วิจารณ์ทักษิณปราศรัยเสื้อแดง ๑๙ พค. ๕๖


จับผิดทักษิณปราศรัยเสื้อแดง ๑๙ พค. ๕๖

ผมฟังเทปทักษิณปราศรัยผ่านสไกป์มายังเสื้อแดงชุมนุมราชประสงค์รำลึก เมื่อ ๑๙ พค. ๕๖ ด้วยความกระท่อนกระแท่น โดยกระโดดข้ามไปเสียก็มาก เพราะบ่องตง เบื่อ รำคาญ จะอ้วก เพราะ วนเวียน ซ้ำซาก น้ำเสียงก็กวนประสาท ไม่น่าฟังอีกต่างหาก มันต่างจากฟัง โอบามา ฟ้ากะดิน ที่สำเนียงผู้ดี ราบรื่น น่าฟัง ฟังได้ไม่เบื่อ แม้เป็นเรื่องพื้นๆ 

แม้ฟังแบบกระโดดๆ ผมก็เชื่อว่ายังจับผิดได้มากมาย

ประการแรก ทักษิณ โอดครวญเรื่องที่ขายหุ้นชินคอร์ปแล้วไม่ต้องเสียภาษี แต่ถูกศาลสั่งยึดเงินไปหลาย ทักษิณปราศรัยวิจารณ์แสดงข้อกฎหมายเป็นการใหญ่ (เรื่องเก่าเล่าซ้ำเป็นสิบเที่ยวแล้ว) ...เอาละ ผมจะสมมติด้วยซ้ำไปว่าข้อกฎหมายที่ทักษิณอ้างนั้นถูก กล่าวคือบริษัทชิน ไม่ต้องเสียภาษีสักสตางค์แดงเดียว .....แต่ผมถามว่า แล้วมันกงการอะไรของคุณที่จะต้องออกมาเป็นทนายแก้ต่างให้บริษัทชิน เพราะตอนนั้นคุณเป็นนายก คุณไม่ได้เป็นเจ้าของบริษัท แต่ลูกคุณเมียคุณต่างหากที่เป็น ดังนั้นการที่คุณออกมาแก้ต่างแทนนี้เท่ากับว่าคุณยอมรับว่าบริษัทนั้นเป็นของคุณ เท่ากับว่าคุณเป็นนายกและเป็นเจ้าของบริษัทพร้อมกันไปด้วยใช่ไหม ...นี่มันแบเบอร์เลยครับว่าคุณ “ทับซ้อน” ...ถ้าจำเป็นต้องขึ้นศาลอีกครั้ง ..สามารถเอาเทปที่คุณปราศรัยวันที่ ๑๙ พค. นี้มาเป็นหลักฐานได้แน่ ผมเชื่อ ...คราวนี้คุณจะถูกยึดทั้งหมด ไม่ใช่เพียงแค่ ๔.๖ หมื่นล้านเท่านั้น ...ไม่ใช่ยึดทั้งหมด ยังต้องเสียค่าปรับเพิ่มด้วย ฐานทำให้ชาติเสียหายมากหลายเท่าจากการทับซ้อนนั้น

ประการต่อมา คุณบอกว่าคุณไม่ชอบฆ่าคน ปฏิเสธการสั่งฆ่าตัดตอนไปเกือบสามพันศพ แต่อ้างว่าคุณชอบแข่งขัน ...ผมถามง่ายๆ ว่า ถ้าคุณชอบแข่งขันจริง ทำไมตอนเริ่มทำกิจการโทรคมนาคม คุณไม่เสนอฝ่ายปกครองให้มีการแข่งขันเสรี แต่คุณกลับขอสัมปทานให้คุณผูกขาดคนเดียวโดยไม่มีการแข่งขันเล่า ...จนคุณสามารถกำหนดราคาได้แบบมัดมือชกลูกค้า จนคุณทำกำไรงาม กลายเป็นมหาเศรษฐีลำดับต้นของเมืองไทยอย่างรวดเร็ว ซึ่งนำคุณสู่อำนาจการเมืองในที่สุด

พอตั้งพรรคการเมือง ชนะการเลือกตั้งครั้งแรก โดยไม่เบ็ดเสร็จนัก คุณก็ไม่ชอบการแข่งขันอีก กลับใช้วิธีง่ายๆ ด้วยการควบรวมพรรคการเมืองอื่นๆ เข้ามาเป็นพรรคเดียวกับคุณ เพื่อให้ได้เสียงข้างมากแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ถ้าคุณชอบการแข่งขันจริงดังโม้ คุณต้องไม่ใช้วิธีลัดแบบนั้นสิ 

การ”แข่งขัน”ของคุณนั้นมันน่า “ขบขัน” มากเลยนะ 

เรื่องที่มี “ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่” เสนอคุณให้ลอบฆ่าสนธิ ลิ้ม แล้วธรรมะในใจคุณสั่งให้คุณปฏิเสธข้อเสนออันเลวทรามนั้น แม้นว่าเป็นเรื่องจริง ก็แสดงให้เห็นธาตุแท้ว่าคุณเป็นคนขายเพื่อนเสมอ ...เชื่อว่า ขรก.ผู้ใหญ่ท่านนั้น ก็กำลังฟังคำปราศรัยของคุณอยู่ แล้วท่านจะคิดอย่างไรที่ถูกเอาไปขายกลางเวทีเช่นนี้ ...แม้ไม่เอ่ยชื่อ แต่ท่านฟังแล้วก็ต้องรู้สึกละอายขายหน้า ว่าทักษิณตำหนิว่าท่านเป็นคนเลวกลางเวที ส่วนคุณเป็นคนดีมีธรรมะ ไม่สั่งฆ่า .......คุณเป็นขายเพื่อนกินเช่นนี้เสมอใช่ไหม นี่จับได้คาหนังคาเขากลางเวทีปราศรัย ...เพียงแค่นี้คุณก็หมดราคาแล้ว ในห้วงคำนึงของวิญญูชนที่คิดเป็น มองออก และโดยเฉพาะ “ขรก.ชั้นผู้ใหญ่” ท่านนั้น

แล้วอ้าว...ขนาด ขรก. ผู้ใหญ่ ยังไม่เคารพกฎหมาย จะไปลอบฆ่าประชาชนเล่น เพื่อเอาใจนาย ว้ายตาเถรประเทศไทยที่มีใครเป็นนายกหนอ 

การที่ขรก.ผญ. กล้านำไปเสนอ แสดงว่า รู้เช่นเห็นชาติกันใช่ไหม ว่านิสัยคล้ายกัน การที่บอกว่า “ไม่” เพราะเล็งเห็นใช่ไหมว่าถ้าสนธิตาย ใครๆ ก็ต้องชี้นิ้วมาที่ตน ก็จะยิ่งโกลาหลไปใหญ่ แบบว่าไม่รอดแน่ ...ที่ว่า “ไม่” นั้น เพราะ “ดี” หรือว่า “ไม่” เพราะ ” กลัว” กันแน่ ...... ฮั่นแน่ รู้ไก๋หรอกน่า

เรื่องอื่นๆ ยังมีอีกมาก แต่ผมไม่อยากตอแยมาก เวลาผมมีค่า

...คนถางทาง (๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖)

ปล. อย่างน้อยวันนี้ผมสบายใจว่าคุณคงไม่ส่งใครไปฆ่าผม แม้มี “ขรก. ผู้น้อย” มาเสนอ แต่ผมว่า ถ้าผมถูกฆ่า คุณก็มีทางออกสวยๆ ที่ทำให้คุณดูดีจนได้นั่นแหละ เช่น คุณเป็นคนดี มีคนรักคุณมาก เลยมาล้างแค้นแทนคุณ..แต่ทำไมในการปราศรัยของคุณ ไม่เห็นคุณปรามคนในคอกของคุณสักนิดล่ะ ว่าถ้ารักสันติอย่างผมจริง อย่าไปทำร้ายใครนะ อย่าไปเผาบ้านเผาเมือง เผาศาลากลางอีกนะ ผมรักสันติ ผมไม่ชอบการกระทำอันเลวทรามแบบนั้น 


หมายเลขบันทึก: 536590เขียนเมื่อ 20 พฤษภาคม 2013 23:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 พฤษภาคม 2013 23:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

อาจารย์ครับ ผมอยากให้อาจารย์ วางชอล์ค ลงมาเล่นการเมืองเถอะครับ บ้านเมืองเรา ล้มละลายแน่ ถ้าไม่มีคนที่รู้ทัน รู้จริง ของผู้ที่บริหารบ้านเมืองเราทุกวันนี้ ว่าแท้จริง ก็คือ กลุ่มนักธุรกิจการเมืองกลุ่มหนึ่ง เท่านั้น ไม่มีเรื่องที่ทำอะไรให้ชาวบ้าน อย่าง ยายเพ็ง บ้านโคกอีแหลว แกบ่นใด้ว่า ทำไม เงินร้อยบาท ปีกลาย ใปตลาด พอมีเงินเหลือ ซื้อปลาทูเค็ม มาทำเป็นน้ำพริกแจ่วจ้ำกินใด้ปีนี้ ไม่ใด้แล้ว แกก็บอกว่าเจ้านายบอกในโทรทัศน์ ว่ามันแพงแบบนี้ เหมือนกันทั่วโลกแหละ  แล้วแกก็พูดเรื่องนิยายช่องนั้น ช่องนี้ เมียหลวง ตบเมียน้อยเบาจัง ก็แค่นั้น แกมีชื
วิต

ที่ ไม่ยอม และไม่อยากรู้การเมือง แกบอกแต่ว่า เป็นเรื่องของเจ้านาย

อยากให้อาจารย์เข้าไปทำชีวิตของยายเพ็งแกรู้ว่า เงืนร้อยบาทของแก ทำไมปีนี้ ทำไมไม่มีพอ ซื้อปลาเค็มสักตัว มากินใด้ กับอีกหลายๆชีวิต ที่ยังไม่เข้าใจว่า การเมือง คือเรื่องที่ต้องรู้เรียน ต้องรู้ มากกว่านี้ การเลือกเจ้านาย ไปเล่นละคร พญามังกือ กับปลูกต้นงิ้ว ควรเลือกใคร จริงๆนะครับ ชาติ ต้องการ คนอย่างอาจารย์

 

ผมชอบมุมมองของอาจารย์ครับ มีโอกาสคงได้รับฟัง และแลกเปลี่่ยนกันบ้างนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท