นึกได้ก็เขียนถึง ; แม่ชีน้อย ตอนบทเรียนไม่อาบน้ำ


เมื่อคืนข้าพเจ้ากลับเข้าถึงวัดก็มืดแล้วประมาณสองทุ่มกว่า... มองดูเวลาก็เป็นเวลาที่แม่ชีน้อยไปทำวัตรเย็น ข้าพเจ้าจึงนั่งอ่านหนังสือรอ อีกประมาณสองสัปดาห์ก็ครบสองเดือนที่แม่ชีน้อยเข้ามาบวช

แม่ชีกอและแม่ชีมดแดงอายุ ๘ ขวบ แม่ชีตาลอายุ ๙ ขวบ แม่ชีบิ๋มและแม่ชีครีมอายุ ๑๐ ขวบตามลำดับ...

ทานข้าวมื้อเดียวเป็นนิจ ตื่นตีสี่เป็นประจำเพื่อมาทำกับข้าวและขนมถวายพระ

และตลอดเวลาของการบวชแม่ชีน้อยข้าพเจ้าก็ใช้ชีวิตอยู่ในวัดร่วมด้วย กลางวันทำงาน กลางคืนพาแม่ชีน้อยภาวนา จิตใจของแม่ชีน้อยสดใสและเบิกบานมาก มีกิจกรรมทำอยู่เนืองๆ

จำได้ว่าช่วงของการบวชแรกๆ นั้นต่างมีจิตใจที่หวั่นไหว ว่าจะโกนผมดีหรือไม่ มีแม่ชีตาลที่มีจิตใจหนักแน่นแน่วแน่มาก มุ่งมั่นต่อการบวชโกนผม และเมื่อได้นำผมออกจากศีรษะเท่านั้นแหละทุกอย่างก็ดูโล่งอกโล่งใจไปหมด

ชีวิตก็เข้าสู่กระแสของการรักษาศีล เป็นอุบาสิกาน้อยศีล๘

ขณะที่กำลังนั่งทานปรมัตที่พระอาจารย์และสามเณรท่านเมตตาแบ่งมาให้นั้น แม่ครูก็ได้ทราบว่า แม่ชีน้อยทั้งห้ายังไม่ได้อาบน้ำ เมื่อชำเลืองดูเวลาก็เกือบจะสี่ทุ่มแล้ว... เอาล่ะสิ งานเข้าแม่ชีน้อย

แม่ครูให้แม่ชีน้อยตัดสินใจว่าจะเดินแก้ผ้ารอบวัดในยามมืดหรือจะไปนอนที่ศาลาเมรุ...แม่ชีน้อยทั้งหลายหน้าจ๋อย รีบชุมนุมกันพร้อมหารือ...

"นอนศาลาเมรุค่ะ..." ต่างตอบพร้อมกัน 

แม่ครูก็รีบหาอุบาย...อีก เอาให้ได้เรียนรู้กันอย่างเต็มๆ เลย "ถ้านอนศาลาเมรุ...ก็ให้รีบเดินไปในบ้านแม่ชีไปเอาเสื้อผ้ามาอาบน้ำที่ห้องน้ำศาลาสาม ถ้ากลับออกมาช้า แม่จะให้ทั้งเดินจงกลมรอบวัดและไปนอนศาลาเมรุ" (ตกดึกบริเวณในบ้านแม่ชีอากาศชื้นมากอุบายแม่ครูว่า...อย่างไรก็ต้องให้แม่ชีน้อยอาบน้ำให้ได้) 

ไม่ถึงสิบนาที ระยะห่างจากบ้านแม่ชีมาที่ศาลาสี่ก็ไกลพอควร แต่มองดูการเดินของแม่ชีน้อยแล้วอดแอบยิ้มขำไม่ได้ แม่ครูก็แอบคิดในใจ...ทีอย่างนี้ล่ะตั้งใจ

แต่พอไปอาบน้ำ...ก็เข้ารอยเดิม

อาบน้ำไปเล่นไป...

แม่ครูก็หาอุบายบทเรียนย้ำลงไปเลย พออาบน้ำออกมาคิดว่าจะได้นอน เปล่าเลยแม่ครูก็ยังไม่ให้นอน มอบหมายงานให้ทำรอบดึก... ให้เอาล้อเข็ญไปขนของที่กุฏิแม่ครูออกมาที่ศาลา ปกตินิสัยแม่ชีน้อยเวลาจะทำอะไรก็ทำด้วยกันหมด แต่คราวนี้แม่ครูจับแยกให้ทำสองงาน งานหนึ่งเก็บของทำความสะอาดบริเวณลานเรียนรู้ข้างศาลาสี่

แม่ชีบิ๋ม...ทำงานเดี่ยว จากที่มักต้องมีคนคอยเป็นเพื่อนแต่แม่ครูไม่ยอม เท่านั้นแหละเจอภาคบังคับก็ต้องยอม ปรากฏว่าผลการทำงานออกมาได้อย่างดี ส่วนอีกสี่คนที่เอาล้อเข็ญ...ไปขนของ ณ ตอนนั้นเวลาสี่ทุ่มแล้วไม่มีอาการกลัวความมืดเลย จิตนี้ร่าเริงเบิกบานมาก ท่าทางที่แม่ชีมดแดงขึ้นนั่งล้อเข็ญแล้วพี่ๆ เพื่อนๆ ช่วยกันเข็ญล้อไปตามทางที่มืดสลัว...ไม่ได้ทำให้เหล่าแม่ชีน้อยจิตตกลง

อดยิ้มไม่ได้...และรู้สึกภูมิใจอย่างยิ่งในตัวแม่ชีน้อย 

ไม่มีท่าทีโกรธเคืองหรือเศร้าหมองเลย เต็มไปด้วยความตั้งใจทำหน้าที่

พอทุกคนกลับมาพร้อมหน้า...

ข้าพเจ้าตั้งคำถามว่า "ได้เกิดการเรียนรู้อะไร"...

ใครตอบได้...เข้าห้องนอน ใครตอบไม่ได้หรือไม่ยอมอยากจะคิดอยากจะตอบก็ให้ได้นอนศาลาเมรุ...

ปรากฏว่า "แม่ชีมดแดงและแม่ชีกอ"ไม่ยอมตอบ... พอพี่ๆ ที่ตอบทีหลังเขาพยายามตั้งใจสำรวจเข้ามาในใจและในความคิดของตนเอง แล้วก็นำสิ่งนั้นออกมาตอบ เท่านี้แม่ครูก็ให้โอกาสนอนที่ศาลาสี่ ... 

แม่ชีกอและแม่ชีมดแดงได้มุ้งเต๊นซ์เพื่อนำไปกางนอนที่ศาลาเมรุ ต่างร้องขอโอกาสอีกครั้ง... ข้าพเจ้าจึงให้สำรวจใจตนเองและตอบ รอบนี้ตอบได้ทำได้...

แล้วทุกคน...ก็ได้นอนห้องศาลาสี่ อันอบอุ่น

พร้อมกับตื่นเช้ามาทำขนมถวายพระอย่างตั้งใจ

...

๗ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๖


หมายเลขบันทึก: 535074เขียนเมื่อ 8 พฤษภาคม 2013 10:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 ตุลาคม 2013 06:52 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

มาให้กำลังใจแม่ชีน้อยค่ะ

เกือบได้นอนที่ศาลาเมรุ ซะแล้วแม่ชีน้อย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท