กลุ่มแจงลอน พัฒนาชุมชน BUU


แจงลอน ภูมิปัญญาท้องถิ่นภาคตะวันออก

      

    สวัสดีจ้าเพื่อนๆชาว Gotoknow ทุกคน เขียนบล็อกครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกเลยนะเนี้ย ตื่นเต้นจังที่จะได้มาแลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อนๆชาวโลกอินเตอร์เน็ต แต่รับรองได้เลยว่า การที่ลุกมาเขียนบล็อกต้องมีอะไรดีๆอย่างแน่นอน อะไรดีๆที่ว่า ก็คือ “ภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่วิถีภาคตะวันออก”ที่นิสิตสาขาการพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยบูรพา ในรายวิชาการจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นได้ทำการจัดนิทรรศการขึ้น ภายในงานมีภูมิปัญญาต่างๆของภาคตะวันออก ได้แก่ พวงมโหตร น้ำพริก ขนมเปียกปูน ข้าวเกรียบปลาสลิด และแจงลอน งานนี้ก็จัดไม่ไกลไม่ใกล้ หน้าคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพานี้เอง บ้างคนอาจจะสงสัยว่าจะกันตอนไหน จัดกันวันที่ 17 กันยายน เวลา13.00-16.00 ที่ผ่านมานี้เอง แต่สำหรับคนที่พลาดไป ไม่ต้องเสียใจ เรายังมีความรู้ดีๆให้เพื่อนๆได้มาแลกเปลี่ยนและนำกับไปทำเองได้เลย ซึ่งกลุ่มพวกเรา ขอนำเสนอ “แจงลอน” อาหารที่มีชื่อแปลก แต่สำหรับคนชลบุรี ฉะเชิงเทรา อาจจะคุ้นเคยรูปลักษณ์ของมันตั้งแต่แรกที่เห็นเลยก็ว่าได้ เอาเป็นว่า เราไปรู้จักแจงลอนกันเลยดีกว่า

ความหมาย/ที่มาของชื่อ

จังหวัดฉะเชิงเทรา คำว่า “แจงลอน”เป็นภาษาเขมร คนฉะเชิงเทราเรียกกันตามมาจนถึงปัจจุบัน แจงลอนจะมีลักษณะรสชาติเหมือนทอดมัน แต่ที่แตกต่างกันคือ แจงลอนจะนำมาปิ้ง ส่วนทอดมันจะนำมาทอด คนในสมัยก่อนนิยมทำกับข้าวโดยการปิ้งย่างจึงเป็นที่มาของอาหารแจงลอนที่นำมาปั้นเป็นรูปรีๆและนำไปปิ้งบนเตาไฟ

จังหวัดชลบุรี คำว่า"แจงลอน" หรือ "จอนลอน"ชื่อนี้เรียกมาจากลักษณะการปั้นเป็นลอนๆจึงมีชื่อเรียกว่าแจงลอน แจงลอน เป็นอาหารที่เกิดจากภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่รู้จักนำปลามาผสมกับพืชสมุนไพร ปรุงให้มีรสชาติอร่อย เครื่องปรุงคล้ายห่อหมก ปั้นเป็นก้อนกลมเสียบไม้ย่างไฟ

 

วิวัฒนาการของแจงลอน                                                                                                                                                     ภาคตะวันออกเป็นพื้นที่ติดทะเล ชาวบ้านนิยมออกหาปลาเป็นอาชีพหลัก ทำให้มีปลาจำนวนมาก ชาวบ้านนิยมนำปลามาประกอบอาหาร ทำให้ปลาเป็นอาหารหลักสำหรับคนภาคตะวันออก แต่ด้วยปลามีจำนวนมาก ชาวบ้านก็แต่ดัดแปลงจากการที่นำปลาไปทำห่อหมก ทอดมัน และดัดแปลงมาทำแจงลอน ซึ่งมีลักษณะวิธีการทำที่ง่ายกว่า และรับประทานที่สะดวกกว่า แถมยังไม่มีน้ำมัน ทำให้แจงลอนเป็นที่นิยมเป็นจำนวนมาก และด้วยที่มีคนนิยมจำนวนมาก ทำให้แจงลอนมีส่วนผสมและวิธีการทำที่หลากหลายมากขึ้น ขึ้นอยู่กับท้องถิ่นและความคิดสร้างสรรค์

 

 แจงลอนจังหวัดฉะเชิงเทรา

จากการที่พวกเราได้ไปศึกษาหาข้อมูลที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ป้ามณีทองทิพย์ เป็นคนทำแจงลอนเป็นเจ้าแรกของตลาดบ้านใหม่ เมืองแปดริ้ว ซึ่งเขาได้ลองผิดลองถูกในการทำสูตรขึ้นมา แต่เดิม ป้ามณีเป็นแม่ครัวมาก่อน จึงหันมาทำแจงลอนที่ทำไม่ยากแต่ขึ้นอยู่ที่รสชาติความอร่อย โดยการปั่นและผสมเครื่องแกงเองทุกอย่าง และเป็นสูตรโบราณ ของฉะเชิงเทรา ความรู้ที่ได้คือจากการฝึกทำโดยประสบการณ์ตัวเองและเรียนรู้โดยการลองผิดลองถูก จนได้มาเป็นที่สูตรที่มีรสชาติเผ็ดที่กลมกล่อมขายดีจนมาถึงปัจจุบัน

ส่วนผสม

1.เนื้อปลายี่สก2.ถั่วฝักยาว 3.พริกแกงปั่น 4.มะพร้าวขูด5.ยอดมะพร้าว6.น้ำปลา7.กระชาย 8.ใบมะกรูด

วิธีทำ

1.นำเนื้อปลายี่สกมาขยำเนื้อให้กลมกลืนกัน

2.นำเนื้อปลามาขยำกับพริกแกง ปรุงรสให้อร่อยแล้วขยำจนเริ่มรู้สึกเหนียวติดมือแล้ว ใส่มะพร้าวขูดและยอดมะพร้าวถั่วฝักยาวที่หั่นไว้ลงไป คลุกเคล้าขยำรวมกันจนเหนียวหนึบดีแล้ว

3.นำใบมะกรูดซอยละเอียดขยำอีกจนกว่าแน่ใจว่าเหนียว ใช้ได้แล้ว

4.นำเอาเนื้อปลาที่ขยำไว้เรียบร้อยแล้วมาปั้นติดกับไม้ไผ่ ไม้หนึ่งอันปั้นติดสามลูก

5.แล้วนำแจงลอนลงไปย่างไฟอ่อนพลิกไปพลิกมาจนสุก สีจะเหลืองและจะส่งกลิ่นหอม

แจงลอนจังหวัดชลบุรี

     จากการที่ไปศึกษาวิธีการทำจากป้า ป้าเป็นแม่ครัว ที่รับจ้างทำอาหารตามงานบุญ  งานบวชต่างๆ ป้าบอกกับพวกเราว่ารสชาติของคนชลบุรีจะหวานมากกว่าจังหวัดอื่นๆ และที่จังหวัดชลบุรีจะใส่ไข่ไก่เพื่อที่ทำให้สีของแจงลอน นวลขึ้นและเวลาปั้นควรนำมือจุ่มน้ำเพื่อให้ปั้นได้สะดวกขึ้นและแจงลอนที่ออกมาจะมีลักษณะเป็นลูกกลมๆน่ารับประทาน

ส่วนผสม

1.ปลาข้างเหลืองขูด2. น้ำพริกแกงเผ็ด 3. มะพร้าวขูด4. ใบมะกรูด 5.ใบโหระพา6. น้ำปลา7. น้ำตาลปีบ8.ไข่ไก่

วิธีทำ                              

1.ตำเนื้อปลาข้างเหลืองขูดให้ละเอียดแต่ไม่ถึงกับละเอียดมาก

2.เทเนื้อปลาข้างเหลืองขูดลงไปในภาชนะที่เตรียมไว้

 

3.เทพริกแกงเผ็ดลงบนเนื้อปลาขูดที่อยู่ในภาชนะที่เตรียมไว้แล้วขยำเนื้อปลาข้างเหลืองและน้ำพริกแกงเผ็ดให้รวมเป็นเนื้อเดียวกัน

4.ใส่น้ำปลาและน้ำตาลตามปริมาณส่วนผสมดังที่กล่าวไว้ข้างต้น

5.เทมะพร้าวขูดทั้งหมดที่เตรียมไว้ลงบนภาชนะที่มีส่วนผสมการทำแจงลอน

6.ขยำส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน

7.หลังจากที่ผสมเสร็จแล้วก็ใส่ไข่ไก่ ใบมะกรูด ใบโหระพาที่ซอยแล้วก็ขยำให้เป็นเนื้อเดียวกันอีกทีหนึ่ง

8.ใช้มือหยิบแจงลอนให้มีขนาดพอเหมาะหรือพอดีมือแล้วปั้นให้ติดกับไม้ทางมะพร้าวที่ถูกเหลาแล้วเพื่อจะนำไปย่างไฟ

9.นำแจงลอนขึ้นย่างไฟอ่อนๆ

ความแตกต่างของ2 จังหวัด

1.จังหวัดฉะเชิงเทรา รสชาติจะออกเผ็ดกำลังดี ไม่หวานมาก คนที่ชอบรสชาติเผ็ดกำลังดี ใช้ปลาน้ำจืดเนื่องจากติดกับแม่น้ำบางประกงและใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นมาเป็นส่วนผสม เช่น ยอดมะพร้าว กระชายและใส่ถั่วฝักยาว และไม้จะใช้ไม้ตะเกียบ

2.จังหวัดชลบุรี รสชาติหวานกลมกล่อม ไม่ค่อยเผ็ด ใช้ปลาน้ำเค็มทำเนื่องจากอยู่ติดทะเลหาได้ง่าย และใส่ไข่เพื่อให้ส่วนผสมเข้ากันมากขึ้น

คุณค่าทางอาหาร

1.ปลา อุดมด้วยโปรตีน แคลเซียมจากธรรมชาติ

2.ใบมะกรูด สรรพคุณ ขับลม ทำให้เลือดลมไหลเวียนดี ช่วยบำรุงหัวใจ ระบบการไหลเวียนของโลหิต แก้ไอ

3.โหระพา สรรพคุณ แก้ไข้ ปวดศีรษะ ขับลม แก้ท้องอืด เป็นยาขับปัสสาวะและยาระบายอ่อนๆ

4.พริกแกง สรรพคุณ ให้ใยอาหาร แล้วยังให้วิตามินและร่างธาตุต่างๆ ตลอดจนใยอาหาร อีกทั้งยังให้สรรพคุณทางยาอีกด้วย

5.ถั่วฝักยาว สรรพคุณ รักษาท้องอืด เป็นยาบำรุงม้ามและไต กระหายน้ำ อาเจียน ปัสสาวะกะปริบกะปรอย ตกขาว

6.ยอดมะพร้าว สรรพคุณ เป็นอาหารที่ปลอดสารพิษและเพิ่ม เส้นใยอาหารได้ดี

7.กระชาย สรรพคุณ แก้ท้องบิด ท้องร่วง โรคกระเพาะ

     แจงลอนเป็นอาหารหรือของกินเล่นที่ทำได้ง่ายๆและมีประโยชน์ใช่ไหมละเพื่อนๆ สำหรับคนที่กลัวอ้วน แจงลอนเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว เพราะแจงลอนใช้ปิ้ง ไม่มีน้ำมัน ทำให้คนกลัวอ้วนหายห่วงไปเลย แจงลอนสำหรับคนที่ชอบรับประทานรสหวาน สูตรชลบุรี ก็เป็นสูตรที่น่าสนใจ แต่สำหรับคนที่ชอบกินเผ็ดหน่อย และชอบกลิ่นกระชาย สูตรฉะเชิงเทรา เป็นสูตรที่เหมาะเลย แต่สำหรับใครที่ชอบรสหวาน รสเค็ม รสไหนมากกว่ากัน ก็ขึ้นอยู่กับที่เราปรุง หรือใครจะดัดแปลงให้มีผักหรือดัดแปลงเป็นแจงลอนรสเขียวหวานก็ขึ้นกับความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละบุคคล ยังไงถ้าเพื่อนๆคนไหน มีไอเดียใหม่ๆหรือต้องการสอบถามข้อมูลก็สามารถแลกเปลี่ยนความรู้กันได้เลยจ้า

นิสิตมหาวิทยาลัยบูรพา สาขาการพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยบูรพา รายวิชาการจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิิน

หมายเลขบันทึก: 505176เขียนเมื่อ 11 ตุลาคม 2012 02:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม 2012 13:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท