ชื่อเรื่อง : การประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนเมืองยมวิทยาคาร
ปีการศึกษา 2554
ชื่อผู้ประเมิน : นางดรุณี ดีปินตา รองผู้อำนวยการโรงเรียนเมืองยมวิทยาคาร
บทคัดย่อ
การประเมินโครงการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนเมืองยมวิทยาคาร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 37 อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ปีการศึกษา 2554 โดยประยุกต์จากรูปแบบ CIPP Model ของ Danial L. Stufflebeem ให้เหมาะสมกับบริบทของโรงเรียนเป็นการประเมินแบบ CIPPI Model ประกอบด้วยการประเมิน 5 ด้านคือ ด้านบริบท(Context Evaluation) ด้านปัจจัยนำเข้า(Input Evaluation) ด้านกระบวนการ(Process Evaluation) ด้านผลผลิต(Product Evaluation) และ ด้านผลกระทบ(Impact Evaluation) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้เป็นผู้บริหารและครู จำนวน 22 คน นักเรียน จำนวน 169 คน และผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 159 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามความคิดเห็นและปลายเปิด ข้อมูลที่ได้นำมาหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการประเมินพบว่า โดยภาพรวมมีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับมากที่สุด และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านผลการประเมินที่อยู่ในระดับมากที่สุดคือ ด้านบริบท ด้านปัจจัยนำเข้า และด้านผลกระทบ ส่วนผลการประเมินที่อยู่ในระดับมาก คือ ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิต เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านมีรายละเอียด ดังนี้
1. ด้านบริบท พบว่ามีผลการประเมินโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนมีความสำคัญและความจำเป็นมากในสภาพสังคมปัจจุบัน มีระดับความคิดเห็นสูงสุด รองลงมา คือ วัตถุประสงค์ของโครงการสอดคล้องกับนโยบายของโรงเรียนเมืองยมวิทยาคาร และลำดับที่สาม คือ กิจกรรมที่ดำเนินการตามโครงการฯ เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้บุคลากรและผู้เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการดูแลนักเรียน และ กิจกรรมที่ดำเนินการตามโครงการฯ เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนได้รับการดูแลช่วยเหลือและพัฒนาตนเองอย่างเต็มศักยภาพ ส่วนผลการประเมินที่มีคะแนนเฉลี่ยต่ำที่สุด คือ การจัดสภาพแวดล้อมในโรงเรียนเอื้อต่อการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
2. ด้านปัจจัยนำเข้า พบว่ามีผลการประเมินโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า มีสื่อและเครื่องมือในการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคลร่วมกันของผู้เกี่ยวข้อง มีระดับความคิดเห็นสูงสุด รองลงมา คือ มีการรวบรวม จัดหา ใช้ และพัฒนา สื่อ เทคโนโลยี นวัตกรรม และเครื่องมือในการส่งเสริม ช่วยเหลือ ป้องกันและแก้ไขปัญหานักเรียน และลำดับที่สาม คือ ครูให้คำแนะนำช่วยเหลือผู้ร่วมงานและสร้างเครือข่ายในการปฏิบัติงาน ส่วนผลการประเมินที่มีคะแนนเฉลี่ยต่ำที่สุด คือ งบประมาณในการสนับสนุนมีความเพียงพอ
3. ด้านกระบวนการ พบว่ามีผลการประเมินโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ครูที่ปรึกษาได้ทำความรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล มีระดับความคิดเห็นสูงสุด รองลงมา คือ ครูที่ปรึกษาชั้นทำการคัดกรองนักเรียนได้เหมาะสม และลำดับที่สาม คือ มีการประชุมผู้ปกครองเพื่อรับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหา ส่วนผลการประเมินที่มีคะแนนเฉลี่ยต่ำที่สุด คือ ครูที่ปรึกษามีการส่งต่อนักเรียนที่มีปัญหาหรือความต้องการพิเศษได้เหมาะสม
4. ด้านผลผลิต พบว่ามีผลการประเมินโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็น รายข้อ พบว่า นักเรียนรู้จักตนเองและควบคุมตนเอง มีระดับความคิดเห็นสูงสุด รองลงมา คือ นักเรียนมีความรู้ ความสามารถ ความสนใจ จุดเด่น จุดด้อย พร้อมที่จะปรับปรุงและพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา และลำดับที่สาม คือ นักเรียนได้รับการส่งเสริมให้แสดงออกตามความสามารถของตนเอง ส่วนผลการประเมินที่มีคะแนนเฉลี่ยต่ำที่สุด คือ นักเรียนมีจิตใจเอื้อเฟื้อ ช่วยเหลือผู้อื่น อย่างสม่ำเสมอ และนักเรียนมีบุคลิกลักษณะที่ดี
5. ด้านผลกระทบ พบว่า ความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการดำเนินงานโครงการระบบ การดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนเมืองยมวิทยาคาร โดยภาพรวมมีความคิดเห็นอยู่ในระดับ เห็นด้วยมากที่สุด และเมื่อพิจารณาเป็นรายโดยเรียงลำดับจากมากไปน้อยได้ดังนี้ ด้านการป้องกันช่วยเหลือและแก้ไข ด้านการส่งต่อ ด้านการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคลเพื่อคัดกรองนักเรียน และ ด้านการส่งเสริมและพัฒนา
ไม่มีความเห็น