จาก โรงเรียนผีบ้ากลับมาอีกแล้ว (ใน ซ่อมอนาคต) กระบวนการบ่มเพาะ ต้นกล้าแห่งอนาคต มีรูปแบบชัดเจนขึ้นในเป้าหมายที่อยากจะให้เกิด
กระบวนการคิดทางปัญญา
เด็กออกไปจากวัด สามารถที่จะนำพาตนเองให้รอดพ้นไปจากสิ่งเร้าทั้งภายในตนเองและภายนอกได้
การได้รับการฝึกฝนวิธีการคิด มากกว่าการดำเนินตนเองไปตามยถากรรมแห่ง "สมองส่วนอยาก" นั้น เป็นเรื่องที่น่าท้าทายมากทั้งผู้คอยเกื้อกูลช่วยเหลือ และตัวเด็กๆ เอง
ตอนนี้...
กระบวนการแบ่งออกเป็นสองส่วนที่ต่างเป็นส่วนช่วยเสริมกันและกัน เกื้อกูลกันและกัน
โมเดลด้านขวามือ...เป็นกระบวนการหลักที่พระอาจารย์ท่านนำพาเด็ก ให้รู้จักในเรื่องกุศลกรรม ศีล และการฟื้นฟูกระบวนการและทักษะการคิดแก้ปัญหา
ส่วนทางด้านซ้ายมือ ... เป็นกระบวนการส่วนที่ข้าพเจ้าได้เข้าไปเสริมโดยมีเป้าหมายเพื่อให้เด็กๆ ได้เกิดการสร้างความรู้ในตนเองในเรื่องยาเสพติด และการฝึกฝนทักษะกระบวนการทางปัญญา รวมถึงการกล่อมเกลาพัฒนาทางจิตใจที่นำไปสู่การตื่นรู้และเบิกบาน
ตามโมเดล...ดังกล่าวภาระหนักนั้น จะตกเป็นของพระอาจารย์ที่ต้องดูแลเด็กตลอด ๒๔ ชั่วโมงของการพักอาศัยอยู่ในวัดตลอด ๒ เดือนกว่า เป็นการนำเด็กๆ มาขัดเกลา บ่มเพาะ และฝึกฝนเรื่องชีวิต
กิจกรรมที่เด็กๆ ได้ทำจะมีตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้า ไปจนถึงตอนเย็นเข้านอน
ในขณะเดียวกัน การนำพาโอกาสให้เด็กๆ ได้สร้างบุญกุศลด้วยการอุทิศตนเองทำงานเพื่อบำรุง พัฒนา และสร้างสาธารณูประโยชน์ต่างๆ ให้แก่วัด ทำงานรับใช้อุปฐากกิจของพระภิกษุสงฆ์
ทั้งสิ้นทั้งปวง...
โมเดลดังกล่าว ดำเนินไปภายใต้บรรยากาศแห่งความเมตตาและกรุณา ที่เด็กๆ สามารถสัมผัสได้ด้วยตัวเขาเอง
ความรัก ความเมตตา และความกรุณา จะเป็นพลังเหนี่ยวรั้งนำพาเด็กๆ กลับคืนสู่พลังด้านดีที่มีอยู่ในจิตใจของเขา
ความรู้สึกมีคุณค่า ... และพลังแห่งความรักความเข้าใจ
จะช่วยเติมเต็มสภาพใจของเขาและเก็บเป็นต้นทุนแห่งความทรงจำเพื่อหล่อเลี้ยงจิตใจของเขาในยามที่ไปเผชิญปัญหาต่อไปในวันข้างหน้า และทักษะการฝึกการคิดและกระบวนการทางปัญญาต่างๆ จะทำให้เกิดเป็นทักษะต่อชีวิตที่จะเติบโตและเผชิญในเรื่องราวต่อไปในอนาคต
...
๑๘ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๕
ไม่มีความเห็น