การได้ทำกิจกรรมร่วมกับเกษตรกรที่ดำเนินกิจกรรมการเกษตรแบบชีววิถีและเกษตรอินทรีย์ ภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้ดิฉันได้มีโอกาสเรียนรู้เรืืองราวดี ๆ เป็นแบบอย่างการใช้ชีวิตของเกษตรกรหลายคน พี่ทัศนีย์ ไฮคำ เป็นเกษตรกรรายหนึ่งท่ีดิฉันรู้สึกชื่นชมในความเพียรพยายาม และการดำเนินชีวิต ซึ้งแม้เธอจะเป็นเสมือนเพียงคนตัวเล็กท่ีมีเสียงแผ่วเบาในสังคม แต่สิ่งท่ีเธอกระทำมีพลังมากมายต่อการเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคของคนในสังคม จึงอยากแบ่งปันดังนี้คะ
พี่ทัศนีย์ ไฮคำ อายุ 48 ปี จบการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 9 บ้านปง ต.บ้านกาด อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ สามีมีอาชีพรับจ้างทั่วไป มีบุตรชายหญิง 2 คน บุตรชายจบชั้น ปวส.บุตรสาวกำลังเรียนปริญญาตรี ปีที่ 2
เดิมพี่ทัศนีย์ ไฮคำ มีอาชีพรับจ้างทั่วไป มีรายได้วันละ 200 บาท ซึ่งเป็นจำนวนที่เพียงพอสำหรับใช้จ่ายประจำวันแต่ไม่สามารถเหลือเก็บออมได้ ต่อมามีโอกาสได้รู้เรื่องการทำเกษตรปลอดสารพิษจากอาจารย์รังสรรค์ กันธิยะ และรับการอบรมเรื่องการเกษตรชีววิถีจากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเชียงใหม่ จึงมีความสนใจและเริ่มศึกษาการทำเกษตรปลอดสารพิษ โดยเริ่มจากทดลองปลูกเพื่อรับประทานในครอบครัว ซึ่งพบว่า สามารถลดรายจ่ายและได้รับประทานผักที่ปลอดภัย ช่วยรักษาสุขภาพ ประกอบกับตระหนักว่า ตนเองมีอายุเพิ่มขึ้น ยังไม่มีบ้านอาศัยเป็นของตนเอง และลูกกำลังเรียนในระดับสูงขึ้น ซึ่งจำเป็นต้องใช้เงินมากขึ้น การออมเงินและการสร้างงานพร้อมกับการรักษาสุขภาพจึงเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งยังเห็นว่าเพื่อนเกษตรกรหลายคนที่ปลูกพืชปลอดสารพิษสามารถปลดเปลื้องหนี้สิน มีเงินออม มีอาชีพดี มีความสุขกับครอบครัวเพราะการปลูกผักปลอดสารพิษ อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากเจ้าของที่ดินซึ่งตนเองทำหน้าที่เฝ้าสวนให้ว่า ให้สามารถใช้ประโยชน์จากที่ดินได้ และในครั้งที่ทดลองปลูกผักปลอดสารพิษ ได้นำผักที่ปลูกไปให้เจ้าของที่ดินรับประทาน ปรากฏว่า เจ้าของที่ดินแสดงความชื่นชมสนับสนุนให้เข้ารวมกลุ่มผู้ปลูกพืชปลอดสารพิษ จึงสมัครเข้าร่วมโครงการพืชปลอดสารพิษกลุ่มอาจารย์รังสรรค์ กันธิยะ และปรับเปลี่ยนอาชีพจากรับจ้างเป็นการปลูกพืชปลอดสารพิษ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2551
การปลูกพืชปลอดสารพิษที่ดำเนินการใช้แนวทางการเกษตรระบบชีววิถี คือ การใช้จุลินทรีย์ชีวภาพ การเลี้ยงสัตว์ผสมผสานจำพวกหมูแม่พันธุ์ ไก่บ้านสำหรับขายเนื้อ ไก่ชน เป็ดสำหรับให้ไข่ไว้กินในครัวเรือน วัวแม่พันธุ์ และปลูกพืชหมุนเวียนตามฤดูกาล ตามความต้องการตลาดและการควบคุมทางชีวภาพ อาทิ ถั่วฝักยาว ผักบุ้ง ผักสลัด แตงกวา มะเขือเทศ โหระพา ตะไคร้ สะระแหน่ ผักชี กล้วยน้ำหว้าสำหรับขาย ใบตองและลูก ฯลฯ อนึ่งชนิดและจำนวนผักที่ปลูกจะถูกกำหนดจากกลุ่มผู้ปลูกพืชปลอดภัย
ผลจากปลูกพืชปลอดสารพิษทำให้มีเงินออม มีความสุขที่มีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น สุขภาพจิตดีมีความสุขจากการแบ่งปันพืชผักแก่เพื่อนบ้าน และพบเจอเพื่อนสมาชิกในกลุ่มเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ประชุมวางแผนการปลูกผักร่วมกัน รวมทั้งลูกค้าผู้ซื้อปลอดภัยทุกสัปดาห์ โดยมีโรงพยาบาลสันป่าตอง จ.เชียงใหม่ เป็นตลาดจำหน่ายประจำทุกวันจันทร์ พุธ และศุกร์ ระหว่างเวลา 09.30 – 12.00 น นอกจากนั้นยังภูมิใจที่ตนเองสามารถบอกเล่าความรู้เรื่องการเกษตรชีววิถีให้แก่เพื่อนบ้านที่สนใจ และมีเพื่อนบ้านบางรายเริ่มปลูกผักสวนครัวตามแนวชีววิถีเพื่อการบริโภคในครัวเรือน ที่สำคัญ เธอคิดว่า ได้ทำบุญสร้างกุศล ด้วยการปลูกผักท่ีปราศจากสารเคมีให้คนได้บริโภคเป้นการสร้างสุขภาพท่ีดีให้แก่คนอื่น
ปัจจุบัน พี่ทัศนีย์กับสามี สามารถออมเงินซื้อท่ีดินแปลงเล็กและปลูกบ้านพักอาศัย พร้อมเลี้ยงวัว 10 ตัวเป็นเงินออม เลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ ปลูกผัก สร้างรายได้เพื่อส่งลูกโตเรียนจบชั้น ปวส. ส่วนคนเล็กกำลังเรียนปริญญาตรี ปีสอง
เรืองรางของพี่ทัศนีย์ ทำให้ดิฉันคิดว่า บางครั้งรายได้จำนวนมากไม่ใช่สาระสำคัญ ที่สำคัญคือ ความสามารถในการออมหรือการวางแผนใช้จ่าย
ไม่มีความเห็น