ชื่อผลงานวิชาการ การประเมินโครงการโรงเรียนรักการอ่าน
เคหะชุมชนลาดกระบัง ปีการศึกษา 2553
ชื่อผู้เสนอผลงาน นางลักษิกา ดำรงศักดิ์
บทคัดย่อ
การรายงานครั้งนี้เป็นการประเมินผลโครงการโรงเรียนรักการอ่าน เคหะชุมชนลาดกระบัง
ปีการศึกษา 2553 วัตถุประสงค์เพื่อประเมินผลการดำเนินงานในประเด็นต่างๆ โดยใช้รูปแบบ (CIPP Model) ดังนี้ 1) เพื่อประเมินความเหมาะสมด้านสภาพแวดล้อมของการดำเนินงานโครงการ 2) เพื่อประเมินความเหมาะสมด้านปัจจัยนำเข้าของการดำเนินงานโครงการ 3) เพื่อประเมินความเหมาะสมด้านกระบวนการของการดำเนินงานโครงการ 4) เพื่อประเมินด้านผลผลิตเกี่ยวกับผลสำเร็จของโครงการ 2 ประเด็น ได้แก่ พฤติกรรมรักการอ่านของนักเรียน และผลการจัดกิจกรรมตามโครงการจำนวน 9 กิจกรรม
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินโครงการได้แก่ครูจำนวน 73 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
และชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 248 คน ผู้ปกครองนักเรียนชั้นปีที่ 3และชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน
248 คน รวมทั้งหมด 569 คน
เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบประเมินโครงการจำนวน 2 ชุด ชุดที่ 1 มี 4 ฉบับได้แก่ ฉบับที่ 1แบบประเมินที่ใช้เก็บข้อมูลก่อนการดำเนินงานโครงการด้านสภาพแวดล้อม ฉบับที่ 2 แบบประเมินที่ใช้เก็บข้อมูลก่อนดำเนินโครงการด้านปัจจัยนำเข้า ฉบับที่ 3 แบบประเมินที่ใช้เก็บข้อมูลระหว่างการดำเนินโครงการด้านกระบวนการ ฉบับที่ 4 แบบประเมินที่ใช้เก็บข้อมูลหลังสิ้นสุดการดำเนินโครงการด้านผลผลิต ชุดที่ 2 เป็นแบบประเมินรายกิจกรรมตามโครงการจำนวน 9 กิจกรรม การวิเคราะห์ข้อมูลใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปวิเคราะห์ค่าสถิติ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ ค่าความถี่และวิเคราะห์คำถามปลายเปิดโดยวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการประเมินโครงการโรงเรียนรักการอ่านเคหะชุมชนลาดกระบัง ปีการศึกษา 2553
สรุปได้ดังนี้
1. ด้านสภาพแวดล้อม ตามความคิดเห็นของครู พบว่ามีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก
ที่สุด คือโครงการได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหาร ครู ผู้ปกครองและชุมชน การดำเนินโครงการโรงเรียน
รักการอ่านสอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542และแก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 และการดำเนินโครงการของโรงเรียนมีความสอดคล้องกับนโยบายและทิศทางการจัดการศึกษาของกรุงเทพมหานครและกระทรวงศึกษาธิการ
2. ด้านปัจจัยนำเข้า ตามความคิดเห็นของครู พบว่ามีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด
คือ ผู้บริหารให้ความสำคัญและสนับสนุนโครงการฯ มีงบประมาณ สิ่งอำนวยความสะดวก วัสดุ อุปกรณ์ในการดำเนินงานตามโครงการฯเพียงพอ และครูมีความรู้ความเข้าใจวัตถุประสงค์และวิธีการดำเนินงานโครงการโรงเรียนรักการอ่าน
3. ด้านกระบวนการ ตามความคิดเห็นของครู พบว่ามีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด
คือ นักเรียนและครูมีความตั้งใจในการดำเนินงานกิจกรรมตามโครงการทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน นักเรียนและครูให้ความร่วมมือในการดำเนินงานตามโครงการ และมีการประเมินผล รายงาน สรุปผล
การดำเนินงานเพื่อเผยแพร่ให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทราบ
4. ด้านผลผลิต ตามความคิดเห็นของครู นักเรียนและผู้ปกครอง ด้านผลสำเร็จตาม
วัตถุประสงค์ (ผลผลิต) ของโครงการเกี่ยวกับ
4.1 พฤติกรรมรักการอ่านของนักเรียน โดยรวมทุกด้านอยู่ในระดับมาก และมีความคิดเห็น
เมื่อพิจารณาพฤติกรรมนักเรียนเป็นรายด้าน พบว่า
4.1.1 ด้านนิสัยรักการอ่าน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก นักเรียนมีสมุดบันทึกการอ่าน
และจดบันทึกข้อความที่สนใจ นักเรียนให้ความสนใจและเข้าร่วมกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านและนักเรียนใช้เวลาว่างโดยการอ่านเพิ่มขึ้น
4.1.2 ด้านการนำความรู้จากการอ่านไปใช้ โดยภาพรวม พบว่ามีความเหมาะสม
อยู่ในระดับมาก นักเรียนสามารถระบุและอธิบายเหตุผลไปใช้ในการตัดสินใจ นักเรียนรู้จักใช้เวลาว่างให้เกิด ประโยชน์ต่อตนเองจากการอ่าน และนักเรียนสอบถามผู้รู้ในเรื่องที่สนใจ
4.2 ผลการจัดกิจกรรมทั้ง 9 กิจกรรมตามโครงการตามความคิดเห็นของครูและนักเรียน
โดยรวมพบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายกิจกรรม พบว่ามีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด จำนวน 5 กิจกรรมและมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก 4 กิจกรรม ตามลำดับ คือ กิจกรรมหยุดทุกงานอ่านทุกคน กิจกรรมยอดนักอ่าน กิจกรรมนิทานหรรษา กิจกรรมผู้นำเยาวชนรักการอ่าน
กิจกรรมมุมรักการอ่าน กิจกรรมห้องสมุดเคลื่อนที่ กิจกรรมแรลลี่รักการอ่าน กิจกรรมปันหนังสือให้เพื่อน และกิจกรรมรู้ได้ด้วยการอ่าน การดำเนินการทั้ง 9 กิจกรรม ประสบผลสำเร็จและเกิดประโยชน์ อย่างยิ่งต่อ
นักเรียนในการส่งเสริมการอ่าน ได้ผลเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการโรงเรียนรักการอ่าน เคหะชุมชนลาดกระบัง ปีการศึกษา 2553 เพื่อปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้นักเรียนเกิดพฤติกรรมและคุณลักษณะที่ต้องการด้านรักการอ่านให้เกิดลักษณะนิสัยรักการอ่าน และสามารถนำความรู้จากการอ่านไปใช้ประโยชน์
เป็นการประเมินโครงการท่ีดีมาก ค่ะ
เป็นการประเมินโครงการท่ีดีมาก ค่ะ