บ่ายวัน อังคารนี้ ผมหนีร้อนมาพึ่ง(แอร์)เย็นๆของร้านกาแฟคลอโรฟิลด์
ร้านแห่งหนึ่ง ที่บรรยากาศเป็นใจ เน็ตแรงพอใช้ได้
ส่วนอาหารอร่อยไม่เลว และกาแฟอาจไม่ถูกใจผมนัก แต่หากเจ้าของร้านถามผม
ว่าชอบรสแบบไหน ผมเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกันครับ
(แต่ร้านนี้มีลูกค้าเต็มร้านเสมอเมื่อผมมาถึง)
ยิ่งตอนเที่ยงหรือบ่ายหน่อยๆ ไม่ต้องพูดถึงไม่มีที่นั่งครับ ดังนั้นหากท่านจะมาชิมต้องมาไวๆหน่อยนะคับ
แต่ที่เขียนมานี้ หาได้มาโปรโมทหรืออวยร้าน แต่ก็มิใช่จะหาเรื่องแซวแต่อย่างใด
เพียงแค่ประทับใจบางเรื่อง
เรื่องที่ว่าคือ ... ผมได้เห็นป้ายแจ้งลูกค้า ว่าขยายเวลาปิดร้าน ซึ่งเดิมปิด 17.00 น
เปลี่ยนเป็น 20.00 น (หากผิดผมก็ขอโทษด้วยนะ)
เมื่อสอบถามกับเจ้าของร้าน พี่เจ้าของร้านเล่าวว่าส่วนใหญ่่ลูกค้าวัยทำงานเพิ่งเลิกงาน
และอยากนั่งพักผ่อน จึงปรึกษากับลูกน้องว่าจะขยายเวลาปิดร้าน
ซึ่งลูกน้อยก็น่ารัก หากลูกน้องไม่เอาด้วย คงปิดร้านเร็วกว่านี้ เพราะพี่ก็ทำคนเดียวไม่ไหว
แหม่ เป็นเจ้าของร้านที่น่ารักมาก ถามความสมัครใจของลูกน้องก่อนทำงานแบบนี้
ประเดี๋ยวเงินจะหล่นทับนะครับ
ได้ฟังดังนี้ ... ได้ข้อคิดจากเคสนี้ว่า
เป็นนายคน นั่งในใจคน ไม่ใช่หัวคน
รายละเอียดจากเว็บ foodinphitsanulok.com
ปล1 ไม่รู้ว่านักเรียน ม ปลายโรงเรียนไหน
นั่งคนละด้านของร้าน แต่ผมได้ยินทุกเรื่องที่เม้ามอย
เด็กสมัยนี้ >..ฝากคุณครูมัธยมกวดขันพฤติกรรม ก่อนปล่อยเข้าสู่ระบบการศึกษาระดับอุดมศึกษา ด่วน !!!
ปล2 นี่ไม่ใช่การโฆษนาร้านค้าแต่อย่างใดครับ
ไม่มีความเห็น