ข้อถกเถียงว่าด้วยธรรมชาติหรือวัฒนธรรม: ว่าด้วยการกดขึ่ผู้หญิง ตอนที่ 3


          

3. พัฒนาการของแนวคิดของ Levi-Strauss

จากการอภิปรายในส่วนที่แล้วของ Levi-Strauss ก็ได้มีการปรับปรุงผลงานใหม่ในการตีความ Elementary Structures of Kinship ในการพิมพ์ครั้งที่ 2 แต่ผลงานของเขาก็ยากที่จะตีความ เช่น เขามักใช้วิธีการเชิงศิลปะในการเขียนอยู่เสมอ

ในการพิมพ์ครั้งที่ 1เป็นช่วงที่เขากำลังเขียนวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกของเขา แต่ในช่วงการพิมพ์ในปี 1967 เขาเสนอว่า “ในฐานะที่เป็นปัญหาขั้นพื้นฐาน ซึ่งนำเห็นเสนอไว้ในบทนำ แต่ข้อเท็จจริงอันใหม่ และพัฒนาการในความคิดของฉัน มีความหมายว่าต่อไปนี้ฉันจะไม่แสดงออกแบบอย่างเดิมอีกต่อไป”[1] สิ่งนี้จะแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการทางความคิดของเขา

การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดก็คือการนิยามใหม่ของธรรมชาติและวัฒนธรรม วัฒนธรรม คือ “การทำเนา/การทำจำลอง ที่เป็นองค์รวมของกลไกต่างๆ ซึ่งดำรงอยู่แล้ว (ในธรรมชาติ) แต่ซึ่งอาณาจักรของสัตว์แสดงให้แต่เพียงรูปทรงที่กระจาย/แตก/แยกตัวออก และถูกระบายไปยังหลายส่วนหลายเสี้ยว-การสำเนา/การทำลอง,ยิ่งไปกว่านั้นอีก, อนุญาตให้มีโครงสร้างทางระบบประสาทเกิดขึ้น โดยตัวของมันเองแล้วเป็นธรรมชาติ”[2] สิ่งนี้มีความหมายว่าวัฒนธรรมทำให้มนุษย์เป็นมนุษย์ ถึงแม้ว่าสัตว์จะมีรูปแบบพฤติกรรมบางอย่างซึ่งดูเหมือนว่าจะมีแนวคิดวัฒนธรรมอยู่ เช่น การสร้างเครื่องมือ, การสื่อสาร, โครงสร้างสังคม ฯลฯ แต่มนุษย์ก็ดูเหมือนว่าจะใช้คุณลักษณะ (characteristics) ที่อยู่ทั้งหมด (ที่ถูกให้โดยธรรมชาติ)ไปสู่การแปลงรูปและนำไปสู่วัฒนธรรม

คำถามที่ว่า ธรรมชาติสิ้นสุดและวัฒนธรรมเริ่มต้นที่ตรงไหน ดูเหมือนว่าจะได้นิยามใหม่ขึ้นมา ประเด็นก็คือว่าธรรมชาติและวัฒนธรรมไม่ได้เป็นคู่ตรงกันข้ามอย่างแต่ก่อนแล้ว ก่อนหน้านี้ความคิดที่ว่าการห้ามรักระหว่างสายเลือดในฐานะที่เป็นการแสดงออกของทฤษฎีผลให้ต่างตอบแทน เป็นตัวเชื่อมกลางระหว่างทางทั้งของธรรมชาติและวัฒนธรรมก็มิได้เป็นเช่นข้อดังกล่าวอีกต่อไป มันมิใช่ข้อเท็จจริงขั้นปฐมหรือความเป็นระเบียบเชิงสากลอีกต่อไป (universal order) อย่างไรก็ตามแต่ข้อเท็จจริงระหว่างทั้งสองก็คือลักษณะที่ไม่สามารถแยกขาดได้จากกันในสารัตถะของความเป็นมนุษยชาติ

[1] Levi-Strauss,1969, อ้างถึงใน Alkistis Elliott-Graves

[2] อ้างแล้ว

หนังสืออ้างอิง

Altiskis Elliot-Graves. The incest taboo European Social Political Research Vol.13 (2006-2007)

Gayle Green and Coppelia Kahn. Feminist scholarship and the social construction of woman. in Gayle Green and Coppelia Kahn (eds). (1985). Making Difference: Feminist Literary Criticism. London. Methuen

หมายเลขบันทึก: 516026เขียนเมื่อ 12 มกราคม 2013 20:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 กันยายน 2014 16:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

Can't wait to read about women's  oppression (การกดขึ่ผู้หญิง).

Unesco has a lot of reports on gender oppression, apartheid and discrimination against women.

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท