แมว


     แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่หลายๆคนชื่อชอบรวมถึงดิฉันด้วยแมวเป็นสัตว์ที่น่ารักเลี้ยงง่ายขี้อ้อนมากแต่เห็นน่ารักๆแบบนี้แต่แมวก้อมีเรื่องประวัติของแมวยุคโบราณซึ้งในยุคนั้นจะถือได้ว่าแมวเป็นสัตว์ที่ศักดิ์สิทธิ์เลยทีเดียวซึ้งดิฉันได้อ่านเจอในหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งเกิดในยุคสมัยอาณาจักรอียิปต์โบราณ สัตว์แทบทุกชนิดล้วนมีความเกี่ยวพันกับเทพเจ้าหรือเทพีในฐานะสื่อกลางระหว่างมนุษย์กับเทพเจ้า มีการใช้สัตว์บวงสรวงเพื่อให้เทพเจ้าคุ้มครองมนุษย์จากภูตผีปีศาจและสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ สัตว์บางชนิดได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังทางธรรมชาติ ในขณะที่สัตว์บางชนิดได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของปีศาจที่ชั่วร้าย วิหารเทวีไอซิสที่ฟิเล นักบวชประจำวิหารได้เลี้ยงแมวไว้เป็นจำนวนมาก เพราะแมวถือเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของเทวีไอซิส (มเหสีของเทพเจ้าโอซิริส-เทพเจ้าที่ชาวอียิปต์ให้ความเคารพบูชามากที่สุด) เทพีของอียิปต์ที่มีความเกี่ยวข้องกับแมวโดยตรง คือ เทพีบาสเซ็ท (BASTET) เทพประจำนครบูบาสติส เมืองเก่าแก่ตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณ ทรงเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักความอุดมสมบูรณ์ ความมั่งคั่ง ความปิติยินดี นอกจากนี้ยังเป็นเทพผู้พิทักษ์ของสตรี มารดา รวมถึงแมวอีกด้วย เทพีบาสเซ็ทมักปรากฏบนภาพเขียนฝาผนังเป็นรูปสตรีที่มีศีรษะเป็นหัวแมวมือข้างหนึ่งถือซีสทรัม เครื่องดนตรีโบราณชนิดหนึ่งของอียิปต์ที่ใช้ในการประกอบพิธี หรืออาจปรากฏในรูปแมวเต็มตัวก็ได้ ความสำคัญของเทพีบาสเซ็ทได้มาถึงจุดสูงสุดเมื่อราว 945 ปีก่อนคริสตกาล เมื่อนครบูบาสติสได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรจัดงานฉลองเพื่อบูชาเทพีบาสเซ็ทในยุคนั้นจัดขึ้นในฤดูใบไม้ผลิ ถือเป็นงานฉลองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดางานบูชาเทพเจ้ามีบันทึกกล่าวไว้ว่า ผู้คนต่างหลั่งไหลจากทั่วอียิปต์นับเจ็ดแสนคน เพื่อมาร่วมงานที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและจัดขึ้นอย่างฟุ่มเฟือย ความเลื่อมใสศรัทธาในเทพีบาสเซ็ทนี้ได้แผ่นกระจายออกไปอย่างกว้างขวางผ่านยุคสมัยกรีก โรมัน ไปยังดินแดนหลายแห่งในยุโรป พิธีนี้เป็นที่นิยมอยู่ราวสองพันปี จนกระทั่งถูกห้าม อย่างเป็นทางการใน ค.ศ. 390 ซึ่งเป็นช่วงที่พิธีได้เสื่อม ความนิยมไปมากแล้ว ปัจจุบันอียิปต์ได้ประกาศให้วันที่ 31 ตุลาคม ของทุกปีเป็นวันเฉลิมฉลองเทพีบาสเซ็ทวิหารของเทพีบาสเซ็ทตั้งอยู่ที่เมืองบูบาสติส ซึ่งปัจจุบันเรียกว่า เทล-บาสตา ก่อสร้างด้วยหินแกรนิตสีแดงตั้งอยู่ภายในหุบเขา ปัจจุบันเหลือเพียงสภาพปรักหักฟังเท่านั้น ในสมัยอียิปต์โบราณนั้นให้ความสำคัญกับแมวมากจนเรียกได้ว่ามีสถานะกึ่งเทพเลยทีเดียว หากใครทำร้ายแมวไม่ว่าจงใจหรือด้วยอุบัติเหตุจะถูกลงโทษถึงตาย และหากบ้านใดมีแมวตาย สมาชิกทุกคนในบ้านจะต้องไว้ทุกข์ด้วยการโกนคิ้วของตัวเองออก นำซากของแมวไปทำมัมมี่แล้วนำไปฝังไว้ในสุสานใกล้วิหารเทพีบาสเซ็ทที่เมืองบูบาสติส การขุดค้นทางโบราณคดีพบว่าที่นี่เป็นสุสานแมวที่ใหญ่ที่สุด มีกองกระดูกแมวทับถมเป็นภูเขาและกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ ปะปนอยู่กับหน้ากากแมวที่ใช้สำหรับตกแต่งมัมมี่เศษผ้าลินิน รวมถึงเทวรูปแมวที่ชำรุดจำนวนมากชาวอียิปต์โบราณนั้นเรียกแมวว่า "มิว" หรือ "เมียว" ซึ่งเลียนมาจากเสียงร้องของแมว ความนิยมในการเลี้ยงแมวอย่างแพร่หลายของชาวอียิปต์น่าจะมาจากความสามารถในการกำจัดหนูและสัตว์รบกวนที่คอยทำลายพืชผลทางการเกษตร แมวช่วยควบคุมปริมาณหนู ช่วยลดการแพร่เชื้อกาฬโรคซึ่งเป็นโรคระบาดสำคัญในยุคนั้น นับเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้อียิปต์ สามารถแผ่ขยายอาณาจักรออกไปได้กว้างใหญ่นับเป็นเวลาหลายพันปีกรอียิปต์ ทำให้เทพีบาสเซ็ทซึ่งเป็นเทพประจำนครมาแต่เดิมมีสถานะกลายเป็นเทพสูงสุดของทั้งอาณาจักรไปด้วย

 

คำสำคัญ (Tags): #แมว
หมายเลขบันทึก: 497565เขียนเมื่อ 7 สิงหาคม 2012 22:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 สิงหาคม 2012 22:26 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท