กรรมสโกมหิ


ถ้าเราเข้าใจเรื่องของกรรม เราจะเข้าใจในชีวิตมากขึ้น "ณ ปัจจุบัน" ...เราจะเป็นทั้งผู้สร้างเหตุและเป็นผู้รับผลของกรรมนั้นไปพร้อมๆ กัน เหตุที่สร้างเป็นเหตุใหม่ ผลของกรรมที่รับอาจเป็นผลที่มาจากเหตุเก่าอันเป็นผลสืบเนื่องหรือเหตุ ณ ปัจจุบันนั้นก็ได้

กรรมสโกมหิ ... เรามีกรรมเป็นของของตน 

ซึ่งศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่สอนเรื่องกรรม กรรมอันเป็นความหมายแห่งการกระทำที่มี "ใจ" เป็นตัวหนุน...หนุนให้เราพูด หนุนให้เรากระทำ ที่ดำเนินไปไม่ว่าขั้วใดก็ขั้วหนึ่ง นั่นก็คือ บวกหรือลบ => ธรรมหรือกิเลส

ไม่ใช่เรื่องของไสยศาสตร์อันลี้ลับ หากแต่เป็นเรื่องของเหตุและผล เป็นเรื่องของอิทัปปจยตา

บทหนึ่งที่ข้าพเจ้าชอบท่องอยู่เสมอ เพื่อเป็นการเตือนใจตนเอง...

สัพเพ สัตตา กัมมัสสะกา...กัมมะทายาทา ... กัมมะโยนิ กัมมะพันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัลยานังวา ปาปะกังวา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ

สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง

มีกรรมเป็นของของตน

เป็นผู้รับผลของกรรม

เป็นผู้มีกรรมเป็นกำเนิด

เป็นผู้มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์

เป็นผู้มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย

จักทำกรรมอันใดไว้

เป็นบุญหรือเป็นบาป

จักเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น สืบไป

หรืออาจกล่าวได้ว่า "มันมีเหตุเกิด" ... มันจึงมีผลเกิด => ทุกอย่างที่ปรากฏจึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ และไม่มีความบังเอิญ ทุกอย่างมีเหตุเป็นแรงหนุนเนื่อง เพื่อให้เกิดเป็นการกระทำ และส่งไปสู่ผล

หากเพียงแค่เราใส่ใจใคร่ครวญในชีวิตตนเอง เราจะเข้าใจมากขึ้นว่า ด้วยเหตุอันใดจึงเป็นเช่นนี้

อะไรเป็นเหตุของอะไร...อะไรเป็นผลอันสืบเนื่องที่เกิดขึ้น

ดังนั้นทุกลมหายใจ...ณ ที่มีข้าพเจ้าจึงมั่นเพียรสร้างเหตุที่ธรรม(กุศลกรรม)อยู่เสมอ ระวังตนเองให้มากที่จะเป็นสร้างเหตุตามกิเลส(อกุศลกรรม)

...

๒๕ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๕

 

หมายเลขบันทึก: 506722เขียนเมื่อ 25 ตุลาคม 2012 08:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 ตุลาคม 2013 22:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท