จากการวิจัยหนึ่งได้กำหนดนิยามว่า
สุขภาวะ (Wellbeing) หมายถึง ภาวะที่ปราศจากปัญหาหรือ สิ่งที่คิดว่าเป็นปัญหา ทั้งทางร่างกาย
จิตใจ การดำรง ชีวิต และสามารถอยู่ในสังคมอย่างสงบสุข ซึ่งแยกย่อยออกเป็น 2 ระดับ 5 กลุ่ม คือ
ระดับบุคคล (Personal level) มี 3 กลุ่ม คือ (1) การมีสุขภาวะทางกาย (Physical)
(2) สุขภาวะทางใจ (Mental)
(3) สุขภาวะ ด้านการดำรงชีวิต(Livelihood)
และระดับชุมชน (Community level) มี 2 กลุ่มคือ
(4) การเข้าถึงบริการพื้นฐานของชุมชน (Facilities/Utilities approach) และ
(5) สุขภาวะทาง ด้านสังคม (Social life)
ทั้งนี้นิยามสุขภาวะทั้งหมด ได้มาจากชุมชนโดยผ่านการตรวจสอบซ้ำของผู้เชี่ยวชาญ
ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดทางกิจกรรมบำบัดในPEOPmodel เช่นกัน โดยสุขภาวะดังกล่าวเกิดได้จากคุณภาพชีวิตที่ดีเพราะเมื่อเรามีคุณภาพชีวิตที่ดีเราก็ไม่ต้องมาไม่เครียดมาไม่ความวิตกกังวลกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิตแล้ว ก็เท่ากับลดอุปสรรคที่จะสร้างความสุข ดังนั้นก็จะทำให้เกิดสุขภาวะได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
แล้วสุขภาวะสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองละ ?
ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองมักมีปัญหาความรู้คิด-สติปัญญา กล้ามเนื้ออ่อนแรง มีปัญหาด้านการสื่อสาร
และ ภาพลักษณ์(ใบหน้าเบี้ยวไม่สมมาตร)
ดังนั้นหากเราจะเพิ่มสุขภาวะต้องลดปัญหาทางจิตใจเหล่านี้ให้ผู้ป่วยก่อน
- ก่อนอื่นผู้ป่วยต้องเข้าใจและยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้เพื่อที่จะเข้าใจปัญหาที่มีแล้วพร้อมที่ก้าวต่อไป
เพื่อส่งเสริมการรับรู้ความสามารถของตนเอง (Self-Efficacy)ของตนเอง
- สร้างความเชื่อมั่นในตนเอง (Self confidence) ให้ผู้ป่วยกล้าที่จะคิด กล้าที่จะทำ กล้าแสดงออกเพื่อให้ผู้ป่วยรู้ สุขว่าตัวเองยังมีคุณค่า(Self-value)สามารถทำสิ่งต่างๆเองได้
พฤติกรรมของความเชื่อมั่นในตนเอง จำแนกได้ 13 กลุ่ม ดังนี้
- สร้างความนับถือในตนเอง(Self esteem)ให้ผู้ป่วย เพราะจากบทความ The Six Pillars of Self Esteem แต่งโดย Nathaniel Brandon ว่าด้วยเรื่องการสร้างความนับถือตนเองหรือ Self esteem ซึ่งจะแตกต่างกับคำว่า ความเชื่อมั่นในตนเอง หรือ Self confidence ตรงที่ว่า ความเชื่อมั่นในตนเองเป็นเรื่องของความกล้าที่จะตัดสินใจในการกระทำสิ่งต่างๆ ในชีวิต
แต่ Self esteem หรือความนับถือในตนเองนั้นคือความเชื่อว่าตนเองมีความสามารถที่จะเผชิญโลกได้ในทุกสถานการณ์และรู้ซึ้งดีว่าตนเองนั้นมีคุณค่าและเป็นคนดี มีความมั่นคงภายในจิตใจ
วิธีการสร้าง Self esteem มี 6 ประการ ดังนี้
1. การใช้ชีวิตอย่างมีสติ (Living Consciousness)
2. การยอมรับตนเอง(Self Acceptance)
3. การมีความรับผิดชอบต่อตนเอง (Self Responsibility)
4. การมีความกระตือรือร้นในการใช้ชีวิต (Self Assertiveness)
5. การใช้ชีวิตอย่างมีจุดมุ่งหมาย (Living Purposefully)
6. การมีศักดิ์ศรีในตนเอง (Personal Integrity)
อ้างอิง
jumbolife ที่ 02:23.The Six Pillars of
Self Esteem ความเชื่อมั่น(Self esteem)[ElectronicMaterial].
2555[2013 Feb 22]..Available from : http://jumbolifeschool.blogspot.com/2011/06/six-pillars-of-self-esteem.html
ถิ่น รุ่งรัตน์ เจริญวิศาล, สุริยา เหมตะศิลป และสุธาสินี บุญญาพิทักษ์.ผลกระทบด้านสุขภาวะครัวเรือนจากการย้าย(well-being)[ElectronicMaterial]. [2013 Feb 22]..Available from : http://www.edu.tsu.ac.th/major/old_eva/journal/Rung_article_in_HYU_15-26.pdf
sirirat prappancha. ความเชื่อมั่นในตนเอง(Self Confidence)[ElectronicMaterial]. 2555[2013 Feb 22]..Available from : http://share.psu.ac.th/blog/oreo/26251
#5423007
ไม่มีความเห็น