โรคทางจิตเวชในเด็กและวัยรุ่น
เป็นกลุ่มโรคที่ได้รับการวินิจฉัยตั้งแต่วัยทารก วัยเด็ก และวัยรุ่น
มีอาการต่อเนื่องไปในวัยผู้ใหญ่ หรืออาจเป็นกลุ่มโรคที่เพิ่งวินิจฉัยในวัยผู้ใหญ่
แต่เริ่มมีอาการตั้งแต่วัยทารก วัยเด็ก และวัยรุ่น
ซึ่งโรคทางจิตเวชนี้จะมีผลกระทบต่อทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ
ส่งผลให้ความสามารถในการทำกิจกรรมและการมีส่วนร่วมลดลง โดยสามารถอธิบายตาม ICF Model ดังภาพข้างล่าง
Health
Condition = กลุ่มโรคทางจิตเวช ในเด็กและวัยรุ่นมีหลายโรค
ตัวอย่างเช่น
-
Mental retardation
-
Learning disability
-
Motor skill disorder
-
Communication disorder
-
Pervasive Developmental Disorder
-
Attention Deficit Hyperactivity Disorder
-
Feeding & eating Disorder
Body function & structure impairment = ส่งผลให้เกิดความผิดปกติทั้งด้านโครงสร้างและการทำหน้าที่ของร่างกาย
ตัวอย่างเช่น
-
วิตกกังวล ประสาทหลอน หวาดระแวง
-
ไม่ทานอาหาร น้ำหนักลด ร่างกายทรุดโทรม
-
ซึมเศร้า อยากฆ่าตัวตาย
-
ระดับ Cognitive ลดลง
-
มีความบกพร่องในการสื่อสาร
การวางแผนการเคลื่อนไหว
Activity limitation = เกิดข้อจำกัดในการทำกิจกรรมต่างๆ
อันเนื่องมาจากสภาพร่างกายและจิตใจ และเมื่อไม่ได้ทำกิจกรรมใดๆ ย่อมส่งผลให้เกิด Participation
restriction = ข้อจำกัดในการมีส่วนร่วม ในด้านต่างๆ เช่น
การเข้าสังคม การพบปะทำกิจกรรมในชมรมกีฬา การทำกิจกรรมกลุ่มกับเพื่อนที่โรงเรียน
เป็นต้น
ซึ่งนอกจากจะพิจารณาในส่วนที่ได้กล่าวมาแล้ว
เรายังพิจารณาบริบทอื่นๆที่มีส่วนเกี่ยวข้อง คือ Environmental & Personal
Factor ซึ่งจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
จะเห็นได้ว่ากลุ่มโรคทางจิตเวชนั้น ส่งผลกระทบหลายด้าน
ซึ่งทำให้ความสามารถในการทำกิจกรรมการดำเนินชีวิต (Occupation) ลดลง โดยเฉพาะในเด็กและวันรุ่นซึ่งมีบทบาทการเป็นนักเรียน
มีสังคมและโลกกว้างที่รอให้เข้าไปเรียนรู้ (Occupation ที่สำคัญ =Education
& Play) นักกิจกรรมบำบัดจิตมีบทบาทสำคัญในการดูแล ส่งเสริม
และฟื้นฟูผู้ป่วยในกลุ่มนี้ โดยจะมีหลักการที่แตกต่างกันไปในวัยเด็กและวัยรุ่น
หลักการทางกิจกรรมบำบัด
การประเมิน ใช้
MOHO เพื่อพิจารณาเจตจำนง ลักษณะนิสัยและความสามารถในการทำกิจกรรม
เด็ก
-
ใช้การสัมภาษณ์จากตัวเด็กเอง
ควรใช้ภาษาง่ายๆเข้าใจได้ง่าย เริ่มจากการสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีเพื่อให้เด็กไว้ใจ
แสดงออกทางอารมณ์ ความรู้สึก ความคิด ออกมาให้ได้มากที่สุด
-
ใช้การสัมภาษณ์จากผู้ปกครองหรือผู้ที่ดูแลเด็ก
เพราะเป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับเด็กมากที่สุดทำให้เห็นพฤตกรรมการแสดงออกที่ไม่เหมาะสมต่างๆ
รวมทั้งปัญหาที่ผู้ปกครองเป็นกังวล ซึ่งในวัยเด็กนั้นอาจมีปัญหาด้านการสื่อสาร
ไม่สามารถเข้าใจและบอกปัญหาของตนเองได้
-
การใช้การสังเกตผ่านการทำกิจกรรมที่วิเคราะห์แล้ว
โดยนักกิจกรรมบำบัดต้องจัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับสิ่งที่ต้องการประเมิน
อาจจัดในรูปแบบของกิจกรรมเดียวหรือกลุ่ม กิจกรรมการฉายภาพทางจิต
หรือการปล่อยให้เล่นอิสระในเด็กเล็ก โดยสังเกตพฤติกรรม การแสดงออก การสื่อสาร
การมีปฏิสัมพันธ์ ว่าเหมาะสมหรือไม่ ในเด็กควรสังเกตโดยอิงตามพัฒนาการของเด็กด้วย
-
ประเมินเกี่ยวกับความสามารถในการทำกิจกรรม
กิจกรรมการดูแลตนเอง กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเล่น
วัยรุ่น
-
ใช้การสัมภาษณ์ผู้รับบริการเองเลย
วันรุ่นเป็นวัยที่มีระดับความรู้ความเข้าใจมากขึ้น สามารถเข้าใจและบอกปัญหาของตนเองได้
อีกทั้งยังมีความคิดเป็นของตัวเอง หากใช้การสัมภาษณ์จะทำให้ได้ข้อมูลจากความรู้สึก
เราเห็นเกี่ยวกับจิตใจของเขา
-
จะใช้การสัมภาษณ์ผู้ปกครองและผู้ใกล้ชิดเช่นเดียวกับเด็ก
-
การใช้การสังเกตผ่านการทำกิจกรรมที่วิเคราะห์แล้ว
โดยมีแบบประเมิน COTE,
แบบประเมินพลังชีวิตของกลุ่มกิจกรรมพลวัติ
-
ประเมินเกี่ยวกับความสามารถในการทำกิจกรรม
เช่น กิจกรรมการดูแลตนเอง กิจกรรมการเรียน การมีส่วนร่วมในสังคม
-
ประเมินความสนใจในการทำกิจกรรม
สิ่งที่ต้องได้จากการประเมิน
1.
ปัญหาของผู้รับบริการคืออะไร
2.
ปัญหาที่ผู้รับบริการ และ/หรือผู้ดูแลเป็นกังวล
3.
ปัญหาเหล่านั้นส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกิจกรรมการดำเนินชีวิตอย่างไร
ให้การบำบัด พิจารณากรอบอ้างอิง
MOHO เพื่อใช้ในการบำบัดฟื้นฟู โดยดูจากค่านิยม
เจตจำนง นิสัย ความสนใจ ความถนัดและทักษะการแสดงออก รวมทั้งดูภายในบริบทของสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับผู้รับบริการด้วย
เด็ก
-
การให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคและผลกระทบที่เกิดขึ้น
รวมทั้งการปฏิบัติตัวที่เหมาะสมกับเด็กและผู้ปกครอง
-
การจัดกิจกรรมโดยพิจารณาจากความสนใจของเด็ก
เพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำกิจกรรม รวมถึงกิจกรรมกลุ่ม
-
การปรับพฤติกรรม
เช่นการให้แรงเสริม การลงโทษโดยวิธีการที่เหมาะสม การวางเงื่อนไข
-
การจัดกิจกรรมในบริบทและสถานการณ์จริง
เพื่อให้เด็กได้รู้จักการแสดงออกพฤติกรรม อารมณ์อย่างเหมาะสม
-
การปรับสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม
เช่น ไม่ให้มีสิ่งเร้ารบกวนขณะทำการบ้าน ในเด็ก ADHD เป็นต้น
วัยรุ่น
-
การให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคและผลกระทบที่เกิดขึ้น
รวมทั้งการปฏิบัติตัวที่เหมาะสมกับตัววัยรุ่นเองและผู้ปกครอง
-
การจัดกิจกรรมกลุ่ม
เพื่อให้ได้แสดงออกทางพฤติกรรมและอารมณ์ที่เหมาะสม ได้เรียนรู้ทักษะทางสังคม
-
เรียนรู้เทคนิคการจัดการความเครียด
-
ส่งเสริมกิจกรรมยามว่าง
การทำกิจกรรมตามความสนใจ
-
กิจกรรมทางร่างกาย
เพื่อให้ได้ระบายแรงขับอย่างเหมาะสม เช่น กีฬา
-
เทคนิคการทำ
CBT เพื่อให้รับรู้ความเป็นจริงเกี่ยวกับปัญหาของตนเอง ผลกระทบที่เกิดขึ้น
และการแก้ไขปัญหานั้น
- การให้ความรู้เกี่ยวกับผลกระทบจากการใช้สารเสพติด
เป็นวัยที่มีความเสี่ยง
การประเมินซ้ำ เพื่อดูผลจากการให้การรักษาทางกิจกรรมบำบัด
สามารถประเมินได้หลายวิธี
เด็ก
-
การสัมภาษณ์จากผู้ปกครองถึงพฤติกรรม
การแสดงออก
-
แบบประเมินระดับ
Cognitive
-
แบบประเมินพฤติกรรมการปรับตัว
เช่น Vineland
Adaptive Behavior Scale
-
ประเมินการเล่น
เหมาะสมกับพัฒนาการหรือไม่
-
ประเมินความสามารถในการทำกิจกรรม
เช่น SAFE, COPM
วัยรุ่น
-
การสัมภาษณ์จากผู้รับบริการเอง
ดูการปรับตัวทางจิต
-
การสัมภาษณ์จากผู้ปกครองถึงพฤติกรรม
การแสดงออก
-
แบบประเมินระดับ
Cognitive
-
แบบประเมินพฤติกรรมการปรับตัว
เช่น Vineland
Adaptive Behavior Scale
-
ประเมินความสามารถในการทำกิจกรรม
เช่น SAFE, COPM
- ประเมินความสุข
ความพึงพอใจ
การให้การบริการทางกิจกรรมบำบัดเป็นเพียงวิธีหนึ่งที่ช่วยกลุ่มผู้รับบริการทางจิตเวช ยังคงมีการรักษาทางการแพทย์อื่นๆอีก นอกจากนี้การวางแผนการรักษาควรคำนึงถึงผู้รับบริการและความต้องการของญาติ รวมทั้งการให้ home program ด้วย