ฝ่ายบริการการศึกษา ( Sending Programs ) เอเอฟเอสประเทศไทย จัดอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนางานด้านการทำใบสมัครนานาชาติและการดูแลนักเรียนเอเอฟเอสระหว่างเข้าร่วมโครงการเยาวชนเอเอฟเอสเพื่อการศึกษาและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมนานาชาติ ระยะ 1 ปีให้อาสาสมัครเอเอฟเอสทั้ง 80 เขต ได้มีความรู้-ความเข้าใจมากยิ่งขึ้น ระยะเวลา 4 วัน ระหว่างวันที่ 8-11 กันยายน 2555 ณ ห้องจูปิเตอร์ 11-13 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพคเมืองทองธานี
ผู้เข้ารับการอบรมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ ผสมผสานหลายรุ่น มีทั้งอาสาสมัครเอเอฟเอสหน้าใหม่-กลางเก่า-กลางใหม่ และหน้าเดิมที่คุ้นเคย เป็นประโยชน์ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันและช่วยสร้างเสริมสีสันของบรรยากาศแห่งการเกื้อกูลที่เอื้อต่อการเรียนรู้ด้วยกันเป็นอย่างดี
หัวข้อของเนื้อหา-สาระฯ ในการอบรมเชิงปฏิบัติการ
ข้อแนะนำในการทำใบสมัครนานาชาติ
“ Roles of Sending Support Volunteers and Problems Encountered ”
" Best Practices Sharing "
“ Cultural Adaptation/ Acculturation ”
" Tips on Recommendation Letter Writing "
" ลักษณะพฤติกรรมของนักเรียนที่จะเป็นปัญหาต่อการเข้าร่วมโครงการในต่างประเทศ "
“ AFS Educational Goals ”
" Motivation –Do we need it ? ”
“ How to manage conflicts "
“ US School system and class expectation “
" ประสบการณ์ในการปรับตัวในดินแดนต่างวัฒนธรรม "
“ Cultural Stereotypes "
" Case Work "
“ Risk Management What ?& How to prevent ”
Mr.Jeffrey E.Taschner-Academic Supervisor -AUA Thailand
Mr. Damon Anderson - Director of RELO-US Embassy
คุณปทิตตา ศิริเลิศไชยากูล ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาฯ พิธีกรฯ
คุณจุฬาวัลย์ แก้วดวงดี ผปส. เขตชัยภูมิ
Mr. Tanes Rienglaem RELO Administrative Assistant- US Embassy
เนื้อหาแต่ละช่วงล้วนเป็นประโยชน์และน่าสนใจ ไม่เพียงแต่นำไปใช้ในงานอาสาสมัครของเอเอฟเอสเท่านั้น แต่สามารถนำไปปรับประยุกต์ใช้ กับการพัฒนางานประจำในด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนและกิจกรรมสร้างเสริมประสบการณ์ให้กับผู้เรียนได้เป็นอย่างดี ฯลฯ
คุณชเนศ นาคะวิทย์ สุดยอดพิธีกรฝ่ายบันเทิง
สีสันการแสดงเพิ่มพูนบรรยากาศแห่งความสนุกสนาน
คุณจิรวัฒนา จรูญภัทรพงษ์ ผอ ฝ่ายบริการการศึกษา แสดงความยินดีกับผู้ชนะเลิศการประกวดร้องเพลง
ขอสรุปสาระบางส่วนที่น่าสนใจ ในบางเรื่องของบางช่วง ซึ่งอาจเกี่ยวเนื่องกับสังคมส่วนรวมฯ มาแลกเปลี่ยนดังนี้
Cultural Adaptation
“ Sojourner " is one who moves from one culture to stay in another culture which is totally different from his own one for a period of time.
Stages of Cultural Adaptation
Honeymoon phase
Crisis period (Culture shock)
Adjustment phase
Acceptance and Adaptation phase
เป็นวงจรชีวิตของผู้ที่เข้าร่วมโครงการ จะพบเจอ … ซึ่งบางช่วงเวลาอาจจะไปพบเจอสิ่งที่ยาก เมื่อปรับตัวไม่ได้ จึงรู้สึกอึดอัด ไม่อยากอดทน ขึ้นอยู่กับการ Support ของคนรอบข้าง ต้องช่วยให้ผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤตนี้
ความแตกต่างของวัฒนธรรม ต้องมีการปรับตัว เนื่องมาจาก
1 . การสื่อสารมันลดค่าลง เพราะต้องใช้ภาษาต่างประเทศ
2. ไม่รู้วิธีการที่ต้องติดต่อ-แก้ปัญหา เวลามีปัญหา
***... หลายคนไม่รู้วิธีการหาเพื่อน คนของเขาช่วยตนเองได้ หากไม่มีการร้องขอ เขาจะไม่ได้เข้ามา เพราะเขาคิดถึงสิทธิส่วนบุคคล จะไปตัดสินว่าเขาไม่ค่อยเป็นมิตร จึงเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง คนไทยจึงต้อง เรียนรู้ที่จะต้องปรับตัว ...***
*** คนไทยหลายคน ชอบแปลไทยเป็นอังกฤษ บางคำไปใช้ Google แปล มันไม่สื่อ อย่างเช่นคำว่า สู้ๆ ของสำนวนไทย พอแปลแทนที่จะใช้คำว่า Patient กลับไปใช้ตรงๆว่า Fight เวลาจะสื่อสารใน FB มันอันตรายมาก ***
Culture Distance (Culture Different)
บางคนไม่ยอมเรียนรู้ ไม่ได้ศึกษาไปก่อน เมื่อไปพบเจอวัฒนธรรมอื่นที่แตกต่าง อาจเกิดอาการ Culture shock รู้สึกผิดหวัง โกรธ เสียใจ น้อยใจ รู้สึกด้อยค่า บางคนยึดติดกับวัฒนธรรมเดิม พอไปเจอสิ่งที่คาดหวังจากวัฒนธรรมอื่น อาจมีความรู้สึกไม่ดี หวาดกลัวว่าไม่ได้รับความยอมรับ ไม่แน่ใจว่าจะอยู่ในค่านิยมแบบนั้นได้ หาทางออกไม่ได้
วิธีการพัฒนาภาษา
คุณรุจิรา คันทรง ผู้จัดการฝ่ายฯ
ลักษณะพฤติกรรมของนักเรียนที่จะเป็นปัญหาต่อการเข้าร่วมโครงการในต่างประเทศ
ในระหว่างการจัดค่ายเตรียมความพร้อม มีการสังเกตพฤติกรรมผู้เข้าร่วมโครงการหากพบ เด็กที่ดูท่าทางจะมีปัญหา อาจต้องให้จิตแพทย์มาช่วย ปัจจุบันมีผู้ทำงานเกี่ยวกับด้านจิตเวช ทั้งประเทศ ไม่ถึง 100 คน ในเขต กทม. มีอยู่ 50 คน เด็กเก่งๆ เครียดเยอะ ชอบแยกตัวออกมา ต้องรีบดูแล อันเนื่องมาจากการความกดของสังคมรอบด้าน จึงเกิดความเครียด-ความกังวลใจ เช่นมีการแข่งขันกันสูง คะแนนฟาดฟันกัน ทับถม เด็กเก่ง มีปัญหาเยอะกว่าเด็กอ่อน บางคนสมาธิสั้น พูดแทรกตลอดเวลา แสดงว่าอาจมีปัญหา
เด็กวัยรุ่น อาการซึมเศร้าดูยาก บางคนแสดงออกมาในแง่ของพฤติกรรมอันธพาล บางคนทำบางสิ่งลดลงไปกว่าปกติ เช่นเคยเล่นกีฬา ก็ไม่ยอมเล่น บางคนน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาก เพราะการกินอาหารนั้น ตัวเองสามารถกำหนดเอง ทำด้วยตนเองได้ ในขณะที่เรื่องเรียน หรือ เรื่องอื่นๆ ต้องทำตามคนอื่นกำหนดให้ อาการไม่ได้ออกมาเหมือนผู้ใหญ่ เมื่อเข้าร่วมโครงการฯ หากไปแสดงออกที่นั่น อาจถูกส่งกลับก่อน ต้องรีบสังเกตและช่วยเหลือ
***… พ่อ-แม่บางคนไม่ยอมรับความจริง รู้จักลูกๆ น้อยกว่าครูด้วยซ้ำ ครูหลายคนสอนแค่วิชาการพอ เพราะเบื่อที่พ่อแม่เลี้ยงลูกแบบ Over protection…***
นพ. ณัฐวัฒน์ งามสมุทร จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น
Cultural Stereotypes
Stereotypes
เป็นการลงความเห็นจากบุคคลิกลักษณะภายนอกของชนส่วนใหญ่ จากเพศ ชาติพันธุ์ และตั้งข้อสมมุติฐาน โดยเชื่อว่าน่าจะเป็นแบบนั้น แต่อาจไม่ใช่เช่นนั้น อาทิเช่น คนยิว ขี้เหนียว / คนจีน ขยัน อดทน ประหยัด / คนแขก ขายถั่ว-โรตี โพกหัว เก็บดอกเบี้ยโหด ฯลฯ
เป็นการยากที่จะไปห้าม- หยุดยั้งความคิดแบบนั้น แม้แต่การโฆษณา การวาดภาพยังอดที่จะล้อเลียน ไม่ได้
บางครั้งมันเป็นปัญหาได้ เช่นหากคนไทยไปต่างประเทศมักจะถูกถามว่า กินเผ็ดใช่ไหม กินเนื้อสุนัขใช่ไหม ขี่ช้างไปโรงเรียน /ทำงานหรือปล่าว บางครั้งสร้างความรู้สึกอึดอัดให้ผู้ที่ถูกถาม อาจก่อให้เกิดความรู้สึกไม่ดี
Stereotype แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
Good Stereotype
Bad Stereotype
***…หน้าที่ของเราคือ ต้องพยายามเปลี่ยนข้อสมมุติฐานที่เขาเชื่อแบบผิดๆ ให้เขาเข้าใจ ให้ถูกต้อง…***
คำนิยามที่บัญญัติขึ้นมาในยุคใหม่ เช่น
เนิรด : ขยัน แต่งตัวสะอาด ดูเชย โบราณ
พังส์ : สีมืดๆทำผมตั้ง สัก ออกแนวสนุกสนาน
โกต์ ( Gothic) : เป็นพวกมืดๆ รักงามแต่ต้องดำ ทะมึน
จอกส์ : อารมณ์เหมือนพวกชอบ Jogging กล้ามใหญ่ ขี้แซว
*** ... ขอขอบคุณผู้เข้ามาเยี่ยมชมทุกท่านนะคะ ... ***