เตือนสติลูก ๆ จากคำพูดธรรมดาของคนเป็นแม่


ใครติดเพื่อนบ้าง...ยกมือขึ้น!!! เชื่อแน่ว่า จะต้องมีเพื่อน ๆ
ที่นั่งอยู่หน้าจอคอมพ์ขณะนี้ยอมรับกันอยู่ในใจแน่ ๆ เลย เพราะเป็นธรรมดาที่วัยรุ่น
วัยเรียน วัยทำงาน หรือแม้แต่ในวัยที่มีครอบครัวของตัวเองแล้ว ก็ยังไม่วายติดเพื่อน เป็นต้องออกไปพบปะสังสรรค์กันนอกบ้านเป็นประจำ (ก็มันสนุกนี่นา)


และหลายครั้งที่ปาร์ตี้ในหมู่เพื่อนกินเวลายามค่ำคืน
จนนาฬิกาบอกเวลาก้าว เข้าสู่วันใหม่เข้าไปแล้ว แต่รู้ไหมว่า
ในช่วงที่เรากำลังสนุกสนานอยู่นั้น ยังมีคนข้างหลังคอยเป็นห่วงอยู่ที่บ้าน
เขาคนนั้นยังนอนไม่หลับแม้จะรู้ว่าวันนั้นคุณจะกลับดึก
ด้วยเป็นห่วงว่าคนที่รักยังไม่ถึงบ้านอย่างปลอดภัยนั่นเอง


เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ก็เป็นธรรมดาของมนุษย์เงินเดือน ที่วันศุกร์แห่งชาติ (และเป็นวันเงินเดือนออก)
จะมีการนัดสังสรรค์กันระหว่างเพื่อน ๆ มีดื่ม มีเที่ยว
เพราะถือว่าเป็นวันปลดปล่อยของสัปดาห์ หลังจากดื่มได้พอสมควร
ก็รวมกลุ่มกันไปโต๊ะสนุ๊กฯ ต่อกว่าจะได้กลับก็เกือบๆ ตีสอง


กลับมาก็เห็นแม่นอนดูทีวีอยู่ ก็ยังสงสัยว่าทำไมนอนดึกจัง เราก็ง่วงบวกกับมึน ๆ ด้วย ก็เลยเข้านอนเลย ไม่ได้ทักแม่ซักคำ

รุ่งขึ้นเป็นวันเสาร์ ผมก็ตื่นตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า เพราะตื่นเวลานี้เป็นปกติแล้ว (แต่ก็ยังไม่เคยตื่นก่อนแม่ซักที)

ประโยคแรกที่เราทักแม่ก็คือ "แม่ วันนี้มีอะไรกิน"

หลังจากกินข้าวเสร็จแล้ว วันนี้ครอบครัวผมมีธุระต้องเข้ากรุงเทพฯ ระหว่างทางแม่ผมก็คุยกับพี่ชายเรื่องทั่วๆ ไป ผมก็นั่งอ่านหนังสืออยู่เงียบๆ ได้ยินแม่บ่นเรื่องทั่วๆ ไป และก็พูดว่า...

แม่ : วันนี้ง่วงนอนจัง
พี่ชาย : ไปทำอะไรมาล่ะแม่
แม่ : ก็ไม่ได้ทำอะไร เมื่อคืนไอ้...(ชื่อผม) มันยังไม่กลับบ้าน แม่ก็นอนไม่หลับ
ผม : ...........

จากนั้นเค้าก็คุยกันเรื่องอื่น แต่ประโยคดังกล่าว มันทำให้ผมกลับมาคิดว่า ในวันแรกที่เงินเดือนออก แทนที่เราจะพาคนที่รักและเป็นห่วงเราไปกินข้าว เรากลับเลือกที่จะออกไปสังสรรค์กับเพื่อน ไปกินเหล้า เมายา เล่นการพนัน



แต่เรากลับทิ้งให้อีกคนหนึ่งที่เป็นห่วงเรา อดนอน เพื่อรอว่าเราจะกลับถึงบ้านโดยปลอดภัยแล้ว เมื่อเรากลับถึงบ้าน เมื่อนั้นแหละ เค้าคนนั้นถึงจะหลับลง

จากเหตุการณ์นี้ทำให้เรานึกย้อนไปถึงครั้งก่อนๆ ถ้าเรากลับบ้านดึก แม่จะโทรตามทุกครั้ง จะไม่ได้ดุด่าหรือว่าอะไร เพียงแต่จะถามว่า "อยู่ไหน ดึกแล้วนะ พรุ่งนี้ไม่ทำงานหรอ..." เมื่อ เรากลับมา ก็จะพบว่าแม่ยังไม่นอนเสมอ
ทำให้เราได้ย้อนกลับมาคิดได้ว่า ถึงแม้เราจะเป็นผู้ชาย และอายุก็ไม่ใช่เด็กๆ มีหน้าที่การงานแล้ว แต่ด้วยความที่เป็นแม่ ยังไงก็ยังเป็นห่วงลูก ถ้าลูกยังไม่กลับถึงบ้าน ก็อดที่จะห่วงไม่ได้


วันถัดมาเพื่อนผมก็ชวนออกไปกินสังสรรค์อีก แม่ได้ยินผมคุยโทรศัพท์ในรถ
ก็บอกว่า... "ถ้าไม่อยากไปกับเพื่อนก็ปฏิเสธได้ ต้องปฏิเสธคนให้เป็น"
(แม่จะรู้นิสัยผมว่าเป็นคนปฏิเสธคนไม่เป็น) ผมจึงตัดสินใจบอกเพื่อนไป

ผม : "วันนี้กรูไม่ไปนะ"
เพื่อน : "ทำhaอะไร ทำไมถึงไม่มา"
ผม : "กรูจะพาแม่กรูไปกินข้าว"

จากเรื่องราวข้างต้นจะเห็นได้ว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่อาจเกิดขึ้นซ้ำๆ ในชีวิตประจำวันของใครหลายคน แต่...เพียงแค่เราหันมาใส่ใจคนใกล้ตัวที่เรามักจะมอง ข้ามบ้าง ก็จะรับรู้ได้ถึงความรักลึกซึ้งจากคนที่รัก โดยเฉพาะคุณแม่ และนั่นอาจสร้างจุดเปลี่ยน หรือมุมคิดดี ๆ ที่จะทำให้คุณเป็นลูกที่น่ารักขึ้นเป็นกอง^^
คำสำคัญ (Tags):
หมายเลขบันทึก: 529053เขียนเมื่อ 2 กันยายน 2011 21:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มีนาคม 2013 15:15 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท