ระวังยุงลาย
นายอานนท์ ภาคมาลี (หมอแดง)
โรคไข้เลือดออก โรคร้ายที่มียุงลายเป็นพาหนะนำโรค ซึ่งยุงลายจะเพาะพันธุ์ได้ดีในหน้าฝน ที่มีฝนตกลงมาท่วมขัง หากใครมีไข้สูง ไข้ไม่ยอมลด เบื่ออาหาร รู้สึกอ่อนเพลีย เซื่องซึม ขอให้ไปพบแพทย์ โดยสันนิษฐานไว้ก่อนว่า อาจเป็นโรคไข้เลือดออก
ยุงกัดเพราะอะไร ระวังไว้ ก่อนป่วยโรคไข้เลือดออก ช่วงนี้โรคไข้เลือดออกกำลังระบาด บางคนรักษาไม่ทันมีอาการหนักถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็มี ซึ่งวายร้ายที่นำพาเชื้อไข้เลือดออกมาสู่คนก็คือเจ้ายุงลาย ยิ่งในช่วงหน้าฝนอย่างนี้ก็ยิ่งบินเพ่นพ่านให้เห็นเต็มไปหมด ดีไม่ดีก็มากัดให้เราได้เจ็บ ๆ คัน ๆ เล่น แถมยังได้รับความเสี่ยงเป็นโรคไข้เลือดออกกันอีกด้วย แต่หากไม่อยากป่วยเป็นโรคนี้ ก็มาดูกันดีกว่าว่าอะไรบนตัวเรากันนะ ที่ดึงดูดยุงให้มาวนเวียนอยู่กับเราให้ต้องเสี่ยงกัน จะได้ป้องกันไว้ก่อนไงครับ
ออกกำลังกายจนเหงื่อออก สิ่งที่ดึงดูดให้ยุงมาตอมเรามากกว่าปกติ ไม่ใช่เม็ดเหงื่อที่ร่างกายขับออกมา แต่เป็นคาร์บอนไดออกไซด์ที่ผ่านออกมาทางลมหายใจของเราต่างหาก เพราะเวลาที่ร่างกายได้ออกกำลังมาก ๆ จนมีเหงื่อไหลโทรมกาย เราก็จะหายใจแรงขึ้นโดยอัตโนมัติ ทำให้คาร์บอนไดออกไซด์มีโอกาสได้ออกมาจากร่างกายของเรามากขึ้น ซึ่งเป็นอะไรที่ยุงโปรดปรานมากๆเลยล่ะครับ
การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เวลาที่ร่างกายเราได้รับแอลกอฮอล์ เคมีที่อยู่ใต้ผิวหนังเราจะเกิดการเปลี่ยนแปลง และการเปลี่ยนแปลงทางเคมีของผิวหนังนี่ล่ะ ที่ช่างยั่วยวนน้ำลายยุงสุด ๆ จนต้องพุ่งตรงมาหาเราโดยทันที และไม่รอช้าที่จะจัดการดูดเลือดผสมแอลกอฮอล์ของเราอย่างรวดเร็ว ไม่เชื่อลองสังเกตดูตอนที่คุณกำลังนั่งดื่มดูก็ได้ครับ อยากจะแอบบอกว่ายุงกินเลือดผสมแอลกอฮอล์แล้วไม่เมาเหมือนคนด้วยนะเออ
กลิ่นเท้า ยุงชอบกลิ่นเท้าของมนุษย์มากกว่าการที่มนุษย์ชอบดมกลิ่นอาหารหอม ๆ เป็นสิบเท่า ดังนั้นเมื่อเท้าเรามีกลิ่นอับ ก็จะสังเกตเห็นได้ว่ายุงมาตอมวนเวียนอยู่ที่เรามากกว่าปกติ และมีโอกาสที่เราจะโดนยุงกัดมากขึ้นด้วย รู้อย่างนี้แล้วก็หมั่นดูแลเท้าให้สะอาดอยู่เสมอดีกว่านะครับ ไม่ต้องทนมีกลิ่นเท้าเหม็น ๆ และเพื่อเลี่ยงไม่ให้ยุงมากัดด้วย
กลุ่มคนเยอะๆ เมื่อเกิดการรวมตัวของคนมากหน้าหลายตา ก็เท่ากับว่ามีคาร์บอนไดออกไซด์จากลมหายใจลอยฟุ้งอยู่ในอากาศมากขึ้นเท่านั้น เป็นเหตุให้ฝูงยุงบินตรงมาหาเราเหมือนผีเสื้อเจอมวลดอกไม้ และเป็นเสมือนโอกาสทองที่จะเลือกกินเลือดจากคนไหนก็ได้ ดังนั้นหากไม่อยากต้องโดนยุงกัดพยายามอย่ายืนรวมกลุ่มกันเยอะๆนะครับ
สิ่งแวดล้อมรกร้าง หากที่บ้านมีสวนหรือแอ่งน้ำ แต่ไม่เคยได้ดูแลจัดการ ปล่อยให้ต้นไม้ขึ้นจนรก มีน้ำสกปรกขังและอับชื้นอยู่ตลอดล่ะก็ เตรียมตัวรับมือกับฝูงยุงได้เลยค่ะ เพราะสภาพแวดล้อมอย่างที่บอกไป เปรียบเสมือนคอนโดหรูของยุงเลยก็ว่าได้ ดังนั้นหากไม่อยากให้สวนหลังบ้านกลายเป็นฐานทัพของฝูงยุง ก็จัดการตัดแต่งกิ่ง ถอนหญ้า กำจัดแอ่งน้ำ และทำสวนให้สวยงามกันดีกว่า
ตั้งครรภ์ ยุงจะสนใจคนท้องมากกว่าคนปกติ แต่ก็ต้องยอมรับเพราะคนท้องจะหายใจเอาคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาในปริมาณมาก และท้องป่อง ๆ ที่มีทารกน้อยอาศัยอยู่ก็จะมีอุณหภูมิสูง พอเหมาะพอดีกับอุณหภูมิที่ยุงต้องการ จึงดึงดูดให้ยุงมาวนเวียนและกัดคนท้องมากกว่านั่นเอง และเพื่อไม่ให้ยุงมายุ่งเกี่ยวกับเรา เราก็ควรจะต้องใช้มาตรการป้องกันดังนี้ครับทายากันยุง ไม่ว่าจะเป็นยาทากันยุงชนิด DEET, Picaridin, น้ำมันยูคาลิปตัส หรือตะไคร้หอม ก็ล้วนแล้วแต่เป็นยากันยุงที่สามารถป้องกันยุงได้ชะงัด เพราะสารที่มีอยู่ในยากันยุงแต่ละชนิด เป็นสารที่ยุงแสนจะเกลียดทำให้ยุงไม่มาวอแวกับเรานั่นเอง
เครื่องดักยุงได้ถูกออกแบบมาให้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ของโปรดของยุง ทำให้สามารถล่อยุงให้เข้าไปติดกับดักโดยง่าย และภายในก็จะมีหลอดไฟสลัว
ๆ และกลไกทางไฟฟ้าที่จะกำจัดยุงด้วยเหมาะจะนำไปใช้ในพื้นที่ที่มียุงชุมนะครับ
อย่างไรก็ตามในระยะที่เริ่มเข้าฤดูฝนอย่างนี้ เราจำเป็นต้องดูแลและปกป้องตัวเองจากยุงกันให้มากขึ้น
ด้วยเพราะหน้าฝนมีโอกาสที่จะเกิดน้ำขัง และมีความชื้นเหมาะกับการเกิดยุงมากที่สุด เอาเป็นว่าอย่าอยู่ในที่มืด
อับชื้น ใส่เสื้อผ้ารัดกุม และทายากันยุงป้องกันไว้ก่อนจะดีที่สุดครับ
ยุงลาย Aedes aegypti ซึ่งเป็นพาหะหลักนำโรคไข้เลือดออก
มีอุปนิสัยอาศัยอยู่ในบ้านเรือน โดยมีแหล่งเพาะพันธุ์เป็นภาชนะขังน้ำบริเวณบ้านพักอาศัย
เช่น ตุ่มน้ำ บ่อซีเมนต์กักน้ำ ซึ่งถึงแม้ปัจจุบันจะมีการใช้น้ำประปากันมากขึ้น แต่ประชาชนก็ยังคงเก็บกักน้ำดื่มและน้ำใช้
อีกทั้งในบางพื้นที่ยังคงไม่มีน้ำประปาใช้เราจึงยังพบลูกน้ำอยู่ทั่วไปในภาชนะขังน้ำ
ในบ้านเรือน
จานรองขาตู้กันมด เป็นภาชนะขังน้ำชนิดหนึ่งที่พบได้ทั่วไปในบ้านเรือน เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ยุงลายชอบมาวางไข่เช่นกันหรือแม้แต่แจกันที่คนนิยมปลูกต้นไม้ในบ้านเรือน เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลายแหล่งหนึ่งที่ประชาชนมักคาดไม่ถึง
ส่วนภาชนะขังน้ำที่อยู่นอกบ้าน ในบริเวณรอบ ๆ บ้านทั้งที่เป็นภาชนะเก็บกักน้ำไว้ใช้ หรือภาชนะเก่าที่ทิ้งไว้แล้วมีน้ำขัง เช่น ยางรถยนต์ กระป๋อง ไห กะลามะพร้าว เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลายได้ทั้งสิ้น
ส่วนยุงลายสวน Aedes albopictus ซึ่งเป็นพาหะนำโรคไข้เลือดออกได้เช่นกัน เป็นยุงที่พบอยู่ตามป่าและในเขตที่มีการปลูกต้นไม้ยืนต้น เช่น สวนยาง สวนมะพร้าว สวนผลไม้ และ ตามเขตชนบท โดยมีแหล่งเพาะพันธุ์อยู่ตามโพรงต้นไม้ กระบอกไม้ไผ่ เศษใบไม้ที่หล่นตามพื้น รวมทั้งภาชนะที่มนุษย์สร้างขึ้น แต่พบอยู่นอกบ้าน เช่น ยางรถยนต์ กระป๋องน้ำ ดังนั้นยุงลายชนิดนี้จึงเป็นพาหะที่มีบทบาทสำคัญในเขตชนบท
การสำรวจยุงลายพาหะนำโรคไข้เลือดออก ซึ่งจะเน้นที่ยุงลาย Aedes aegypti เป็นมาตรการ การเฝ้าระวังยุงพาหะเพื่อนำข้อมูลมาใช้สนับสนุนงานควบคุม ทำให้ทราบถึงสถานการณ์ด้านต่าง ๆ ของยุง ได้แก่ ความชุกชุม การเปลี่ยนแปลงประชากรและการแพร่กระจาย การดำเนินการสำรวจและเก็บข้อมูล ควรจะได้ดำเนินการอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ซึ่งผลที่ได้คือ ทำให้ทราบถึงสถานที่ที่เสี่ยงต่อการระบาด ระดับและการเปลี่ยนแปลงของประชากร รวมทั้งแหล่งเพาะพันธุ์ที่สำคัญของยุง เพื่อใช้สำหรับดำเนินการควบคุมและ ประเมินผลทั้งก่อนและหลังการควบคุมที่ได้ดำเนินการไปในแต่ละพื้นที่หรือหมู่บ้านได้อย่างถูกต้อง ซึ่งการสำรวจยุงลายทำได้ทั้งการสำรวจตัวเต็มวัยและการสำรวจลูกน้ำการสำรวจลูกน้ำที่ปฏิบัติเป็นมาตรฐานโดยการแนะนำจากองค์การอนามัยโลก คือวิธีสำรวจแบบ Visual larva ซึ่งเป็นการสำรวจเพียงว่าภาชนะขังน้ำในบริเวณบ้านเรือน พบหรือไม่พบลูกน้ำยุงลายเท่านั้น โดยไม่ต้องเก็บลูกน้ำมาจำแนกชนิด เนื่องจากการศึกษาพบว่าลูกน้ำที่พบในภาชนะขังน้ำในบริเวณบ้านส่วนใหญ่ เป็นลูกน้ำยุงลายชนิด Aedes aegypti อุปกรณ์ที่ใช้ในการสำรวจลูกน้ำ ได้แก่ ไฟฉาย และ แบบสำรวจ เมื่อได้ขออนุญาตเจ้าของบ้านแล้ว ให้ดำเนินการสำรวจ โดยใช้ไฟฉายส่องดูภายในภาชนะที่ขังน้ำ ทุก ๆ ภาชนะ ว่ามีลูกน้ำหรือตัวโม่งหรือไม่ แล้วบันทึกลงในแบบสำรวจ สำหรับภาชนะที่ไม่มีน้ำขังจะไม่จดบันทึกลงในแบบสำรวจและสำหรับหมู่บ้านขนาดเล็กควรสำรวจทุก ๆ บ้าน แต่ถ้าเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ ควรสำรวจ 50 - 100 หลังคาเรือน โดยใช้วิธีสุ่มสำรวจ ให้ได้ตัวอย่างของบ้าน กระจายให้ทั่วถึงหมู่บ้าน แต่ถ้าสำรวจในเขตเมือง ควรสำรวจให้กระจายให้ครอบคลุมบ้านทุกประเภท ทั้งบ้านพัก ตึกแถว ชุมชนแออัด เป็นต้น
เมื่อได้ดำเนินการสำรวจลูกน้ำแล้ว นำข้อมูลที่สำรวจได้มาคำนวณหาดัชนีความชุกชุมของลูกน้ำยุงลายได้แก่ค่า
House Index (HI) หมายถึง จำนวนบ้านที่สำรวจพบลูกน้ำใน100บ้านคำนวณได้จากจำนวนบ้านที่สำรวจพบลูกน้ำยุงลายหารด้วยจำนวนบ้านที่สำรวจทั้งหมดคูณด้วยร้อย
Container Index (CI) หมายถึง จำนวนภาชนะที่สำรวจพบลูกน้ำใน 100
ภาชนะคำนวณได้จาก
จำนวนภาชนะที่สำรวจพบลูกน้ำยุงลาย หารด้วย
จำนวนภาชนะที่สำรวจทั้งหมด คูณด้วย ร้อย
Breteau Index (BI) หมายถึง จำนวนภาชนะที่สำรวจพบลูกน้ำใน 100
บ้าน คำนวณได้จาก
จำนวนภาชนะที่สำรวจพบลูกน้ำยุงลาย หารด้วย จำนวนบ้านที่สำรวจทั้งหมดคูณด้วย
ร้อย
ค่า BI จะเป็นค่าดัชนีที่ใช้ประมาณความชุกชุมของยุงลายได้ดีที่สุด
เพราะเป็นการรวมทั้งจำนวนบ้านและภาชนะที่พบลูกน้ำยุงลาย
การสำรวจยุงตัวเต็มวัย
เป็นวิธีหนึ่งสำหรับประเมินความหนาแน่นของยุงลาย โดยจากการศึกษาอุปนิสัยในการออกหากินของยุงลายตัวเมีย
พบว่ายุงลายเป็นยุงที่ชอบอาศัยอยู่ในบ้าน ออกหากินไม่ห่างจากแหล่งเพาะพันธุ์มากนักชอบกัดกินเลือดคนและหากินในเวลากลางวัน
โดยเฉพาะในช่วงเวลา 8.00-11.00 น. และ 13.00-17.00
น. ดังนั้นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการสำรวจยุงลาย จึงควรเป็นช่วงเวลาดังกล่าว
อุปกรณ์ที่ใช้ในการสำรวจ ได้แก่ไฟฉาย หลอดแก้วหรือหลอดพลาสติก
สำลีสำหรับอุดปากหลอดแบบบันทึกและถุงเพื่อใส่อุปกรณ์ดังกล่าว
วิธีสำรวจ เมื่อได้ขออนุญาตเจ้าของบ้านแล้ว ให้เข้าไปนั่งจับยุงในบ้าน
โดยเลือกบริเวณที่ไม่มีแสงสว่างมากนัก ลมไม่พัดจัด ไม่มีการจุดยากันยุง
ผู้สำรวจจะนั่งโดยพับขากางเกงให้สูงเหนือเข่า พับแขนเสื้ออยู่เหนือข้อศอกเพื่อล่อยุงลาย
เมื่อยุงเริ่มมาเกาะกัดส่องด้วยไฟฉายให้แน่ใจว่าเป็นยุงลาย ใช้หลอดจับยุงครอบตัวยุงแล้วอุดปากหลอดด้วยสำลี
ปฏิบัติเช่นนี้บ้านละ 20 นาที นับจำนวนยุงลายที่จับได้
แยกเป็นเพศผู้ เพศเมีย แล้วบันทึกลงในแบบสำรวจจากนั้นนำข้อมูลมาคำนวณหา
อัตราการกัด(BitingRate)จำนวนยุงลายตัวเมียที่จับได้ต่อคนต่อชั่วโมง
อัตราการเกาะกัด (Landing Rate) = จำนวนยุงลายที่จับได้ทั้งหมดต่อคนต่อชั่วโมง
วิธีหนึ่งที่จะควบคุมไข้เลือดออกให้ได้ผลดี คือ การควบคุมยุงพาหะนำโรค ซึ่งทำได้ทั้งการกำจัดตัวอ่อนและตัวเต็มวัย การควบคุมทำได้หลายวิธี ผู้ดำเนินการควรเลือกใช้วิธีที่เหมาะสม ตามแต่สภาพแวดล้อม และเศรษฐานะโดยรัฐและประชาชนควรร่วมมือกัน อย่างจริงจังและต่อเนื่องเริ่มแรกประชาชนควรดำเนินการป้องกันตนเอง และบุตรหลาน ไม่ให้ป่วยเป็นไข้เลือดออก โดยหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกยุงกัด โดยเฉพาะ เด็กที่ต้องนอนตอนกลางวัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาออกหากินของยุงลายเพศเมีย เราสามารถป้องกันการถูกยุงกัดได้โดยให้เด็กนอนบริเวณที่มีลมถ่ายเทสะดวก หรือนอนในมุ้ง การกำจัดลูกน้ำยุงลาย ประชาชน สามารถดำเนินการได้เอง อย่างง่าย ๆ จากการที่เราทราบว่า ลูกน้ำยุงลายมีแหล่งเพาะพันธุ์ เป็นภาชนะขังน้ำดื่มน้ำใช้ในบ้านและบริเวณรอบ ๆ บ้าน การกำจัดทำได้หลายวิธี เช่น ใช้ฝาปิดภาชนะขังน้ำ เพื่อป้องกันยุงลายลงไปไข่ หมั่นขัดล้างเปลี่ยนถ่ายน้ำในภาชนะต่าง ๆ เพื่อกำจัดไข่และลูกน้ำ ใส่เกลือหรือน้ำส้มสายชูในจานรองขาตู้กันมด หมั่นเปลี่ยนน้ำและตรวจดูลูกน้ำในแจกันที่ปลูกต้นไม้ภายในบ้าน เก็บ คว่ำ หรือทำลายภาชนะขังน้ำที่ไม่ได้ใช้เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลาย ซึ่งวิธีการเหล่านี้ควรจะได้ทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้สามารถลดจำนวนประชากรของยุงลายไปได้มาก
ส่วนการกำจัดยุงลายตัวเต็มวัย สามารถดำเนินการเองได้ หลายวิธีทั้งโดยวิธีกล
โดยการใช้มือตี หรือ การใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น ที่ตียุงไฟฟ้า การใช้สวิงโฉบโดยการใช้ผลิตภัณฑ์เคมีกระป๋อง ซึ่งมีขายทั่วไป ฉีด
พ่น ซึ่งมีข้อแนะนำดังนี้คือ ผู้ใช้ควรหลีกเลี่ยงการสูดดมละอองเคมีโดยตรง ควรฉีดให้ฟุ้งกระจายโดยเฉพาะตามมุมห้องหรือใต้โต๊ะ
อย่าฉีดพ่นโดยตรงบนเครื่องอุปโภค บริโภคและควรฉีดทิ้งไว้ 15-30นาทีจึงจะเข้าไปอยู่ในบริเวณนั้น
นอกจากผลิตภัณฑ์เคมีแล้ว เราอาจใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ประจำในบ้าน
คือน้ำยาล้างจาน ฉีด พ่นยุงลายตัวเต็มวัย โดยผสมน้ำยาล้างจาน 1 ส่วน ต่อน้ำ 4 ส่วน ใส่ลงในกระบอกฉีด ฉีดพ่นฆ่ายุงให้ห่างจากตัวยุงประมาณ
30-50 เซนติเมตร โดยอาจจะฉีดพ่นไปที่บริเวณแหล่งเกาะพักของยุงลาย
เช่น บริเวณเสื้อผ้าที่ใช้แล้ว ห้องน้ำ บริเวณมุมห้องหรือที่อับแสงของบ้าน
ซึ่งจะทำให้ยุงตาย เนื่องจากเปียกน้ำและ บินไม่ได้ และ
หลังจากใช้แล้วควรเช็ดถูพื้นที่เปียก เพื่อป้องกันการลื่น อีกวิธีหนึ่งที่ประชาชนสามารถดำเนินการเองได้
โดยการใช้ตัวห้ำต่าง ๆ กินลูกน้ำยุงลาย เช่น การใช้ปลาหางนกยูงใส่ลงในตุ่มน้ำใช้
ส่วนภาครัฐสามารถดำเนินการสนับสนุนการควบคุมยุงลายโดยการให้สุขศึกษา
และความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับยุงลายและไข้เลือดออก ให้การสนับสนุน วัสดุ อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการควบคุมยุงลาย
ดำเนินการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านทางสื่อต่าง ๆ เช่น โปสเตอร์ แผ่นพับ ใบปลิว
วีดีโอ วิทยุกระจายเสียง ให้การสนับสนุนสารกำจัดลูกน้ำตามความเหมาะสม เช่น ทรายอะเบท
โดยใส่ในอัตราส่วน 20 กรัมต่อน้ำ 200 ลิตร
ซึ่งจะสามารถควบคุมลูกน้ำยุงลายได้นานประมาณ 3 เดือน หรือใช้ผลิตภัณฑ์จุลินทรีย์
ซึ่งจากการศึกษาพบว่า แบคทีเรีย Bacillus thuringiensis subsp israelensis ที่ อัตราส่วน 1 เม็ด (1 กรัม)
ความแรง 500 ITU/mg ต่อน้ำ 200 ลิตร
สามารถควบคุมลูกน้ำได้นาน 2 อาทิตย์ ถึง 1 เดือน โดยขึ้นอยู่กับสภาพการใช้น้ำ
เพื่อเป็นการป้องกัน หรือยับยั้งการระบาดของไข้เลือดออก หรือ
เมื่อต้องการลดปริมาณความชุกชุมของยุงลายโดยฉับพลัน ภาครัฐสามารถสนับสนุนการพ่นเคมีกำจัดยุงลายในชุมชนซึ่งโดยทั่วไปการพ่นเคมีจะมีการใช้งานอยู่
2 แบบ แบบแรกคือการพ่นหมอกควัน
เป็นการพ่นฆ่ายุงโดยใช้เคมีฆ่าแมลงเจือจาง เช่น Malathion 5 %,
Fenitrothion 2 % ซึ่งจะมีทั้งแบบติดตั้ง บนรถยนต์และชนิดมือหิ้ว
ส่วนแบบที่สองคือ การพ่นละอองฝอยละเอียด เป็นการพ่นโดยใช้สารเคมีที่มีความเข้มข้นสูง
การพ่นแบบนี้มีข้อดีกว่าการพ่นแบบหมอกควันหลายประการคือ ใช้สารเคมีน้อยเนื่องจากความเข้มข้นสูง
เวลาพ่นไม่มีหมอกควัน เป็นการลดมลพิษทางอากาศ และ
การใช้สารเคมีความเข้มข้นสูงทำให้มีฤทธิ์ตกค้างในการฆ่ายุงหลังการพ่นอีกหลายวัน
เมื่อประชาชนได้ตระหนักถึงอันตรายของไข้เลือดออกที่จะเกิดขึ้นกับบุตรหลาน
โดยคอยหมั่นตรวจตรากำจัดลูกน้ำในบ้านอย่างต่อเนื่อง ให้ความร่วมมือกับรัฐ ใช้วิธีควบคุมดังที่กล่าวมาแล้วตามความเหมาะสม
เราก็จะสามารถลดจำนวนผู้ป่วยด้วยไข้เลือดออกลงได้อย่างแน่นอน
ก่อนหน้านี้แถว ๆ บ้านคุณมะเดื่อก็มีคนเป็นไข้เลือดออกบ้างแล้วจ้ะ แต่ช่วงนี้ยังไม่ได้ข่าวว่ามีคนป่วย
ด้วยไข้เลือดออกอีก
ใครไม่เชื่อต้องลองพิสูจน์ด้วยการดื่มแอลกอฮอล์หรือเปล่าคะเนี่ย...(ข้ออ้างของคนชอบดื่ม)