การกลับไปตามติดตาม...รับรู้เรื่องราวของเด็กๆ ต้นกล้าที่เคยมาฟื้นฟูฯ ที่วัดในหลายๆ คน บางคนอาจจะมาขัดเกลานานหน่อยสองเดือน สามเดือน หรือหกเดือน...ก็มี หรือบางคนอาจมาช่วงระยะเวลาสั้นๆ
แต่ละคนที่มาไม่ได้มาด้วยความเบาสบาย ... ไม่ได้มาอย่างเรียบง่าย หรือไม่ได้มาแบบเปี่ยมสุข แต่ความเป็นจริงที่เขามาให้เราได้พบเขานั้น จิตใจเต็มไปด้วยความทุกข์แสนสาหัส ที่แสดงออกมาหลากหลายมากมายในเชิงพฤติกรรม อารมณ์ และความคิด...
บางครั้งหากเราไม่ได้คลุกคลีเข้าไปในทุกด้านของเด็กๆ สิ่งที่เราพบก็เพียงแค่...การจินตนาการและการวางแผนอย่างสวยหรู ... แต่ที่จริงแล้วมันเป็นเรื่องที่หนักหนาอย่างมากกับการนำพาเขาจากจิตใจที่ถูกครอบงำด้วยอำนาจแห่งกิเลสที่เขาตกเป็นทาสอยู่นั้น ให้สามารถผ่านพ้นไปได้ในแต่ในเรื่องแต่ละช็อต
ตลอดเวลาที่ข้าพเจ้าได้สัมพันธ์กับเด็กๆ ... ไม่ว่าจะเป็นเด็กที่มาจากปัญหาครอบครัว เด็กที่มาจากปัญหายาเสพติด เด็กที่มาจากปัญหา...เชิงอารมณ์และพฤติกรรม การช่วยเหลือสิ่งสำคัญคือ การมอบความรักอันบริสุทธิ์ที่เราคุ้นกันว่า เมตตา อันเป็นเมตตาอย่างไม่มีเงื่อนไข ในขณะเดียวกันความเมตตาที่ว่านี่ไม่ใช่การละเฉย หรือเพิกเฉยต่อการกระทำด้านลบที่ถูกหนุนกิเลส ง่ายๆ ก็คือ การไม่ตามใจกิเลสของเขานั่นเอง...
หลายคนอาจเข้าใจผิดคิดว่า...การเมตตาคือ การไม่ไปแตะ ไม่ไปห้ามปรามในการกระทำด้านลบของเขา หากเราไม่ทำเช่นนั้น เด็กจะพลาดไปได้เร็วมาก...และโอกาสเอากลับคืนมาจะยากมาก ความก้าวร้าว ความหยาบกระด้าง การดำเนินชีวิตไปในทางอกุศลแบบสุดๆ... เด็กจะสั่งสมพฤติกรรม นิสัย และสันดานด้านนี้อย่างรวดเร็ว เพราะเรื่องของจิตนั้นเป็นเรื่องดั่งสายฟ้าแลบที่ละเอียดและซับซ้อน ดังนั้น การช่วยเหลือเด็กเราต้องมองอาการของเขาให้ออก ว่า ณ ตอนนี้สภาพใจเขาเป็นอย่างไร ... ที่แน่ๆ นะขาดรักแน่นอน การที่เราช่วยเขานั้น ต้องเติมรัก และเป็นรักที่เหนือกิเลส...
หากเราช่วยไม่ทัน...ก็ได้แต่ปล่อยจิตของเขาไหลไปสู่อกุศลเท่านั้นเอง
...
๒๓ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๖
ไม่มีความเห็น