อพี203.108.2.71 การกา หนดใหม้ีการใชร้ะบบชื่อโดเมนมีการกา หนดรูปแบบ
เป็นลา ดบั ช้นั เช่น
โดเมนระดับที่สองที่ประเทศไทย
ชื่อโดเมนระดับสอง ความหมาย
ac (academic) สถาบันการศึกษา
co (company) บริษัท ห้างร้าน
go (government) หน่วยงานของรัฐบาล
or (organization) องคก์รที่ไม่แสวงกา ไร
in (individual) ส่วนบุคคล
mi (military) หน่วยงานทางทหาร
net (network) ผใู้หบ้ ริการเครือข่าย
ในการติดต่อกบัผใู้ชบ้ นเครื่องคอมพิวเตอร์ใดบนเครือข่าย จะใช้ชื่อผใู้ชข้องผูน้้นั ตามดว้ยชื่อ
เครื่องแต่คนั่ ดว้ยเครื่องหมาย @ เช่น ถา้ตอ้งการติดต่อกบัผใู้ชช้ื่อapirak บนเครื่อง ipst.ac.th ก็ใชท้ ี่อยดู่ งัน้ี
[email protected]
10.5 การประยุกต์ใช้งานอนิเทอร์เน็ต
เมื่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเชื่อมโยงเครือข่ายทวั่ โลกใหส้ ามารถติดต่อถึงกนัไดห้ มดจนกลายเป็น
เครือข่ายของโลก ดงัน้นั จึงมีผใู้ช้งานบนเครือข่ายน้ีจา นวนมาก การใชง้านเหล่าน้ีเป็นสิ่งที่กา ลงัไดร้ับการ
กล่าวถึงกนั ทวั่ ไปเพราะการเชื่อมโยงเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทา ให้โลกไร้พรมแดน ขอ้ มูลข่าวสารต่างๆ
สามารถสื่อสารถึงกนัไดอ้ยา่ งรวดเร็ว ตวัอยา่ งการใชง้านบนอินเทอร์เน็ตที่จะกล่าวต่อไปน้ีเป็นเพียงตวัอยา่ ง
ที่แพร่หลายและใชก้ นั มากเท่าน้นั ยงัมีการประยกุ ตง์านอื่นที่ไดร้ับการพฒั นาข้ึนมาใหม่ตลอดเวลา
1) ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์
2) การโอนยา้ยแฟ้มขอ้มูลระหวา่ งกนับทที่ 10 อินเทอร์เน็ต 159
3) การใชค้อมพิวเตอร์ในที่ห่างไกล
4) การเรียกคน้ขอ้มูลข่าวสาร
5) การอ่านจากกลุ่มข่าว
6) การสนทนาบนเครือข่าย
7) การบริการสถานีวทิยแุ ละโทรทศัน์บนเครือข่าย
8) การบริการบนอินเทอร์เน็ต
1) ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic mail หรือ e-mail) เป็นการส่งขอ้ความติดต่อกนั
ระหวา่ งบุคคลกบั บุคคลหรือกลุ่มบุคคลก็ได้หากเปรียบเทียบไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์กบัไปรษณียธ์รรมดา
จะพบว่าโดยหลกัการน้ันไม่แตกต่างกันมากนัก ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์เปลี่ยนบุรุษไปรษณีย์ให้เป็ น
โปรแกรม เปลี่ยนเส้นทางเป็นระบบเครือข่ายและเปลี่ยนรูปแบบการจ่าหนา้ซองจดหมายให้เป็นการจ่าหนา้
แบบอา้งอิงระบบอิเล็กทรอนิกส์โดยใชท้ ี่อยขู่ องไปรษณียอ์ิเล็กทรอนิกส์ (email address) การส่งไปรษณีย์
อิเล็กทรอนิกส์น้นั มีรูปแบบที่ง่าย สะดวกและรวดเร็ว
หากตอ้งการส่งขอ้ความถึงใครก็สามารถเขียนเป็นเอกสารแลว้จ่าหนา้ซองที่อยขู่ องผรู้ับ ระบบ
จะน าส่งให้ทันทีอย่างรวดเร็ว ลักษณะของที่อยู่จะเป็นชื่อรหัสผูใ้ช้และชื่อเครื่องประกอบกันเช่น
[email protected] การติดต่อบนอินเทอร์เน็ตน้ีระบบจะหาตา แหน่งให้เองโดยอตัโนมตัิและนา ส่งไปยงั
ปลายทางไดอ้ยา่ งถูกตอ้งการรับส่งไปรษณียอ์ิเล็กทรอนิกส์กา ลงัเป็นที่นิยมกนัอยา่ งแพร่หลาย
ปัจจุบนัขอ้ มูลที่ส่งผ่านไปรษณียอ์ิเล็กทรอนิกส์น้นั เป็นขอ้ มูลแบบใดก็ไดท้ ี่อยใู่ นรูปแบบของ
ดิจิทัล(digital) และสามารถใชภ้าษาอะไรก็ไดต้วัอยา่ งดงัรูปที่7.3 ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ที่เป็ น
ภาษาญี่ปุ่ นขอ้ความที่เป็นภาษาญี่ปุ่นที่ส่งผา่ นไปรณียอ์ิเล็กทรอนิกส์160 คอมพิวเตอร์ในการสอนระดับประถมศึกษา
2) การโอนย้ายแฟ้มข้อมูลระหว่างกัน (File Transfer Protocol :FTP) เป็ นระบบที่ท าให้ผู้ใช้
สามารถรับส่งแฟ้มขอ้ มูลระหว่างกนั หรือมีสถานีให้บริการเก็บแฟ้มขอ้ มูลที่อยู่ในที่ต่างๆ และให้บริการ
ผใู้ชส้ ามารถเขา้ไปคดัเลือกนา แฟ้มขอ้ มูลมาใชป้ ระโยชน์ได้เช่น โปรแกม cuteFTP โปรแกรม wsFTP เป็ น
ต้น
ตัวอย่างโปรแกรม CuteFTP
3) การใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในที่ห่างไกล(telnet) (telnet) การเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์เขา้กบั
เครือข่ายทา ให้เราสามารถติดต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เป็นสถานีบริการในที่ห่างไกลไดถ้า้สถานีบริการน้นั
ยินยอม ท าให้ผู้ใช้สามารถน าข้อมูลไปประมวลผลยงัเครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในเครือข่ายเช่นนกั เรียนใน
ประเทศ ไทยส่งโปรแกรมไปประมวลผลที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต้งัอยู่ที่บริษทั ในประเทศญี่ปุ่นผ่านทาง
ระบบเครือข่ายโดยไม่ตอ้งเดินทางไปเอง
4) การเรียกค้นข้อมูลข่าวสาร (search engine) ปัจจุบนั มีฐานขอ้ มูลข่าวสารที่เก็บไวใ้ห้ใชง้าน
จ านวนมาก ฐานขอ้ มูลบางแห่งเก็บขอ้ มูลในรูปสิ่งพิมพอ์ิเล็กทรอนิกส์ที่ผใู้ช้สามารถเรียกอ่าน หรือน ามา
พิมพ์ฐานขอ้มูลน้ีจึงมีลกัษณะเหมือนเป็นหอ้งสมุดขนาดใหญ่อยภู่ ายในเครือข่ายที่สามารถคน้ หาขอ้ มูลใดๆ
ก็ได้ฐานขอ้มูลในลกัษณะน้ีเรียกวา่ เวลิดไ์วด์เว็บ (World Wide Web : WWW) ซึ่งเป็ นฐานข้อมูลที่เชื่อมโยง
กนั ทวั่ โลกบทที่ 10 อินเทอร์เน็ต 161
ตัวอย่างเว็บไซต์ Search Engine
http://www.google.com
http://www.yahoo.com
5) การอ่านจากกลุ่มข่าว (USENET) ภายในอินเทอร์เน็ตมีกลุ่มข่าวเป็นกลุ่มๆ แยกตามความ
สนใจ แต่ละกลุ่มข่าวอนุญาตให้ผูใ้ช้อินเทอร์เน็ตส่งขอ้ความไปได้และหากผใู้ดตอ้งการเขียน โตต้อบก็
สามารถเขียนตอบได้กลุ่มข่าวน้ีจึงแพร่หลายและกระจายข่าวไดร้วดเร็ว162 คอมพิวเตอร์ในการสอนระดับประถมศึกษา
6) การสนทนาบนเครือข่าย (chat) เมื่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเชื่อมต่อถึงกนั ไดท้ วั่ โลก ผู้ใช้จึง
สามารถใชเ้ครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นตวักลางในการติดต่อสนทนากนั ได้ในยุคแรกใช้วิธีการสนทนากนัดว้ย
ตวัหนังสือ เพื่อโตต้อบกนั แบบทนั ทีทนั ใดบนจอภาพ ต่อมามีผูพ้ ฒั นาให้ใช้เสียงได้จนถึงปัจจุบนั ถ้า
ระบบสื่อสารข้อมูลมีความเร็วพอก็สามารถสนทนาโดยที่เห็นหนา้กนัและกนั บนจอภาพได้
โปรแกรมเพิร์ชใชส้ า หรับสนทนาบนเครือข่าย โปรแกรมไอซีคิวใช้ส าหรับสนทนาบนเครือข่าย
7) การบริการสถานีวิทยุและโทรทัศน์บนเครือข่าย เป็นการประยุกต์เพื่อให้เห็นว่าเป็นสิ่งที่
เกิดข้ึนได้ ปัจจุบนั มีผูต้้งัสถานีวิทยุบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตหลายร้อยสถานี ผู้ใช้สามารถเลือกสถานีที่
ต้องการและได้ยินเสียงเหมือนการเปิ ดฟังวิทยุขณะเดียวกนัก็มีการส่งกระจายภาพวีดิทศัน์บนเครือข่ายดว้ย
แต่ปัญหายงัอยู่ที่ความเร็วของเครือข่ายที่ยงัไม่สามารถรองรับการส่งขอ้ มูลจา นวนมาก ท าให้คุณภาพของ
ภาพวดีิทศัน์ยงัไม่ดีเท่าที่ควรบทที่ 10 อินเทอร์เน็ต 163
สถานีวทิยุบนเครือข่าย
8) การบริการบนอินเทอร์เน็ต ปัจจุบนั มีการใหบ้ ริการบนอินเทอร์เน็ตเกิดข้ึนมากมาย โดยผู้ใช้
สามารถใช้บริการโดยอยู่ที่ไหนก็ได้ซ่ึงไม่ตอ้งเสียเวลาในการเดินทาง การบริการบน อินเทอร์เน็ตมีท้งั
เผยแพร่ข่าวสารความรู้ซ้ือขายสินคา้ ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์คอมพิวเตอร์ช่วยสอน และบริการอื่นๆ ซึ่ง
การใหบ้ ริการเหล่าน้ีผใู้ชส้ ามารถโตต้อบได้
บริการเสียภาษีบนอินเทอร์เน็ต
10.6 บราวเซอร์
บราวเซอร์เป็นโปรแกรมที่อ่านเอกสารมาแสดงบนจอภาพ โปรแกรมบราวเซอร์ท างานโดยใช้
โพรโทคอลพิเศษเรียกวา่ เอชทีทีพี(HyperText Transport Protocol : HTTP) ในการติดต่อขอขอ้ มูลจากตวั
บริการเว็บ (web server) และแสดงข้อมูลตามรูปแบบรหัสของภาษาเอชทีเอ็มแอล (HyperText Markup
Language : HTML)164 คอมพิวเตอร์ในการสอนระดับประถมศึกษา
ตัวอย่างบราวเซอร์ Netscape
10.7 อนิเทอร์เน็ตกบัการเรียนรู้
หากเปรียบอินเทอร์เน็ตเป็ นห้องสมุดแล้ว ก็คงเป็นห้องสมุดขนาดใหญ่ที่มีขอ้ มูลอยู่อย่าง
หลากหลายและมีโปรแกรมคน้ หาทา หน้าที่เป็นเหมือนกบั เป็นดชั นีช่วยในการคน้ หา ข้อมูลการศึกษาใน
ประเทศไทยน้นั มีหลายหน่วยงานไดท้ า โครงการสร้างแหล่งขอ้ มูลความรู้เพื่อใชป้ ระโยชน์ร่วมกนั อยา่ งเช่น
สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้จัดท าเว็บไซด์ส าหรับครูผู้สอนหรือนักเรียนที่สนใจ
ศึกษาความรู้ในวิชาฟิ สิกส์ เคมี ชีววิทยา คณิตศาสตร์และคอมพิวเตอร์ ท้งัยงัเผยแพร่ความรู้และข่าวสาร
ส าหรับการอบรมต่างๆ ท้งัน้ีมีเรื่องราวต่างๆ ที่เป็นวิชาการท้งัในและนอกตา ราเรียน รวมถึงเรื่องราวที่
น่าสนใจอีกดว้ย
เว็บไซต์ของสาขาคอมพิวเตอร์สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีบทที่ 10 อินเทอร์เน็ต 165
เวบ็ ไซต์ของศูนย์เทคโนโลยอีิเลก็ ทรอนิกส์และคอมพวิเตอร์แห่งชาติ
สารานุกรมไทยส าหรับเยาวชนในเครือข่ายกาญจนาภิเษก
10.8 อินเทอร์เน็ตกับผลกระทบต่อสังคมไทย
อยา่ งไรก็ตามขอ้ มูลในอินเทอร์เน็ตน้นั มีมากท้งัขอ้ มูลที่ถูกตอ้งเป็นประโยชน์และขอ้ มูลที่
ไม่ถูกตอ้งและอาจเป็นภยัต่อสังคมหรือผูอ้ื่นก็เป็นได้ ดงัน้นั การใช้ขอ้ มูลจากอินเทอร์เน็ตน้นั จา เป็นตอ้ง
พิจารณาความเหมาะสมและถูกต้องโดยต้องเปรียบเทียบข้อมูลจากหลายๆ แหล่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกบั
แหล่งขอ้มูลที่มีชื่อเสียงและเชื่อถือได้การวเิคราะห์น้นัจา เป็นตอ้งใชค้วามรู้ประสบการณ์ท้งัของตนเองและ
ผทู้ี่มีความรู้วา่ ขอ้มูลน้นั มีความถูกตอ้งหรือเชื่อถือไดเ้พียงใด
วฒั นธรรมทอ้งถิ่นที่ดีไม่ถูกกลืนหรือสูญหายไปจากสังคม วธิีการหน่ึงก็คือการส่งเสริมและให้
มีการเผยแพร่วฒั นธรรมผา่ นทางสื่ออินเทอร์เน็ตซ่ึงสามารถทา ไดง้่ายและไดก้ลุ่มผรู้ับข่าวสารมากยงิ่ ข้ึน
การใชอ้ินเทอร์เน็ตมีผลกระทบท้งัดา้นบวกและลบ ผลกระทบทางดา้นบวกเช่น สามารถได้รับ
ความรู้และขอ้มูลข่าวสารมากยงิ่ ข้ึน ทา ใหป้ ระชาชนมีความรู้สามารถหาข้อมูลที่เป็ นประโยชน์และทันสมัย
ไดจ้ากแหล่งขอ้มูลต่างๆ ในอินเทอร์เน็ต และยังท าให้สามารถติดต่อสื่อสารถึงกนั ไดส้ ะดวกรวดเร็วและไม่
ตอ้งเสียค่าใชจ้่ายสูง ส าหรับผลกระทบทางดา้นลบ เช่น อาจจะทา ให้เยาวชนไดร้ับขอ้ มูลหรือภาพในทางที่
ไม่ดีได้ดงัน้นัผปู้กครองจา เป็นตอ้งช่วยดูแลบุตรหลานในการใชอ้ินเทอร์เน็ต เช่นดูแลให้ใชอ้ินเทอร์เน็ตเพื่อ166 คอมพิวเตอร์ในการสอนระดับประถมศึกษา
หาขอ้มูลเกี่ยวกบัการเรียนหรือเทคโนโลยีที่ทนั สมยัและใชใ้นการติดต่อสื่อสารกบัผอู้ื่น ไม่วา่ จะเป็นการส่ง
ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์หรือการสนทนาบนเครือข่าย แต่อย่างไรก็ตามตอ้งใช้ดว้ยความรอบคอบ ควร
ตระหนักถึงประโยชน์ที่จะได้รับ ใช้สนทนาในเรื่องที่เป็ นประโยชน์และต้องตระหนักถึงความจ าเป็ นและ
ความเหมาะในเรื่องของเวลาและเน้ือหาที่ใชใ้นการสนทนาดว้ย
ข้อควรระวัง การใช้งานอินเทอร์เน็ตในการส่งขอ้ มูลอาจจะทา ให้เกิดความไม่เสมอภาคกนั ใน
เรื่องของการรับขอ้มูลข่าวสารได้ยกตวัอยา่ ง เช่น ในขณะน้ีกระทรวงสาธารณสุขไดเ้ผยแพร่ขอ้ มูลเรื่องโรค
ระบาดผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต คนที่อาศยัอยู่ในเมืองสามารถรับทราบข่าวน้ีไดแ้ละมีการเตรียมตวัเพื่อ
ป้องกนั โรคระบาดเพื่อไม่ให้เกิดข้ึนกบั ตน แต่คนที่อาศยัอยู่ในชนบทไม่สามารถรับขอ้ มูลทางอินเทอร์เน็ต
ได้อาจจะเนื่องจากไม่มีอุปกรณ์เทคโนโลยีและความรู้ในการติดต่อสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต ทา ให้ไม่
สามารถเตรียมตัวป้องกันและติดโรคระบาดน้ีในที่สุด จะเห็นว่าจากตัวอย่างน้ี เป็ นผลกระทบของ
อินเทอร์เน็ตในเรื่องของความเสมอภาคในการรับขอ้ มูลข่าวสาร
ฉะน้ันการใช้อินเทอร์เน็ตต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนและน าเสนอให้คนทั่วไปเข้าใจว่า
อินเทอร์เน็ตเป็นเพียงสื่อหน่ึงเหมือนกบั สื่อทวั่ ไป สื่อจะดีหรือไม่น้นัข้ึนอยกู่ บัผใู้ช้
ภาพการเข้าอินเทอร์เน็ตของนักเรียน
10.9 มารยาทในการใช้อินเทอร์เน็ต
การเขา้ใช้งานอินเทอร์เน็ตของแต่ละคนมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกนั บางคนตอ้งการเพียงส่ง
ไปรษณียอ์ิเล็กทรอนิกส์บางคนตอ้งการอ่านข่าว หรือประกาศข่าว บางคนตอ้งการใชส้ าหรับติดต่อสื่อสาร
บางคนต้องการค้นหาข้อมูล หรือดาวน์โหลดโปรแกรม การใช้งานอินเทอร์เน็ตน้นั เป็นการใชง้านในกลุ่ม
บุคคลที่หลากหลาย ดงัน้นัการใช้งานอินเทอร์เน็ตของผใู้ช้น้นัอาจส่งผลกระทบต่อผูใ้ชอ้ื่นดว้ยความต้งัใจ
หรือไม่ก็ตาม นบัวา่ เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ผู้ใช้งานทุกคนจึงจ าเป็ นต้องเรียนรู้เรื่องของมารยาทในการใช้
อินเทอร์เน็ตบทที่ 10 อินเทอร์เน็ต 167
เนื่องจากผใู้ชง้านอินเทอร์เน็ตมีเป็นจา นวนมากและเพิ่มข้ึนทุกวนั ทา ให้การส่งข่าวสารถึงกนั
อาจจะสร้างปัญหาให้กบัผูใ้ช้อื่นได้ และเพื่อประโยชน์สูงสุดขององค์กรจึงมีข้อปฏิบัติให้สมาชิกได้ใช้
เครือข่ายร่วมกนั สมาชิกจึงตอ้งเรียนรู้และทา ความเขา้ใจในขอ้ บงัคบั น้นัและตอ้งรับผิดชอบต่อการกระทา
ของตนเองที่ใช้บริการต่างๆ บนเครือข่าย และไม่ละเมิดหรือกระทา การใดๆ ที่สร้างปัญหาและไม่เคารพ
กฏเกณฑ์ที่แต่ละองคก์ รวางไว้และจะตอ้งปฏิบตัิตามคา แนะนา ของผบู้ ริหารเครือข่ายยอ่ ยหรือองคก์ รน้นั
อยา่ งเคร่งครัดเครือข่ายไม่ไดเ้ป็นขององคก์รเดียวแต่เป็นการเชื่อมโยงกนั ระหวา่ งหลายเครือข่ายเขา้ดว้ยกนั
ทา ให้มีขอ้ มูลข่าวสารเดินทางอยู่บนเครือข่ายเป็นจา นวนมาก ดงัน้ันผูใช้บริการบนอินเทอร์เน็ตต้องให้ ้
ความสา คญั และตระหนกัถึงปัญหาของขอ้มูลข่าวสารที่เดินทางอยบู่ นเครือข่าย
เพื่อประโยชน์ในการใช้อินเทอร์เน็ต ควรใช้งานอย่างสร้างสรรค์และเกิดประโยชน์ ซึ่ งมี
กิจกรรมบางอยา่ งที่ไม่ควรปฏิบตัิเช่น การกระจายข้อมูลไปยังปลายทางเป็ นจ านวนมาก การส่งโปรแกรม
หรือแฟ้มขอ้มูลที่ติดไวรัสคอมพิวเตอร์และการส่งจดหมายลูกโซ่เป็ นต้น
สรุป
อินเทอร์เน็ต คือ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกนั เป็นจา นวนมากครอบคลุมไปทวั่ โลก
โดยอาศัยโครงสร้างระบบสื่อสารโทรคมนาคม เป็ นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูล มีการประยุกต์ใช้งาน
หลากหลายรูปแบบ อินเทอร์เน็ตเป็นท้งัเครือข่ายของคอมพิวเตอร์และเครือข่ายของเครือข่าย
อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายที่พฒั นามาจากอาร์พาเน็ต (ARPAnet) ซ่ึงเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ภายใตค้วามรับผิดชอบของหน่วยงาน โครงการวิจยัข้นั สูง (Advanced Research Projects Agency : ARPA )
ในสังกดักระทรวงกลาโหมของประเทศสหรัฐอเมริกา
ส าหรับประเทศไทย เริ่มเชื่อมโยงเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตต้ังแต่ปีพ.ศ. 2532 โดย
มหาวิทยาลยัสงขลานครินทร์ต่อเชื่อมโยง เพื่อส่งไปรษณียอ์ิเล็กทรอนิกส์กบั ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งท าให้
ระบบไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์เชื่อมกับอินเทอร์เน็ตเป็นคร้ังแรก ในช่วงระยะเวลาเดียวกันน้ี
กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดลอ้ ม โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์
แห่งชาติไดม้ีโครงการที่จะเชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ระหวา่ งมหาวิทยาลยัข้ึน เครือข่ายคอมพิวเตอร์
ระหวา่ งมหาวทิยาลยั ในประเทศไทยก็ค่อยๆ พฒั นาข้ึน
การประยุกต์ใช้งานอินเทอร์เน็ต
เมื่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเชื่อมโยงเครือข่ายทวั่ โลกใหส้ ามารถติดต่อถึงกนัไดห้ มดจนกลายเป็น
เครือข่ายของโลก ดงัน้นั จึงมีผใู้ช้งานบนเครือข่ายน้ีจา นวนมาก การใชง้านเหล่าน้ีเป็นสิ่งที่กา ลงัไดร้ับการ168 คอมพิวเตอร์ในการสอนระดับประถมศึกษา
กล่าวถึงกนั ทวั่ ไปเพราะการเชื่อมโยงเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทา ให้โลกไร้พรมแดน ขอ้ มูลข่าวสารต่างๆ
สามารถสื่อสารถึงกนัไดอ้ยา่ งรวดเร็ว ตวัอยา่ งการใชง้านบนอินเทอร์เน็ตที่จะกล่าวต่อไปน้ีเป็นเพียงตวัอยา่ ง
ที่แพร่หลายและใชก้ นั มากเท่าน้นั ยงัมีการประยกุ ตง์านอื่นที่ไดร้ับการพฒั นาข้ึนมาใหม่ตลอดเวลา
1. ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์
2. การโอนยา้ยแฟ้มขอ้มูลระหวา่ งกนั
3. การใชค้อมพิวเตอร์ในที่ห่างไกล
4. การเรียกคน้ขอ้มูลข่าวสาร
5. การอ่านจากกลุ่มข่าว
6. การสนทนาบนเครือข่าย
7. การบริการสถานีวทิยแุ ละโทรทศัน์บนเครือข่าย
8. การบริการบนอินเทอร์เน็ต
บราวเซอร์
บราวเซอร์เป็นโปรแกรมที่อ่านเอกสารมาแสดงบนจอภาพ โปรแกรมบราวเซอร์ท างานโดยใช้
โพรโทคอลพิเศษเรียกวา่ เอชทีทีพี (HyperText Transport Protocol : HTTP) ในการติดต่อขอขอ้ มูลจากตวั
บริการเว็บ (web server) และแสดงข้อมูลตามรูปแบบรหัสของภาษาเอชทีเอ็มแอล (HyperText Markup
Language : HTML)
ประเด็นค าถาม
1. อธิบายความหมายของอินเทอร์เน็ต
2. อธิบายและยกตวัอยา่ งประโยชน์ของการใชง้านอินเทอร์เน็ต
3. ปัญหาจากอินเทอร์เน็ตที่มีต่อเยาวชนมีอะไรบา้ง
4. ข้อเสียของการใช้อินเทอร์เน็ตมีอะไรบ้าง
5. ยกตวัอยา่ งการประยกุ ตใ์ชง้านอินเทอร์เน็ต

คำสำคัญ (Tags): #อินเตอร์เน็ต
หมายเลขบันทึก: 555198เขียนเมื่อ 3 ธันวาคม 2013 10:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 ธันวาคม 2013 10:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท