ดวงประทีปแห่งเเรงบันดาลใจ ๑๐


กาลเวลาจะคอยพิสูจน์เราอยู่ตลอดเวลาเราจึงจำต้องใช้เวลาที่เป็นเครื่องพิสูจน์นี้ให้คุ้มค่าโดยการทำให้คนที่เรารักมีความสุขและทำให้ตนเองมีความสุขควบคู่ไปด้วยกัน

เวลา

ระยะทางพิสูจน์ม้า 

กาลเวลาพิสูจน์คน 

วันที่ผ่านมาช่วยบ่งบอกความเป็นตัวตน 

ความเป็นคนย่อมเห็นจากกาลเวลา 

            กาลเวลาเป็นสิ่งสำคัญที่เปรียบเหมือนราวกับเป็นตัวเลขที่ไม่มีวันโกหกเพราะกาลเวลาเดินไปทุกขณะอย่างไม่หยุดยั้งทำให้เป็นสิ่งที่แน่นอนที่เป็นเครื่องพิสูจน์ความเป็นจริงให้เราทุกคนได้เห็น  ได้มอง ถึงความเปลี่ยนแปลงของการเวลาที่มีต่อจิตใจของเราทุกคน “ครั้งเราอาจเคยมีใจอยู่กับสิ่งๆหนึ่ง แต่เมื่อเวาลผ่านไปเรากลับมีใจที่อยู่กับอีกสิ่งๆหนึ่ง” หรือ “ตอนนั้นเขาเคยมีนิสัยดี และสุภาพ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขากลับเป็นคนที่หยาบคายเพราะเขาอาจได้เจอกับเรื่องราวต่างๆนานาที่มาเปลี่ยนแปลงความคิดและพฤติกรรมของเขาไปโดยผ่านกาลเวลาที่เป็นเครื่องบ่มเพาะจึงทำให้เขามีนิสัยหยาบคาย” ซึ่งวันเวลาที่เลยผ่านทำให้ใตคนรวนเร   ทำให้ใจหวนเหไปตามกระแสลม...ดาบสองคมที่ชื่อว่า “เวลา” ยังคงพัดพาให้ตกหลุมความทุกข์และตกหลุมความสุขได้เช่นกัน  เวลาที่เลยผ่านทำให้หลายคนถูกบั่นทอนกำลังใจด้วยระยะเวลาที่คอยย้ำเตือนสิ่งที่อยู่ในอนาคตอันใกล้ที่กำลังจะมาถึง แต่เราควรคิดเสมอว่าอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนอาจเกิดอะไรขึ้นในทางที่ดีขึ้นก็เป็นได้ ถึงแม้ว่าเรารู้อนาคตของเราอย่างแน่นอนแล้วว่าเราจะเป็นอย่างไรก็จงเผื่อใจไว้เสมอ เพื่อในยามนั้นเราจะสามารถทำใจได้อย่างเข้มแข็งและคิดอยู่เพียงว่าอนาคตนั้นเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนอะไรจะเกิดก็ได้  เมื่อเรามีใจเผื่อไว้กับสิ่งที่เราสามารถทำใจได้ยากในอนาคต เราจะทำใจกับสิ่งนั้นๆได้...ความสุขและความรักที่เกิดจากกาลเวลาเป็นมุมมองในแง่ดีในการดำเนินชีวิต เป็นเพราะเรามีความสุขในการดำเนินชีวิตจากกาลเวลาที่เลยผ่าน เวลาที่มีความสุขอาจเป็นเวลาที่ได้มอง ได้เห็นสิ่งที่เราเห็นแล้วมีความสุข ซึ่งนับได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ดี ที่ทรงคุณค่าของเราทุกๆคน เพราะคนที่เขาไม่มีโอกาสที่มองเห็น ได้รู้สึกกับความรู้สึกเช่นนี้ก็มีมากมายในสังคม เวลาดีดีเหล่านี้จงใช้ให้คุ้มค่ามากที่สุด ใช้เพื่อให้เรามีความสุข และใช้เพื่อให้คนที่เรารักมีความสุข และไม่รอวันเวลาที่เลยผ่านไปอย่างละเลย แต่จงใช้เวลาที่เราทุกๆคนมีอยู่เท่ากันให้คุ้มค่ามากที่สุดเพราะเมื่อเราได้ใช้เวลาให้คุ้มค่ามากที่สุดนั้นไปแล้วเราจะรู้สึกเสียใจกับกาลเวลาที่เลยผ่านนั้นๆน้อยมากหรือเรามีใจเข้มแข็งจากการกระทำที่ทำดีแล้วนั่นเอง... ลองถามตนเองว่า “เราใช้เวลาที่เราได้ยืนอยู่ตรงนี้คุ้มค่าหรือยัง แล้วตอนนี้เรากำลังทำอะไรอยู่” ซึ่งควรถามตนเองอยู่เสมอจะเป็นเครื่องที่คอยย้ำเตือนเราได้ว่า “เวลาตอนนี้เป็นอย่างไร” “แต่ก่อนเราเป็นอย่างไรแต่เดี๋ยวนี้เราเป็นอย่างไร  เราเปลี่ยนไปเยอะมั้ย แล้วสิ่งที่เราเปลี่ยนนั้นมันดีกับตัวเราดีกับสังคมหรือไม่” ถ้าเราถามตนเองเช่นนี้ได้ จะทำให้เราเองมองเห็นเวลาของตนเองและเป็นเครื่องย้ำเตือนให้เราใช้เวลานี้อย่างคุ้มค่า

            เวลาทำให้คนเราเปลี่ยนไปได้จริงๆ “ลองถามตนเองว่าแต่ก่อนเราเป็นอย่างไร  แล้วตอนนี้เราเป็นอย่างไร” เราจะสามารถมองเห็นภาพชัดเจนว่า เวลาทำให้เราเปลี่ยนไปได้อย่างไร เพราะเวลานี้ประกอบด้วยเรื่องราวต่างๆนานาที่พาใจให้เราคล้อยตามอยู่ตลอดเวลาอีกทั้งเป็นสิ่งที่เดินไปอย่างไม่มีวันเหน็ดเหนื่อย...มีคำที่กล่าวถึงกาลเวลามากมายจนกลายเป็นแนวคิดที่นิยมต่างๆของบรรดาวัยรุ่นที่บอกว่า “เวลาเปลี่ยนใจคน” ซึ่งถ้าเราลองมองตนเองเราจะรู่สึกว่าเราเปลี่ยนแปลงไปมิใช่เพียงจิตใจที่เปลี่ยนไปแต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างแน่นอนเป็นร่างกายของเราเองที่เปลี่ยนไปในทุกๆวัน เดือน ปี ที่เลยผ่าน เราไม่สามารถหยุดยั้งเวลาได้ แต่เราสามารถใช้เวลาให้คุ้มค่าได้ ก่อนที่เวลานั้นจะสายเกินไป...ในการทำทุกสิ่งทุกอย่างเราต้องอาศัยเวลาเป็นเครื่องบ่มเพาะ แต่ไม่ควรเคร่งเวลาจนเกินไปเพราะอาจทำให้เกิดความสูญเสียสิ่งนั้นไปได้ แต่จงรักษาระดับของเวลาให้สมดุลกับตัวตนของเราเอง... เราทุกๆคนมีเวลาเท่ากัน คือ 24 ชั่วโมงต่อวัน แต่เราทกๆคนนั้นใช้เวลาไม่เหมือนกัน หลายคนใช้เวลาไปกับงานที่จะยกระดับฐานะของครอบครัวให้อยู่สุขสบายเป็นหลัก  หลายคนใช้เวลาไปกับการทำให้ตนเองมีความสุขให้มากที่สุด  แล้วในอีกหลายๆคนที่ได้ใช้เวลาไปกับการสร้างความสุขให้บุคคลอันเป็นที่รัก แต่ในอีกหลายๆคนใช้เวลาคร่ำครวญอยู่กับอดีตที่ผ่านมาจนทำให้มีความทุกข์ใจในชีวิต...”แต่เราจะทำยังไงล่ะ ให้เรามีความสุขกับเวลาที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา” การได้ทำให้คนที่เรารักมีความสุขและการได้ทำให้เราเองมีความสุขไปพร้อมกันจะทำให้เรามีความสุขที่ประเมินค่าไม่ได้ซึ่งชีวิตนี้จะมีความสุขได้ทั้งหมดนั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะในชีวิตจริง ความสุข และความทุกข์มักจะมาผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันให้เราคล้อยตามอยู่ตลอดเวลา  ให้คิดเสียว่าเมื่อเรามีความสุขสักวันหนึ่งจะมีความทุกข์  เมื่อเรามีความทุกข์สักวันหนึ่งเราจะมีความสุขได้ ซึ่งจะทำให้เราเองสามารถทำใจได้ในเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น... สิ่งที่หลายๆคนใช้คำปลอบใจตนเองอีกคำ คือ “ต้องมีสักวัน  ต้องมีสักวัน” ที่เราอาจท่องให้ขึ้นใจแล้วเมื่อได้ประสบกับความทุกข์นั้นๆ สิ่งที่เราท่องจนขึ้นใจจะหวนกลับมาปลอบใจเราเมื่อยามเราคิดได้ในจังหวะดีดี...

           กาลเวลาจะคอยพิสูจน์เราอยู่ตลอดเวลาเราจึงจำต้องใช้เวลาที่เป็นเครื่องพิสูจน์นี้ให้คุ้มค่าโดยการทำให้คนที่เรารักมีความสุขและทำให้ตนเองมีความสุขควบคู่ไปด้วยกัน...

หมายเลขบันทึก: 554244เขียนเมื่อ 21 พฤศจิกายน 2013 20:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 กุมภาพันธ์ 2014 09:54 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

เก่งมากเลยครับ เป็นนักเขียนได้เลยนะเนี่ย

เป็นกำลังใจให้มีบันทึกดีๆ นี้ต่อไปนะคะ

ขอบคุณครับ... เเต่ต้องอาศัยเวลามากเลยนะครับ..

เก็บดอกไม้มาฝาก..นำกำลังใจมาให้

อ่านหนึ่งบันทึกผ่านไป

ชวนให้ติดตามบันทึกย้อนหลัง

อ่านเพลินและให้ข้อคิดเสมือนหนึ่งบัณฑิตน้อยผู้ใฝ่ธรรม

ขอบคุณที่ใช้เวลาแบ่งปันความงดงามให้ผู้อ่านค่ะ

อยากเขียน อยากถ่ายทอด อยากทำให้ผู้อื่นได้รู้...ขอขอบคุณมากๆ... สำหรับคำติชมข้างต้นครับ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท