หลักการและเหตุผล
ชุมชน/ท้องถิ่นเป็นฐานหลักของสังคม แนวคิดการพัฒนาระดับชุมชนและท้องถิ่นให้เข้มแข็ง น่าอยู่ ปลอดภัย มีพัฒนาการพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ทั้งด้านสังคม การศึกษา สุขภาพ วัฒนธรรม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม จะส่งผลให้ประชาชนในชุมชนมีสุขภาวะที่ดี และหากทุกชุมชน/ท้องถิ่นมุ่งมั่นดำเนินการอย่างกว้างขวาง ประเทศไทยก็จะพัฒนาอย่างมีทิศทาง เป็นประเทศที่น่าอยู่ที่สุด
ชุมชนจะเข้มแข็ง น่าอยู่ และพึ่งตนเองได้ ต้องอาศัยความรับผิดชอบ การเรียนรู้ ร่วมคิดร่วมทำ ตลอดจนอาศัยความร่วมมือและข้อมูลทางวิชาการจากหน่วยงานในท้องถิ่นไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐหรือเอกชน เพื่อปรับเปลี่ยนวิธีคิด ปรับพฤติกรรมการผลิตและการบริโภคโดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง รักษาสิ่งแวดล้อม เน้นการพึ่งตนเอง เป็นสังคมเอื้ออาทร พึ่งพาอาศัยกันได้ และไม่ทอดทิ้งกัน
จากการสนับสนุนโครงการร่วมสร้างชุมชนและท้องถิ่นให้น่าอยู่ ตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา ส่งผลให้เกิดแนวคิดในการพัฒนาชุมชนและท้องถิ่นให้น่าอยู่ ดังต่อไปนี้
-
การเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน การพัฒนาผู้นำและส่งเสริมการรวมกลุ่มของชุมชน โดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนให้น่าอยู่
-
การส่งเสริมและปรับใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น พัฒนาต่อยอดให้เกิดนวัตกรรมที่เหมาะสม เพื่อนำมาปรับใช้กับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-
มุ่งเน้น“การปรับทัศนคติ”และ“เสริมพลังชุมชน” พร้อมทั้งเปิดโอกาสในการเรียนรู้และการเข้าถึงองค์ความรู้ของชุมชน
สสส. ตระหนักถึงความสำคัญข้างต้น จึงขอเชิญชวนชุมชน และท้องถิ่น เสนอโครงการเพื่อร่วมสร้างสรรค์ชุมชนและท้องถิ่นให้น่าอยู่ที่สุด
วัตถุประสงค์
เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาไปสู่ชุมชนและท้องถิ่นที่น่าอยู่โดยชุมชนผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมอย่างเป็นระบบ ที่ครอบคลุมทั้ง 4 มิติ กาย ใจ สังคม และ ปัญญา หรือในมิติใดมิติหนึ่ง
คุณสมบัติของผู้เสนอโครงการ
-
ระดับหมู่บ้าน มีผู้ร่วมรับผิดชอบโครงการอย่างน้อย 3-5 คน ประกอบด้วยผู้ใหญ่บ้านหรือประธานชุมชน สมาชิก อบต. เจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือตัวแทนกลุ่มต่างๆ ในชุมชนที่มีอยู่เดิม เช่น กลุ่มออมทรัพย์ ชมรมผู้สูงอายุ หรือกลุ่มอื่นๆ เป็นองค์ประกอบหลักในการดำเนินโครงการ
-
คณะผู้รับผิดชอบโครงการต้องมีภูมิลำเนาอยู่ในตำบลนั้นๆ และมีศักยภาพที่จะบริหารจัดการโครงการให้สำเร็จได้ และมีโครงสร้างการบริหารจัดการโครงการที่ชัดเจน
-
ชุมชนที่เข้าร่วมโครงการ ต้องมีคุณสมบัติหรือองค์ประกอบดังนี้
1) เป็นชุมชนที่มีความสนใจและมุ่งมั่นที่จะพัฒนาชุมชนและท้องถิ่นของตนเองให้น่าอยู่
2) เป็นชุมชนที่มีสภาผู้นำชุมชนที่เข้มแข็งและมีแกนนำกลุ่มต่างๆ ในหมู่บ้าน โดยมีการบริหารจัดการด้วย 8 ก. ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการขับเคลื่อนงานในชุมชน ได้แก่
-
แกนนำ กลุ่ม/องค์กร : มีแกนนำชุมชน หรือกลุ่ม/องค์กรหลักในการรับผิดชอบและขับเคลื่อนงาน
-
กัลยาณมิตร : มีการสร้างสัมพันธภาพ ภาคีเครือข่ายในการร่วมสนับสนุนและขับเคลื่อนงาน
-
กองทุน : มีการระดมทรัพยากรเพื่อเป็นกองทุนของชุมชนเพื่อใช้ในการขับเคลื่อนงาน
-
การจัดการ : มีระบบการจัดการ มีการแบ่งหน้าที่/โครงการสร้างการทำงานที่ชัดเจน
-
การเรียนรู้ : ส่งเสริมการเรียนรู้ของชุมชน
-
การสื่อสารเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ : มีการสื่อสารข้อมูลโครงการเป็นระยะ เพื่อสร้างความตื่นตัวของชุมชน ตลอดจนสื่อสารข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ชุมชน
-
กระบวนการพัฒนา : มีกระบวนการพัฒนาเสริมศักยภาพสำหรับคนในชุมชน
-
กฎกติกา/กฎระเบียบชุมชน : ควรมีการกำหนดกฎกติกา ระเบียบชุมชนเพื่อเป็นแนวทาง ข้อปฏิบัติร่วมกันของชุมชน
3) เป็นชุมชนที่มีการประชุมหมู่บ้านอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยเดือนละครั้ง และมีการสำรวจข้อมูลพื้นฐานชุมชนเพื่อการจัดทำแผนชุมชน
4) แสดงให้เห็นทุนเดิมของชุมชน เช่น การทำประชาคมในชุมชน การรวมกลุ่มในชุมชน กองทุนหมู่บ้าน สวัสดิการชุมชน เป็นต้น
-
คณะผู้รับผิดชอบโครงการที่เคยได้รับทุนจาก สสส. หรือแหล่งทุนอื่นๆ จะต้องแจ้งให้ สสส. ทราบ และเสนอโครงการฯ ที่ยกระดับคุณภาพ หรือต่อยอดจากโครงการเดิม หรือมีส่วนเพิ่มเติมที่ทำให้บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ
-
สสส. สงวนสิทธิ์ไม่พิจารณาโครงการในกรณีที่ผู้เสนอโครงการไม่มีคุณสมบัติตามระบุข้างต้น และ เป็นผู้ที่มีประวัติการรับทุน สสส. ที่ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในสัญญา รวมถึงผู้ที่อยู่ระหว่างการรับทุนเพื่อดำเนินโครงการกับ สสส.
ลักษณะโครงการที่สนับสนุน
-
โครงการที่เสนอต้องแสดงข้อมูลเชิงประจักษ์เกี่ยวกับปัญหา และทุนเดิมที่ชุมชนมีอยู่ (ทุนทางสังคม ทุนวัฒนธรรม ทุนทรัพยากรธรรมชาติ หรือทุนภูมิปัญญา) มีการวางแผนและการดำเนินการเพื่อการแก้ไขปัญหาตรงกับความต้องการของชุมชนได้อย่างแท้จริงและแสดงความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและมีกิจกรรมสร้างสรรค์ เป็นโครงการที่เน้นกระบวนการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนในทุกกระบวนการตั้งแต่ ร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูล ร่วมดำเนินงาน และร่วมติดตามประเมินผล เพื่อทำให้ชุมชนและท้องถิ่นน่าอยู่
-
เป็นโครงการที่มีการวางแผนการทำงานที่ชัดเจนและมีแนวโน้มในการดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง
-
ผู้ได้รับประโยชน์จากโครงการต้องเป็นคนในชุมชน ไม่เฉพาะเจาะจงสมาชิกกลุ่ม ชมรม หรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง
-
เป็นโครงการที่มีรายละเอียดกลวิธีการดำเนินงานและแผนปฏิบัติงานที่ชัดเจน มีค่าใช้จ่ายสมเหตุสมผล หากจำเป็นต้องซื้อวัสดุอุปกรณ์หรือครุภัณฑ์ หรือสร้างถาวรวัตถุ จะสนับสนุนไม่เกินร้อยละ 20 ของงบประมาณโครงการ
-
สอดคล้องกับหลักเกณฑ์และแนวทางการสนับสนุนทุนของ สสส.
ขั้นตอนการพิจารณาโครงการและสนับสนุนโครงการ
-
ผู้สนใจเสนอโครงการตามแบบฟอร์ม “ข้อเสนอแนวคิดโครงการ” โดยขอให้แสดงรายละเอียดให้ชัดเจน และกิจกรรมต้องเชื่อมโยงกับการสร้างเสริมสุขภาพ โดยมุ่งที่จะทำให้เกิดผลลัพธ์ตามเป้าหมายที่กำหนด
-
สสส. พิจารณาคัดเลือกข้อเสนอแนวคิดโครงการที่เข้าข่ายการสนับสนุนตามแนวทางที่กำหนด
-
สสส. จะสนับสนุนให้ผู้รับผิดชอบโครงการที่ผ่านการคัดเลือกในขั้นต้นเข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการและศึกษาดูงานชุมชนตัวอย่างแต่ละภูมิภาค
-
ผู้รับผิดชอบโครงการนำประสบการณ์ที่ได้ไปพัฒนาข้อเสนอโครงการร่วมสร้างชุมชนและท้องถิ่นให้น่าอยู่ให้ชัดเจนและสมบูรณ์ โดย สสส. สนับสนุนทุนโครงการละไม่เกิน 200,000 บาท
-
คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของ สสส. พิจารณาสนับสนุนทุนโครงการตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด และขอสงวนสิทธิ์การใช้ดุลยพินิจหากโครงการที่เสนอไม่ตรงตามเกณฑ์
ทุนสนับสนุน
-
สสส. สนับสนุนทุนโครงการที่ผ่านการพิจารณาให้กับชุมชน/ท้องถิ่น 1 โครงการ โครงการละไม่เกิน 200,000 บาท ระยะเวลา 1 ปี
-
โครงการจะได้รับการสนับสนุนทุนต่อเนื่องในปีที่ 2 เมื่อคณะกรรมการฯ ได้ประเมินผลสำเร็จของโครงการในปีที่ 1 และประเมินความเป็นไปได้ในการทำโครงการปีที่ 2 แล้ว
ระยะเวลาดำเนินการ
กิจกรรม
|
ระยะเวลา
|
สสส. เปิดรับโครงการ
|
ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2555 – 31 พฤษภาคม 2555
|
สสส. จัดประชุมปฏิบัติการ/ศึกษาดูงาน และพัฒนาโครงการ
|
ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2555 – 15 กรกฎาคม 2555
|
สสส. พิจารณาอนุมัติโครงการ
|
ภายในเดือนสิงหาคม 2555
|
ช่วงเวลาเริ่มต้นโครงการ
|
ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555 เป็นต้นไป
|
ติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติม ที่
สำนักสร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรม (คุณพินทุสร / คุณฐิติพร /
คุณปรีดารัตน์ / คุณกิติพัฒน์ / คุณตรีทิพย์นิภา / คุณอลิศรา)
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
โทร. 02-2980500 ต่อ 1112 – 1113 , 1115 – 1116 , 1118 - 1119
และสามารถดูรายละเอียดและ Download ข้อมูลจาก www.thaihealth.or.th
http://cdn.gotoknow.org/assets/media/files/000/892/668/original_livingtor.pdf?1363672339