การคิดเชิงกลยุทธ์
การคิดเชิงกลยุทธ์มีความสำคัญมาก เนื่องจากว่าในปัจจุบันหากผู้บริหารสูงสุดขององค์กรมีการคิดแบบกลยุทธ์ก็จะสามารถทำให้องค์กรสามารถแข่งขันในโลกแห่งการเปลี่ยนแปลงได้
ความหมายของกลยุทธ์
กลยุทธ์หมายถึงแผนการหรือวิธีการที่มีการคิดแบบรอบคอบ เดิม กลยุทธ์นั้นใช้ในสงครามบางครั้งเรียกว่ายุทธศาสตร์ต่อมานำมาใช้ในการบริหารทางธุรกิจหรือแม้กระทั่งบางครั้งนำมาใช้ในการบริหารองค์กร ลักษณะของการคิดเชิงกลยุทธ์นั้นมีลักษณะเป็นกระบวนการ หมายความว่า เป็นชุดความคิด คือตั้งแต่วางแผน ดำเนินการตามแผน จนบรรลุวัตถุประสงค์ตามแผนงานที่วางไว้
ความหมายของการคิดเชิงกลยุทธ์
หมายถึง ความสามารถในการกำหนดแนวทางการวางแผน ภายใต้สถานการณ์ต่างๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ และการคิดเชิงกลยุทธ์นั้นมีปัจจัยที่เอื้อต่อความสำเร็จของการคิดแบบเชิงกลยุทธ์คือ ความแม่นยำของสมมุติฐาน หมายความว่า การคาดเหตุการณที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ ความสามารถในการวิเคราะห์และประเมินปัจจัยที่เกี่ยวข้องได้ หมายความว่าสามารถประเมินคู่แข่งขันได้ ความสามารถในการคาดคะเนการเปลี่ยนแปลง ความสามารถในการกำหนดทางเลือกและการตัดสินใจ นอกจากนั้นต้องมีความสามารถในการวางแผนด้วย ดังนั้นการคิดเชิงกลยุทธ์นั้นหากจัดลำดับแล้วมีขั้นตอนกระบวนการดังนี้ กำหนดเป้าหมายที่จะต้องไปให้ถึง วิเคราะห์และประเมินสถานะ หาทางเลือกกลยุทธ์ วางแผนปฏิบัติการ วางแผนคู่ขนาน การทดสอบในสถานการณ์จำลอง ลงมือปฏิบัติการ การประเมินผล
เหตุใดต้องมีการคิดเชิงกลยุทธ์
หากคุณอยากประสบความสำเร็จในเรื่องใดเรื่องหนึ่งจำเป็นอย่างยิ่งต้องมีการคิดแบบเชิงกลยุทธ์ การคิดเชิงกลยุทธ์นั้นช่วยฉุดจากความฝันสู่โลกแห่งความจริง หมายความว่า เราสามารถสร้างให้เป็นจริงตามเป้าหมายได้หากเราสามารถวางแผนและคิดเชิงกลยุทธ์ก็จะทำให้ประสบความสำเร็จได้ การคิดเชิงกลยุทธ์ทำให้เราสามารถมองเห็นทางออกที่หลากหลายได้ การคิดเชิงกลยุทธ์ช่ยให้เราพัฒนาทักษะการตัดสินใจในสภาวการณ์ต่างๆได้ การคิดเชิงกลยุทธ์ทำให้เราปรับตัวได้ ภายใต้แรงกดดันจากสภาพแวดล้อม จากที่กล่าวมาข้างต้นหากเราฝึดการคิดแบบกลยุทธ์แล้วสามารถทำให้เราสามารถใช้ในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทั้งส่วนตัวและองค์กร
สำรวจสถานการณ์คิดเชิงกลยุทธ์
ผู้ที่เป็นนักคิดเชิงกลยุทธ์นั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถดังนี้ ความสามารถในการคิดอย่างเป็นกระบวนการ ความสามารถในการวิเคราะห์และประเมินสถานะ ความสามารถในการกำหนดแนวทาง ความสามารถในการตัดสินใจ ความสามารถในการวางแผน ความสามารถในการดำเนินการ และความสามารถในการรับมือกับสถานการณ์เฉพาะหน้า และจากคุณสมบัติเหล่านี้นักคิดเชิงกลยุท์ที่ดีจะต้องมีการวางแผนแล้วประเมินสถานการณ์ดูว่าสามารถทำได้ไหมหากทำได้ก็สามารถลงมือปฏิบัติได้เลยโดยต้องคิดแบบองค์รวมหมายความว่าจะต้องไม่กระทบต่อปัจจัยรอบด้านด้วย
ชัดในปัญหาและเป้าหมายของกลยุทธ์
ประเด็นสำคัญของการคิดเชิงกลยุทธ์นั้นสำคัญอย่างยิ่งที่ต้องรู้ถึงปัญหาที่แท้จริงหากไม่รู้ปัญหาที่แท้จริงก็ไม่สามารถวางแผนการแก้ไขปัญหาได้ การแก้ไขปัญหานั้น สามารถแก้ไขปัญหาด้วย 4 ขั้นต่อไปนี้
ขั้นตอนที่ 1 เป็นการเปรียบเทียบระหว่างสถานะของปัญหาและเป้าหมายถ้าหากปัญหาหมดไปแล้วสถานะจะเป็นอย่างไร
ขั้นตอนที่ 2 เป็นการกำหนดหนทางในการแก้ไขปัญหา
ขั้นตอนที่ 3 เป็นการดำเนินการเพื่อการแก้ไขปัญหา
ขั้นตอนที่ 4 เป็นการดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เป้าหมายเกิดความสำเร็จตามวัตถุประสงค์
ในการแก้ไขปัญหาโดยใช้วิธีการคิดแบบกลยุทธ์นั้น สำคัญต้องเริ่มจากการ ศึกษาปัญหาให้ชัดเจน เช่น หากนักศึกษาไม่ชอบมาเรียนปัญหาเกิดจากอะไรที่แท้จริง ประการที่สอง ต้องชัดเจนในเป้าหมายในการแก้ไขปัญหา นักคิดเชิงกลยุทธ์หากเกิดปัญหาแล้วการแก้ไขปัญหาเมื่อทราบต้นเหตุแห่งปัญหาแล้วก็ต้องตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนในการแก้ไขปัญหา ประการที่สามคือ ชัดในเป้าหมายพึงประสงค์ หมายถึง การชัดเจนในเป้าและสามารถวัดได้ ในการกำหนดเป้าหมายสำคัญจะต้องเป็นเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น เทอมนี้จะสอบให้ได้ A ทุกวิชา จะต้องทำงานให้เสร็จก่อนเวลา 15.00 น.เป็นการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน บางครั้งอาจมีหลายเป้าหมายแต่ต้องเลือกเป้าหมายที่ดีที่สุดเท่านั้น การกำหนดเป้าหมายนั้นจะต้องมีการกำหนดเป้าหมายระยะยาว เป้าหมายระยะกลาง และเป้าหมาย ระยะสั้น จากนั้นดำเนินตราเป้าหมายที่วางไว้
วิเคราะห์และประเมินสถานะสามสิ่งที่ต้องรู้จัก
ดังนั้นก่อนที่นักคิดเชิงกลยุทธ์จะดำเนินตามเป้าหมายใดๆ ก็แล้วแต่ จะต้องประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์เพื่อมั่นใจว่าโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่าความล้มเหลว ดังนั้นจึงมีความสำคัญมากที่นักคิดเชิงกลยุทธ์จะต้องรู้ถึงสามสิ่งดังนี้คือ
1. รู้จักตนเอง รู้จุดออ่น จุดแข็งของตนเอง หมายความว่า หากเราสามารถวิเคราะห์ตนเองได้ว่าเรามีจุดออ่นจุดแข็งอย่างไร เราก็สามารถวางแผนเพื่อให้ชนะคู่แข่งขันได้ โดยการวิเคราะห์จุดแข็ง จุดออ่นในตัวเรานั่นเอง ทั้งนี้เราถึงองค์กรได้ด้วยเช่นกัน
2. รู้จักสภาพแวดล้อม รู้โอกาสและอุปสรรค หมายความว่า สภาพแวดล้อมภายนอกมีความสำคัญมากเราจะต้องวิเคราะห์สถานการณ์ภายนอกว่ามีสถานการณ์เป็นเช่นไร โดยการวิเคราะห์โอกาสและอุปสรรคที่จะเกิดขึ้น การรู้จักสภาพแวดล้อมทำให้เราสามารถเตรียมความพร้อมในอนาคตได้เป็นอย่างดี
3. รู้จักอนาคต รู้ความไม่แน่นอนของอนาคต คงเป็นการดีหากเรารู้อนาคต เพราะอนาคตเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้นหากเราสามารถวิเคราะห์อนาคตได้ดี เราก็จะสามารถสามารถดำเนินตามแผนได้ประสบความสำเร็จ
หาทางเลือกและการวางแผนกลยุทธ์
หลังจากที่เราประเมินสถานการณ์แล้วเราจะพบว่าเป้าหมายที่เราวางไว้ สามารถดำเนินไปได้ 3 สภาวะคือ ความแน่นอน ความไม่แน่นอน และสภาวะมีความเสี่ยง หลังจากวิเคราะห์สภาวะความเสี่ยงแล้วเราจำเป็นต้องกำหนดทางเลือกของเป้าหมายที่ดีที่สุด กล่าวคือ เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด และเหมาะสมที่สุด จากนั้นกำหนดกลยุทธ์ที่สอดเคล้องกับเป้าหมาย หลังจากนั้นก็เลือกกลยุทธ์ที่ดีที่สุดในการวางแผนปฏิบัติการต่อไป
ลงมือปฏิบัติการ
ขั้นตอนการลงมือปฏิบัติการเป็นขั้นตอนที่ต้องพยายามทำตามแผนที่วางไว้ และวิธีคิดเชิงกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องมีวิธีดังนี้
ยืดหยุ่นตามสถานการณ์ หมายความว่า ในการตั้งเป้าหมายนั้นบางครั้งจะต้องมีการยืดหยุ่นของเป้าหมาย
มุ่งตอบสนองสถานการณ์เฉพาะหน้า พยายามยึดโยงเป้าหมาย หลักในการเอาชนะสถานการณ์เฉพาะหน้ามีดังนี้ มีความคิดในแง่บวกเสมอ พยายามเข้ายึดเป้าหมายให้ได้ มีความสามารถในการควบคุมตัวเอง ตอบสนองสถานการณ์อย่างรวดเร็ว พยายามหาโอกาสจากอุปสรรค
ตรวจสอบสถานการณ์อยู่เสมอ สถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องตรวจสอบสถานการณ์เพื่อการเปลี่ยนแปลงเป้าหมาย
เทคนิคทางเลือกกลยุทธ์ในสถานการณ์ต่างๆ
เทคนิคการเลือกกลยุทธ์ในสถานการณ์ต่างๆมีดังนี้
กลยุทธ์ภายใต้สภาวะที่มีโอกาส นักคิดเชิงกลยุทธ์จะต้องมีความพร้อมหากมีโอกาสมาเราพร้อมที่จะลงมือทำเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทันที ดังสภาษิตที่ว่า เวลาและสายน้ำไม่เคยคอยใคร
กลยุทธ์ภายใต้สภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลง นักคิดเชิงกลยุทธ์จะต้องรู้จักสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลง สถานการณ์บางอย่างอาจไม่เหมาะสมกับกลยุทธ์ก็ต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ไป
กลยุทธ์ภายใต้สภาวะเผชิญอุปสรรค นักคิดเชิงกลยุทธ์จะต้องหลิกอุปสรรคให้เป้นโอกาส
กลยุทธ์ภายใต้สภาะวิกฤต นักคิดเชิงกลยุทธ์จะต้องรู้จักประเมินสถานการณ์แล้วเลือกกลยุทธ์การถอย เพื่อตั้งหลักคิดกลยุทธ์ใหม่
การจะเป็นนักคิดเชิงกลยุทธ์นั้นสำคัญจะต้องฝึกฝนโดยเริ่มตามลำดัลดังนี้ คือ ความต้องการ ความตั้งใจ การตั้งเป้าหมาย
อ้างอิง : การคิดเชิงกลยุทธ์ ศาสตาจารย์ ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์