ผู้บรรยาย : ผศ.ดร.สุชาดา ภัยหลีกลี้
ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
นโยบายสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าแก่ประชาชน เริ่มดำเนินการเต็มพื้นที่ทั่วประเทศในปีงบประมาณ 2545 (1 ตุลาคม 2544) เป็นนโยบายที่ดีมาก เพราะเป็นการแก้ปัญหาให้กับประชาชนประมาณสิบล้านคนที่ขาดหลักประกันสุขภาพมาช้านาน เป็นนโยบายที่จะสร้างความเสมอภาคในการเข้าถึงบริการสุขภาพในหมู่คนไทย เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูประบบสุขภาพแห่งชาติ โดยหลักการทั่วไปของการประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่สำคัญๆ มีหลักอยู่4 ประการ คือ
1.เป็นหลักประกันการมีสุขภาพดี ไม่ใช่แค่หลักประกันการเข้าถึงการซ่อมสุขภาพเท่านั้น หลักประกันนี้จะต้องรวมการสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคและปัญหาที่คุกคามสุขภาพ และเป็นบริการทั้งบุคคลและครอบครัว ถ้าประกันเฉพาะเรื่องซ่อมสุขภาพเป็นรายบุคคล จะเป็นการประกันสุขภาพที่ไม่สมบูรณ์
2. วางอยู่บนพื้นฐานของการเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุขของคนในสังคม คนมีมากจ่ายมาก คนมีน้อยจ่ายน้อย คนไม่มีรัฐต้องจ่ายแทนให้
3. มีบริการที่ได้คุณภาพและมีมาตรฐานเสมอหน้ากัน ประชาชนมีสิทธิ์เลือกใช้บริการได้ในระดับหนึ่ง ทุกคนสามารถเข้าถึงชุดบริการหลักได้เท่าเทียมกัน และ
4. ระบบประกันสุขภาพที่ดี ต้องมีระบบกลไกควบคุมคุณภาพ กลไกควบคุมการใช้จ่ายไม่ให้เกิดการสิ้นเปลื้องเกินจำเป็น
หากพิจารณาตามหลักการทั้ง 4 ข้อที่กล่าวมาแล้ว โครงการ หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ไม่น่าจะทำให้เกิดสุขภาพดีได้ เพราะสุขภาพนั้นหมายความถึง สภาพที่เป็นสุขที่สมบูรณ์ทั้งทางกาย ทางจิต สังคม และทางวิญญาณ ถ้าหากรัฐบาลและประชาชนยังเน้นไปยังการซ่อมสุขภาพมากกว่าการสร้างสุขภาพ อย่างที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน จะเห็นได้จากการทุ่มงบประมาณเพื่อประกันสุขภาพให้ประชาชนทุก ๆ คนตามนโยบายของรัฐ ซึ่งหมายความว่าการให้สิทธิแก่คนไทยทุกคนในการที่จะมีสิทธิซ่อมสุขภาพเมื่อเจ็บป่วยเกือบจะทุกกรณีตามสิทธิที่รัฐบาลได้ประกาศไว้ ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นนโยบายที่ดี ที่คนไทยพึงมีพึงได้โดยเท่าเทียมกัน แต่ถ้าให้สิทธิโดยที่ลืมนึกถึงการสร้างความตระหนักว่า รัฐให้สิทธิในการรักษาพยาบาลอย่างเต็มที่แล้ว ประชาชนก็มีหน้าที่ในการเฝ้าระวังและสร้างเสริมสุขภาพของตนเองด้วย ซึ่งถ้าระบบบริการและการจัดสรรงบประมาณเป็นแบบเดิมแล้ว ปริมาณผู้ป่วยย่อมเพิ่มขึ้นๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นั่นหมายถึงงบประมาณจำนวนมหาศาลที่จะต้องหมดไปกับการรักษาพยาบาล และเมื่อถึงจุด ๆ หนึ่ง เมื่อไม่สามารถจัดหางบประมาณเพิ่มขึ้นได้ คุณภาพการบริการ คุณภาพของเวชภัณฑ์ ก็ต้องย่อมถูกจำกัดลงไปด้วย
ประเทศไทยมีระบบประกันสุขภาพหลัก แบ่งออกเป็น 4 ระบบ
ระบบสุขภาพของประเทศไทย ได้มีการเปลี่ยนแปลงหลังจากที่รัฐบาลได้เริ่มใช้นโยบาย30บาทรักษาทุกโรคเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงระบบบริหารจัดการโดยเฉพาะการจัดการทางด้านวิธีการจ่ายบริการสุขภาพสำหรับประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ จึงได้มีการบริหารจัดการ 4 ระบบดังนี้
1. 30 บาทรักษาทุกโรค
เป็นระบบที่ใหญ่ที่สุดการบริหารจัดการบริหารจัดการโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและผู้เสียภาษี เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย ครอบคลุมบุคคลที่ไม่มีสิทธิประกันสังคมและสวัสดิการรักษาพยาบาล ข้าราชการ
2. ประกันสังคม
มีขึ้นเพื่อสร้างหลักประกันสุขภาพให้กับลูกจ้าง ธุรกิจเอกชน รับผิดชอบค่าใช้จ่ายร่วมกันโดย ตัวลูกจ้าง นายจ้าง และผู้เสียภาษี บริหารโดยสำนักงานประกันสังคม
3. สวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ
มีขึ้นเพื่อ สร้างหลักประกันให้กับข้าราชการ ซึ่งเป็นลูกจ้างของรัฐและครอบครัวโดยรับบาลซึ่งเป็นนายจ้าง ใช้เงินภาษีจ่ายให้เป็นสวัสดิการ บริหารโดยกรมบัญชี กลาง
4. ประกันเอกชน
เป็นระบบสมัครใจผู้ที่ต้องการได้สิทธิประโยชน์ตามข้อเสนอของบริษัทประกันสามารถซื้อหลัก ประกันเอกชน แต่ละแห่งเป็นผู้บริหาร
ไม่มีความเห็น