อาจารย์วีระ ภาคอุทัย อาจารย์ภาควิชาเศรษฐศาสตร์การเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หัวหน้าโครงการ การพัฒนาระบบการตัดสินใจและจัดการโซ่อุปทานพริกปลอดภัย จังหวัดแพร่ น่าน และชัยภูมิ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)ได้จัดฝึกอบรมการขยายเชื้อราไตรโคเดอร์มาและเชื้อราเมตตาไรเซียมให้แก่เกษตรกรบ้านโคกหินตั้ง จำนวน 25 คน เนื่องจากบ้านโคกหินตั้ง เป็นที่ตั้งของโรงอบพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากจังหวัดชัยภูมิ และมีกลุ่มอาชีพแปรรูปอาหารโดยเฉพาะน้ำพริกสูตรต่างๆ โดยเกษตรกรส่วนใหญ่ปลูกพริกพันธุ์จินดา ซึ่งพบปัญหาเรื่องโรคและแมลงเข้าทำลายพริก ณ ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 6 บ้านโคกหินตั้ง ตำบลโคกเริงรมย์ อำเภอบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2556
อาจารย์วีระ ภาคอุทัย กล่าวว่า หลังจากทำการฝึกอบรมเกษตรกร บ้านโคกหินตั้งแล้ว ได้ออกติดตามการปลูกพริกของเกษตรกร ตำบลวะตะแบก อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ ที่มีการปลูกพริกกันมากที่บ้านยางเกี่ยวแฝก บ้านป่าขนุน บ้านซับเจริญ บ้านเขากี่ บ้านหนองกระโจม และบ้านซับไทร โดยเกษตรกรส่วนมากปลูกพริกพันธุ์ลูกผสม และการให้น้ำเป็นระบบน้ำหยด เนื่องจากในปีที่ผ่านมาเกษตรกรขายพริกได้กิโลกรัมละ 50-80 บาท ทำให้ปีนี้มีการปลูกพริกเพิ่มเป็นจำนวนมาก แต่กลับขายได้กิโลกรัมละ 27-40 บาทเท่านั้น อีกทั้งปีนี้ฝนตกต่อเนื่องติดต่อกันหลายวัน ดินชุ่มน้ำตลอดเวลา จึงเกิดปัญหาเรื่องโรครากเน่า-โคนเน่า ต้นพริกใบเหลืองร่วง ลำต้นพริกดำเนื่องจากปัญหาเชื้อรา และโรคกุ้งแห้ง แม้ว่าเกษตรกรจะฉีดพ่นสารเคมีรักษาโรคต่างๆ แต่เพราะฝนตกตลอด น้ำฝนล้างสารเคมีไปหมด ทำให้มีปัญหาเรื่องโรคมาก ผลผลิตต่อไร่ต่ำ ราคาที่ขายได้ก็ต่ำ ทำให้มีรายได้ต่อไร่ลดต่ำลงไปด้วย
อาจารย์วีระ ภาคอุทัย กล่าวต่ออีกว่า สำหรับ บ้านซับไทร ตำบลวะตะแบก เป็นหมู่บ้านที่ราบเชิงเขา มีการเลี้ยงโคนม ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปลูกมันสำปะหลังและการปลูกพริกหลายพันธุ์ ทั้งพริกส้ม พริกส้มยาว พริกป๊อป พริกจินดา และพริกพันธุ์ลูกผสม โดยเฉพาะพริกป๊อปที่รสชาติเผ็ด-ร้อนนั้น เป็นที่ต้องการของตลาดจังหวัดอุดรธานี ที่มีพ่อค้าเข้ามารับซื้อถึงสวนพริก การเก็บพริกป๊อปจะเลือกเก็บเป็น 4 สี คือ สีเขียวอ่อน สีเหลือง สีส้มและสีแดง และราคาขายพริกป๊อปจะสูงกว่าพริกพันธุ์ลูกผสมกิโลกรัมละ 10-20 บาท ซึ่งวิธีการเก็บเมล็ดพริกป๊อปไว้ทำพันธุ์นั้น เกษตรกรจะเลือกเก็บผลพริกสีส้มจากต้นที่ผลดก ไม่เป็นโรค ทรงของพริกตรงตามสายพันธุ์ นำมาตำเบาๆให้เปลือกพริกแตก แต่เมล็ดพริกไม่ป่น แล้วนำไปร่อนให้เมล็ดพริกแยกออกจากเปลือกหรือเนื้อพริก นำเมล็ดพริกไปตากแดดจนแห้ง แล้วเก็บไว้ปลูกในปีต่อไป
“ในขณะที่เกษตรกรบ้านยางเตี้ย ตำบลห้วยยายจิ๋ว ปลูกพริกพันธุ์ลูกผสมและพริกพันธุ์พื้นเมืองพันธุ์ยอดสน ซึ่งช่วงนี้เป็นปลายฤดูกาลเก็บเกี่ยว ราคาพริกสดราคาตกต่ำ กิโลกรัมละ 27 บาท อีกทั้งฝนตกเกือบทุกวัน การตากพริกโดยอาศัยแสงแดดทำได้ยาก เกษตรกรจึงแก้ปัญหาโดยการทำกระโจมอบพริกแบบง่ายๆ โดยเลือกพื้นที่ใกล้ๆบ้าน บริเวณที่ดอน น้ำไม่ท่วมขัง ใช้แกลบดิบรองพื้นหนาประมาณ 15 เซนติเมตร ใช้ตาข่ายมุ้งเขียวปูทับพื้นแกลบ ขึ้นโครงไม้ไผ่เป็นรูปครึ่งวงกลม กว้างประมาณ 2 เมตร ยาว 4 เมตร สูงประมาณ 1 เมตร หรือกว้างยาวตามความต้องการ คลุมโครงไม้ไผ่ด้วยพลาสติกใสให้มิดทุกด้าน พื้นที่ 8 ตารางเมตร อบพริกสดได้ 10 กิโลกรัม ใช้เวลา 3 วัน 2 คืน จะได้พริกแห้งประมาณ 4 กิโลกรัม” อาจารย์วีระ ภาคอุทัย กล่าวในที่สุด
อาจารย์วีระ ภาคอุทัย ข้อมูลข่าว/ภาพ
กิตติศักดิ์ สิงหา วิเคราะห์ สังเคราะห์และเผยแพร่
เกษตรกรบ้านซับไทรเก็บพริกส้ม
สีพริกส้มที่เก็บขาย
พริกป๊อปบ้านซับไทร
พริกจินดาบ้านโคกหินตั้ง
พริกส้มยาวบ้านซับไทร
พริกยอดสนระบบน้ำหยด บ้านหนองไฝ่ล้อม
กระโจมอบพริก บ้านยางเตี้ย
เกษตรกรบ้านซับไทรตากเมล็ดพันธุ์พริก
โรงอบพลังงานแสงอาทิตย์ บ้านโคกหินตั้ง อำเภอบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ
ไม่มีความเห็น