เป็นปรากฏการณ์ที่อุ่นๆ ในใจเมื่อได้มองเข้าไปในใจตนเอง
เห็นความกระด้างเมื่อในอดีต เห็นความคืบคลานไปสู่อณูแห่งความอ่อนโยน...
ความซาบซึ้งใจที่ปรากฏ ... เมื่อใดที่ใจยังหยาบกระด้างอยู่เช่นนี้ โอกาสที่เราจะได้ลิ้มรส "ใจ" อันละเอียดที่ลึกซึ้งด้วยรสพระธรรมนั้นย่อมจะยากยิ่ง และเมื่อใดที่ใจเราอ่อนโยน ... จะนำเราไปสู่ความเข้าใจในสภาวะอันละเอียดลึกซึ้ง
และมองเห็น...ถึงความทุกข์ที่ครองใจผู้คนอยู่อย่างมากมาย
ความสงสาร ความเข้าใจ การให้อภัยจะปรากฏ
ได้รับคำตอบแล้วว่า ประสบการณ์ ณ ครั้งหนึ่งที่เคยเห็นสุภาพสตรีท่านหนึ่งมาตะโกยโวยวายด่าว่าพระอริยะท่าน ทำไมองค์ท่านจึงยังได้อ่อนโยน นั่นน่ะเพราะความเข้าใจ และสงสาร ท่านเดินหนี ไม่ใช่เกลียด หรือโกรธ หากแต่ยุติเพื่อไม่ให้สุภาพสตรีท่านนั้นได้ก่ออกุศลต่อไป
การที่จะทำให้ใจเราอ่อนโยนได้นั้น เราต้องฝึกฝืนความดึงรั้งที่จะคอยให้เรากระด้างอยู่เรื่อย ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ ความคิด ความรู้สึก...สังเกตได้ว่า หากใจนี้หมองไม่เบิกบานผ่องแผ้ว นั้นน่ะ ใจเรากำลังถูกครอบครองจากอาสวะกิเลส และเมื่อใดที่เราเข้าใจในปรากฏการณ์ต่างๆ ด้วยความอ่อนน้อม อ่อนโยน จิตนี้ก็จะยังคงซึ่งความเบิกบาน สดชื่น สดใส...
...
๗ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๖
สาธุค่ะท่าน ทุกวันนี้ก็ใช้วิธีนี้อยู่ เงียบไม่โต้ตอบ ใช่ว่า โกรธเกลียดเสียเมื่อไหร่ แต่ไม่อยากให้เค้า ก่ออกุศลต่อไป
หรือเดือดเนื้อ ร้อนใจเพราะเรา วันเวลาผ่านไป เดี๋ยวเค้าก็เบื่อว่าเราไปเอง
ทำให้รู้สึกอ่อนโยนและเข้าใจคนอื่นมากครับอาจารย์...รูปภาพยามหนาวกับสีขาวงดงามมากครับ
จิตที่ถูกฝึกฝน เมื่อเข้าใจย่อมเห็นทุกอย่างเป็นธรรม ย่อมอ่อนโยน และเห็นทุกอย่างตามความจริง
ขอบคุณครับ