ไชน่าทาวน์


พีร์ พงศ์พิพัฒนพันธุ์


ผมจะเขียนเรื่องราวบางส่วนเกี่ยวกับไชน่าทาวน์ใน อเมริกาจากประสบการณ์ของตัวผมเองอยู่หลายครั้ง แต่จนแล้วจนรอดไม่ได้ลงมือเสียที คราวนี้น่าจะเป็นโอกาส

ทำไม ถึงต้องพูดถึงไชน่าทาวน์ หรือเมืองคนจีนในอเมริกา ก็เพราะว่า เมืองนี้เป็นจุดกำเนิดของวัฒนธรรมคนเอเชียนในดินแดนตะวันตก คนจีนอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในอเมริกาก่อนชาติเอเชียอื่นๆ ล่วงมากว่า 200 ปีแล้ว  ดังนั้นวิวัฒนการของการตั้งเข้ามาอาศัยอยู่นี้ย่อมเป็นที่น่าสนใจและน่าศึกษา

ในดินแดน“ลุงแซม”มี ไชน่าทาวน์อยู่หลายแห่ง ที่เด่นๆและเก่าแก่เห็นจะเป็นไชน่าทาวน์ที่นิวยอร์ค และไชน่าทาวน์ซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งจำลองแบบความเป็นอยู่และวิถีชีวิตของคนจีนมาแทบ 100 เปอร์เซ็นต์ทีเดียว เรียกว่าคนอเมริกันไม่จำเป็นต้องไปเมืองจีนก็สามารถรับรู้วัฒนธรรม ประเพณีจีน ส่วนหนึ่งของวิถีตะวันออกได้เลยทีเดียว

ตลอด ขณะเหตุการณ์และช่วงหลังการปฏิวัติประเทศ เปลี่ยนการปกครองในประเทศจีน โดยเหมาเจ๋อตุง จวบจนถึงปัจจุบัน ไชน่าทาวน์หลายเป็นแหล่งรวมของมวลชนคนจีนหลากแนวคิด ทั้งฝ่ายเสรีนิยมและฝ่ายคอมมิวนิสต์

ปัจจุบัน ไชน่าทาวน์หลายแห่ง กลายเป็นสถานที่ที่เผยแพร่วัฒธรรม พร้อมๆไปกับการส่งเสริมนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลปักกิ่ง ที่ดำเนินการผ่านชุมชนชาวจีนโพ้นทะเลในอเมริกา รวมแม้กระทั่งในด้านการท่องเที่ยวระหว่างอเมริกากับจีน

โดย เหตุที่ไชน่าทาวน์ เป็นสถานที่แรกหรือที่ลงแห่งแรกของคณะทัวร์จากเมืองจีน ซึ่งเวลานี้ในยามที่เศรษฐกิจของจีนดี มีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมายังอเมริกากันเป็นจำนวนมาก

และ แทบไม่น่าเชื่อว่า เกือบทุกเที่ยวบินของสายการบินจีน มีผู้โดยสารเต็มลำ(นี้แตกต่างจากสายการบินที่บินมายังฝั่งอเมริกาของบาง ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งขาดทุนบักโกรก และผมไม่ทราบว่าสายการบินเดียวกันนี้จะสามารถใช้ประโยชน์ทางธุรกิจอะไรได้ บ้างจากข้อมูลเกี่ยวกับชาวจีนนี้)

ผมเห็นภาพที่ว่านี้ ทั้งที่ลอสแอนเจลิส ซานฟรานซิสโก นิวยอร์คและที่ ลาสเวกัส

สาเหตุ ที่คนจีนสมัยใหม่นิยมเดินทางมายังอเมริกา นอกเหนือจากเหตุผลด้านฐานะทางการเงินของพวกเขาที่ดีขึ้นแล้ว แรงจูงใจในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอัตราค่าโดยสารเครื่องบินที่เชื่อมโยงถึงต้น ทุนการจัดแพคเกจทัวร์ที่ถูกกว่า ยังมีส่วนเกี่ยวข้องสัมพันธ์อย่างมากด้วย แม้กระทั่งการที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงในขณะนี้

ส่วน หนึ่งของการใช้ประโยชน์จากไชน่าทาวน์ คือ สถานที่ถูกพัฒนาเอาไว้สำหรับรองรับธุรกิจข้ามชาติจากเมืองจีน จนกระทั่งมีคำพูดขำๆอยู่ว่า คนจีนจากเมืองจีนบินมาอเมริกาใช้เวลาเป็นวัน หลับมาบนเครื่อง พอตื่นขึ้นมา ก็ร้องอุทานกับหัวหน้าคณะทัวร์ว่า ลื้อหลอกอั๊วนี่หว่า ก็ไหนบอกว่าจะพาไปเที่ยวอเมริกา(ไง)

จาก ประวัติศาตร์อันยาวนานของชนเชื้อชาติจีนในอเมริกา ก็ย่อมเป็นธรรมดาที่ทำให้คนรุ่นใหม่เข้าไปสู่ระบบการทำงานของอเมริกันในแทบ ทุกวงการ แทบทุกแขนง ในหน่วยงานราชการอเมริกัน วงการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์หรือทีวีกระแสหลัก(ดังมี คอนนี่ ชัง-Connie Chung เป็นอาทิ) ทั้งในแวดวงการเมืองอเมริกันในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ

หาก มองการเติบโตของไชน่าทาวน์หรือชุมชนการค้าชาวจีนที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่ามีพัฒนาการมาตลอด ตามการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจของแต่ละเมืองในอเมริกา เช่น ไชน่าทาวน์ที่แอล.เอ. ถูกย้ายและขยายออกไปยังเขตเมืองมอนเทอเรย์พาร์ค เมืองซานเกเบรียล และอีกหลายเมืองตลอดแนวถนนวัลเลย์ บูเลอวาร์ด ซึ่งถือเป็นย่านคนจีนและคนเอเชียน จากไชน่าทาวน์แอล.เอ.เดิมย่านถนนบรอดเวย์ ที่ตอนนี้ถูกแทนที่โดยเวียดนามทาวน์ไปโดยปริยาย

หลาย ปีก่อนหน้านี้ ย่านมอนเทอร์เรย์ พาร์ค เป็นเมืองอับเฉา แทบไม่มีอะไรเป็นจุดดึงดูด การเคลื่อนย้ายของนักธุรกิจเชื้อชาติจีนจากไชน่าทาวน์แอล.เอ. ประสานกับการสร้างแรงจูงใจด้านการลงทุนของเมือง(ซิตี้)มอนเทอเรย์พาร์คและ เมืองอื่นๆใกล้เคียง ทำให้เมืองต่างๆในบริเวณเดียวกันนี้ มีอัตราการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจสูงมาก การเพิ่ม การย้ายของของประชากรเอเชียมีมากขึ้น  ขณะ เดียวกันเมืองเจ้าของพื้นที่เองก็เก็บภาษีได้มากขึ้น กลายเป็นเมืองที่มีความสำคัญด้านเศรษฐกิจอันดับต้นๆของรัฐแคลิฟอร์เนียแม้ กระทั่งในเวลานี้ พร้อมๆการจับจ่ายใช้สอย บริโภคสินค้าต่างๆ โดยเฉพาะสินค้าเอเชียนที่เป็นไปอย่างคึกคัก

การ พยายามพัฒนาเมืองด้วยการสร้างแรงใจด้านการลงทุนต่อชุมชนชียนในอเมริกา เป็นไปในทำนองเดียวที่เมืองโอคแลนด์ (แคลิฟอร์เนียภาคเหนือ)ซึ่งเป็นเมืองที่มีท่าเทียบเรือที่ใหญ่ที่สุดใน ประเทศ เปรียบเทียบกับช่วงก่อนหน้าที่จะเกิดชุมชนเวียดนามทาวน์ เมืองแห่งนี้มีอาชญากรรมและยาเสพติดสูงติดอันดับของรัฐ จากนโยบายของเมืองที่ส่งเสริมการเข้าไปของคนเชื้อสายเวียดนามและเชื้อสายเอ เชียนอื่นๆ ในเวลาต่อมาได้พลิกเมืองนี้ให้กลายเป็นเมืองการค้าไปในที่สุด พร้อมๆกับสถิติอาชญากรรมที่ลดลงและการค่อยๆคลายความหนาแน่นลงของชุมชน แอฟริกัน-อเมริกันที่มีอยู่แต่เดิม

เวลา เอ่ยถึงไชน่าทาวน์หรือเอเชียนทาวน์อื่นๆ หลายคนเข้าใจว่า คนสร้างหรือก่อตั้งต้องเป็นคนจีนหรือคนเชื้อชาตินั้นๆ แต่ความจริงแล้วหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ เพราะหลายๆที่ คนสร้าง หรือคนลงทุนเป็นฝรั่งอเมริกัน  ทาวน์”เอง มาจากการวางแผนของทางซิตี้หรือเมืองนั้นๆ แม้กระทั่งการออกแบบผัง อย่างเช่น ไชน่าทาวน์ลาสเวกัส (ที่ซึ่งในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปีก็ขยายตัว ขยายบริเวณออกไปอย่างรวดเร็ว) อาจมียกเว้นในส่วนของสถาปัตยกรรมและการตกแต่ง ที่ต้องอาศัยช่างและผู้ชำชาญที่เป็นคนจีน

ซิ ตี้(เทศบาล) มีส่วนอย่างมากต่อการกำหนดเงื่อนไขการลงทุนแบบเงื่อนไขผ่อนปรน เพื่อส่งเสริมให้เกิดการสร้างงานในเขตชุมชนนั้นๆ ไชน่าทาวน์เวลานี้จัดเป็นแหล่งกระตุ้นเศรษฐกิจที่สำคัญของหลายๆเมืองใน อเมริกา เพราะคนเอเชียนมีกำลังซื้อสูง เมื่อเทียบกับกลุ่มชนเชื้อชาติอื่นๆ

รวมทั้งเรื่องการซื้อขายวัฒนธรรมหรือโชว์ก็เป็นกิจกรรมทำนองเดียวกัน

เป็นไปตามคำพูดที่ว่า คนเชื้อสายจีน(เชื้อสายเวียดนามและเกาหลี)เคลื่อนไปทางไหน การทำมาค้าขายก็เกิดขึ้นที่นั่น

แทบ ไม่น่าเชื่อ ที่สินค้าบริโภคในตลาดจีนหรือตลาดเวียดนามในอเมริกามีมากกว่า สินค้าบริโภคในประเทศจีน เวียดนาม หรือแม้กระทั่งเมืองไทย หรือพูดง่ายๆ คือ คนที่เมืองจีนหรือเมืองไทย ยังหาซื้อกินยากหรือหาซื้อไม่ได้ แต่สินค้าเอเชียหลายอย่างมีขายในตลาดอเมริกา

ซึ่งทั้งหมดเป็นไปตามอำนาจการซื้อ อำนาจเงิน

จาก ข่าวสารและการคะเนด้วยตา ผมเห็นความเคลื่อนไหว เปลี่ยนแปลงในระดับท้องถิ่น(เมือง) พื้นที่ไชน่าทาวน์และตลาดเอเชียน ยังกลับคึกคัก มีชีวิตชีวา โดยไม่เกี่ยวกับนโยบายของนายบารัก โอบามา ในระดับบนเลย แม้แต่น้อย นโยบายเศรษฐกิจในระดับรัฐบาลกลางจะเป็น ก็เป็นไป ต้องผ่านพิธีการ ขั้นตอนอะไรต่างๆเยอะแยะไปหมด

ในงานคอนเวนชั่น(โชว์)ที่ลาสเวกัส เต็มไปด้วยหน้าเอเชียน ก่อนที่พวกเขาจะไปหาก๋วยเตี๋ยวกิน ในย่านไชน่าทาวน์ หลังเสร็จงาน

ใน แง่การเมืองท้องถิ่น ดังเป็นที่ทราบกันดีว่าคนรุ่นใหม่เชื้อสายจีน เข้าไปเป็นตัวแทนจากระบบเลือกตั้งท้องถิ่น(ระดับเมืองถึงระดับรัฐ)มานานแล้ว การผลักดันในเรื่องการส่งเสริมการค้าการลงทุน  เรื่องสวัสดิการแรงงาน ย่อมได้รับการพิจารณา ปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอ บนความเข้าใจด้านเชื้อชาติ(เดียวกัน)

ไช น่าทาวน์ ได้ให้กำเนิดธุรกิจหลายอย่าง รวมทั้งนักธุรกิจเอเชียนหลายคน ที่สำคัญนักธุรกิจรุ่นใหม่เหล่านี้ร่วมมือทำธุรกิจเข้ากัน จนประสบผลสำเร็จอย่างอัศจรรย์.




หมายเลขบันทึก: 521601เขียนเมื่อ 7 มีนาคม 2013 05:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 มีนาคม 2013 05:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท