บทที่ 4
การวิจัยเรื่อง ศึกษาพฤติกรรม คุณธรรมและจริยธรรมทางการเมืองของบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาจากวิชาเอกการเมืองการปกครอง สาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตพะเยา ผลการวิเคราะห์ข้อมูล แบ่งออกเป็น 3 ตอน ดังนี้
ตอนที่ 1 สภาพทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม
ตอนที่ 2 พฤติกรรมทางการเมืองของบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษา วิชาเอกการเมืองการปกครอง
ตอนที่ 3 คุณธรรมและจริยธรรมทางการเมืองของบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษา วิชาเอกการเมืองการปกครอง
ตอนที่ 1 สภาพทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม
คณะผู้วิจัยได้ศึกษาสภาพทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถามของบัณฑิตและผู้บังคับบัญชา จำแนกเป็นตารางดังต่อไปนี้
ตารางที่ 4.1 จำนวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถามของบัณฑิต จำแนกตามสถานภาพ
สถานภาพ |
จำนวน (คน) |
ร้อยละ |
บรรพชิต ฆราวาส |
87 12 |
87.9 12.1 |
รวม |
99 |
100 |
N = 99
จากตาราง 4.1 สถานภาพทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นบัณฑิต พบว่า บัณฑิตส่วนใหญ่เป็นบรรพชิต คิดเป็นร้อยละ 87.9
ตารางที่ 4.2 จำนวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถามของบัณฑิต จำแนกตามอายุ
อายุ |
จำนวน (คน) |
ร้อยละ |
ระหว่าง 20-24 ปี ระหว่าง 25-29 ปี ระหว่าง 30-34 ปี ระหว่าง 35-39 ปี ระหว่าง 40-44 ปี ระหว่าง 45-49 ปี ไม่ตอบ |
43 32 12 7 2 2 1 |
43.4 32.3 12.1 7.1 2.0 2.0 1.0 |
รวม |
99 |
100 |
N = 99
จากตาราง 4.2 อายุของผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นบัณฑิต พบว่า บัณฑิตส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 20-24 ปี คิดเป็นร้อยละ 43.4 รองลงมาได้แก่ อายุระหว่าง 25-29 ปี คิดเป็นร้อยละ 32.3
ตารางที่ 4.3 จำนวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถามของบัณฑิต จำแนกตามระดับการศึกษา
สูงสุด
ระดับการศึกษาสูงสุด |
จำนวน (คน) |
ร้อยละ |
ปริญญาตรี ปริญญาโท ไม่ตอบ |
89 5 5 |
89.8 5.1 5.1 |
รวม |
99 |
100 |
N = 99
จากตาราง 4.3 ระดับการศึกษาสูงสุดของผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นบัณฑิต พบว่า บัณฑิตส่วนใหญ่มีการศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ 89.8
ตารางที่ 4.4 จำนวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถามของบัณฑิต จำแนกตามตำแหน่งปัจจุบัน
ตำแหน่งปัจจุบัน |
จำนวน (คน) |
ร้อยละ |
พระลูกวัด ผู้ช่วยเจ้าอาวาส รองเจ้าอาวาส เจ้าอาวาส เลขานุการเจ้าคณะตำบล อื่น ๆ (ครู, ครูใหญ่, ทหาร พนักงานเอกชน ฯลฯ) ไม่ตอบ |
18 3 1 11 12 15 39 |
18.2 3.0 1.0 11.1 12.1 15.2 39.4 |
รวม |
99 |
100 |
N = 99
จากตาราง 4.4 ตำแหน่งปัจจุบันของผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นบัณฑิต พบว่า บัณฑิตส่วนใหญ่อยู่ในตำแหน่งพระลูกวัด คิดเป็นร้อยละ 18.2
ตารางที่ 4.5 จำนวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถามของของผู้บังคับบัญชาของบัณฑิต
จำแนกตามสถานภาพ
สถานภาพ |
จำนวน (คน) |
ร้อยละ |
บรรพชิต ฆราวาส |
89 9 |
90.8 9.2 |
รวม |
99 |
100 |
N = 99
จากตาราง 4.5 สถานภาพทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นผู้บังคับบัญชาของบัณฑิต พบว่า ส่วนใหญ่เป็นบรรพชิต คิดเป็นร้อยละ 90.8
ตารางที่ 4.6 จำนวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถามของผู้บังคับบัญชาของบัณฑิต
จำแนกตามอายุ
อายุ |
จำนวน (คน) |
ร้อยละ |
ระหว่าง 20-24 ปี ระหว่าง 25-29 ปี ระหว่าง 30-34 ปี ระหว่าง 35-39 ปี ระหว่าง 40-44 ปี ระหว่าง 45-49 ปี 50 ปีขึ้นไป |
9 19 5 12 20 7 27 |
9.14 19.2 5.1 12.1 20.2 7.1 27.3 |
รวม |
99 |
100 |
N = 99
จากตาราง 4.6 อายุของผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นผู้บังคับบัญชาของบัณฑิต พบว่า ส่วนใหญ่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 27.3 รองลงมาได้แก่ อายุระหว่าง 40-44 ปี คิดเป็นร้อยละ 20.2
ตารางที่ 4.7 จำนวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถามของผู้บังคับบัญชาของบัณฑิต
จำแนกตามระดับการศึกษาสูงสุด
ระดับการศึกษาสูงสุด |
จำนวน (คน) |
ร้อยละ |
ประถมศึกษา มัธยมศึกษา/ปวช/ปวส อนุปริญญา ปริญญาตรี สูงกว่าปริญญาตรี ไม่ตอบ |
20 17 6 35 18 3 |
20.2 17.2 6.1 35.4 18.2 3.0 |
รวม |
99 |
100 |
จากตาราง 4.7 ระดับการศึกษาสูงสุดของผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นผู้บังคับบัญชาของบัณฑิต พบว่า ส่วนใหญ่มีการศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ 35.4
ตารางที่ 4.8 จำนวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถามของของผู้บังคับบัญชาของบัณฑิต
จำแนกตามตำแหน่งปัจจุบัน
ตำแหน่งปัจจุบัน |
จำนวน (คน) |
ร้อยละ |
รองเจ้าอาวาส เจ้าอาวาส เลขานุการเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะตำบล รองเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะอำเภอ ผู้อำนวยการ/ผู้จัดการ อื่น ๆ (อาจารย์ใหญ่, หัวหน้าพนักงาน ฯลฯ) ไม่ตอบ |
2 38 3 7 1 3 5 8 32 |
2.0 38.4 3.0 7.1 1.0 3.0 5.1 8.1 32.3 |
รวม |
99 |
100 |
N = 99
จากตาราง 4.8 ตำแหน่งปัจจุบันของผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นผู้บังคับบัญชาของบัณฑิต พบว่า ส่วนใหญ่มีตำแหน่งเจ้าอาวาส คิดเป็นร้อยละ 38.4
ตอนที่ 2 พฤติกรรมทางการเมืองของบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษา
วิชาเอกการเมืองการปกครอง
คณะผู้วิจัยได้ศึกษาพฤติกรรมทางการเมืองของบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษา วิชาเอกการเมืองการปกครอง สาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตพะเยา จำแนกตามตารางต่อไปนี้
ตารางที่ 4.9 ลำดับของการเข้าร่วมพฤติกรรมทางการเมืองของบัณฑิตที่เป็นบรรพชิต
ลำดับที่ |
การเข้าร่วมพฤติกรรมทางการเมือง |
1 2 3 4 5 |
การเป็นวิทยากร การอบรมสัมมนา การเทศนาทางการเมือง การมีโอกาสไปใช้สิทธิเลือกตั้งและการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง การให้คำปรึกษาทางการเมือง การเข้าร่วมประชุม การให้ความร่วมมือในการเลือกตั้งแต่ละครั้ง |
จากตารางที่ 4.9 พบว่า การเข้าร่วมพฤติกรรมทางการเมืองของบัณฑิตที่เป็นบรรพชิต ที่สำเร็จการศึกษาจากสาขาวิชาเอกการเมืองการปกครอง มากเป็นอันดับหนึ่ง ได้แก่ การเป็นวิทยากร การอบรมสัมมนา การเทศนาทางการเมือง รองลงมาได้แก่ การมีโอกาสเข้าไปใช้สิทธิเลือกตั้งและรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง และการให้คำปรึกษาทางการเมือง ตามลำดับ
ตารางที่ 4.10 ลำดับของการเข้าร่วมพฤติกรรมทางการเมืองของบัณฑิตที่เป็นฆราวาส
ลำดับที่ |
การเข้าร่วมพฤติกรรมทางการเมือง |
1 2 3 4 |
การไปใช้สิทธิเลือกตั้ง การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง การติดตามข่าวสารบ้านเมือง การเข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรคการเมืองและการให้คำปรึกษา |
จากตารางที่ 4.10 พบว่า การเข้าร่วมพฤติกรรมทางการเมืองของบัณฑิตที่เป็นฆราวาส ที่สำเร็จการศึกษาจากสาขาวิชาเอกการเมืองการปกครอง มากเป็นอันดับหนึ่ง ได้แก่ การไปใช้สิทธิเลือกตั้ง รองลงมาได้แก่ การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง และการติดตามข่าวสารบ้านเมือง ตามลำดับ
ตารางที่ 4.11 ลำดับของการเข้าร่วมพฤติกรรมทางการเมืองของบัณฑิตที่เป็นบรรพชิต จากการ
สอบถามผู้บังคับบัญชา
ลำดับที่ |
การเข้าร่วมพฤติกรรมทางการเมือง |
1 2 3 4 5 |
การเป็นวิทยากร การอบรมสัมมนา การเทศนาทางการเมือง การมีโอกาสไปใช้สิทธิเลือกตั้งและการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง การเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการเลือกตั้ง การเข้าร่วมประชุม การติดตามข่าวสารบ้านเมือง |
จากตารางที่ 4.11 พบว่า การเข้าร่วมพฤติกรรมทางการเมืองของบัณฑิตที่เป็นบรรพชิต ที่สำเร็จการศึกษาจากสาขาวิชาเอกการเมืองการปกครอง จากการสอบถามผู้บังคับบัญชา มากเป็นอันดับหนึ่ง ได้แก่ การเป็นวิทยากร การอบรมสัมมนา การเทศนาทางการเมือง รองลงมาได้แก่ การมีโอกาสเข้าไปใช้สิทธิเลือกตั้งและรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง และการเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการเลือกตั้ง ตามลำดับ
ตารางที่ 4.12 ลำดับของกิจกรรมทางการเมืองของบัณฑิตที่เป็นบรรพชิตเข้าร่วมบ่อยที่สุด
ลำดับที่ |
กิจกรรมทางการเมืองที่เข้าร่วมบ่อยที่สุด |
1 2 3 4 |
การเข้าร่วมประชุม การเป็นวิทยากร การอบรมสัมมนา การให้คำปรึกษา การให้ความร่วมมือในการเลือกตั้งแต่ละครั้ง การติดตามข่าวสารบ้านเมือง |
จากตารางที่ 4.12 พบว่า กิจกรรมทางการเมืองของบัณฑิตที่เป็นบรรพชิต ที่เข้าร่วมบ่อยที่สุด เป็นอันดับหนึ่ง ได้แก่ การเข้าร่วมประชุม รองลงมาได้แก่ การเป็นวิทยากร การอบรมสัมมนา การเทศนาทางการเมือง และการให้ความร่วมมือในการเลือกตั้งแต่ละครั้ง ตามลำดับ
ตารางที่ 4.13 ลำดับของกิจกรรมทางการเมืองของบัณฑิตที่เป็นฆราวาสเข้าร่วมบ่อยที่สุด
ลำดับที่ |
กิจกรรมทางการเมืองที่เข้าร่วมบ่อยที่สุด |
1 2 3 |
การไปใช้สิทธิเลือกตั้ง การติดตามข่าวสารบ้านเมือง การเป็นสมาชิกพรรคการเมือง |
จากตารางที่ 4.13 พบว่า กิจกรรมทางการเมืองของบัณฑิตที่เป็นฆราวาส ที่เข้าร่วมบ่อยที่สุด เป็นอันดับหนึ่ง ได้แก่ การไปใช้สิทธิเลือกตั้ง รองลงมาได้แก่ การติดตามข่าวสารบ้านเมือง
ตารางที่ 4.14 ลำดับของกิจกรรมทางการเมืองของบัณฑิตที่เข้าร่วมบ่อยที่สุด จากการสอบถาม
ผู้บังคับบัญชา
ลำดับที่ |
กิจกรรมทางการเมืองที่เข้าร่วมบ่อยที่สุด |
1 2 3 4 5 |
การเข้าร่วมประชุม การเป็นวิทยากร การอบรมสัมมนา การให้คำปรึกษา การไปใช้สิทธิเลือกตั้งและการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง การให้ความร่วมมือในการเลือกตั้งแต่ละครั้ง การติดตามข่าวสารบ้านเมือง |
จากตารางที่ 4.14 พบว่า กิจกรรมทางการเมืองของบัณฑิตที่เข้าร่วมบ่อยที่สุด เป็นอันดับหนึ่ง ได้แก่ การเข้าร่วมประชุม รองลงมาได้แก่ การเป็นวิทยากร การอบรมสัมมนา การให้คำปรึกษา และการไปใช้สิทธิเลือกตั้งและการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ตามลำดับ
ตารางที่ 4.15 จำนวนและร้อยละของบัณฑิตที่นำความรู้ด้านการเมืองการปกครองไปใช้ใน
กิจกรรมทางการเมือง
ระดับการนำความรู้ด้านการเมืองการปกครองไปใช้ |
จำนวน (คน) |
ร้อยละ |
มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยที่สุด ไม่ตอบ |
9 22 36 14 6 12 |
9.1 22.2 36.4 14.1 6.1 12.1 |
รวม |
99 |
100 |
N = 99
จากตาราง 4.15 การนำความรู้ทางการเมืองการปกครองไปใช้ในกิจกรรมทางการเมืองของบัณฑิต พบว่า บัณฑิตนำความรู้ด้านการเมืองการปกครองไปใช้ในระดับปานกลาง คิดเป็นร้อยละ 36.4 รองลงมาได้แก่ นำไปใช้ในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 22.2
ตารางที่ 4.16 จำนวนและร้อยละของบัณฑิตที่นำความรู้ด้านการเมืองการปกครองไปใช้ใน
กิจกรรมทางการเมือง จากการสอบถามผู้บังคับบัญชา
ระดับการนำความรู้ด้านการเมืองการปกครองไปใช้ |
จำนวน (คน) |
ร้อยละ |
มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยที่สุด ไม่ตอบ |
7 31 37 14 5 5 |
7.1 31.3 37.4 14.1 5.1 5.1 |
รวม |
99 |
100 |
N = 99
จากตาราง 4.16 การนำความรู้ทางการเมืองการปกครองไปใช้ในกิจกรรมทางการเมืองของบัณฑิต จากการสอบถามผู้บังคับบัญชา พบว่า บัณฑิตนำความรู้ด้านการเมืองการปกครองไปใช้ในระดับปานกลาง คิดเป็นร้อยละ 37.4 รองลงมาได้แก่ นำไปใช้ในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 31.3
ตารางที่ 4.17 จำนวน ร้อยละ และเหตุผล พฤติกรรมทางการเมืองของบัณฑิตที่เป็นบรรพชิต
ถ้ามีสิทธิในการเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมือง
กิจกรรมทางการเมือง |
จำนวน (คน) |
ร้อยละ |
ลำดับเหตุผลที่เข้าร่วมกิจกรรม |
ถ้าท่านมีสิทธิในการเลือกตั้ง ท่านคิดว่าจะไปใช้สิทธิ เลือกตั้งหรือไม่ - ไปใช้สิทธิ - ไม่ไปใช้สิทธิ |
81 6 |
93.1 6.9 |
1. เป็นสิทธิและหน้าที่ 2. ต้องการมีส่วนร่วมทางการเมือง 3. แสดงพลังทางการเมือง 4. ต้องการเลือกผู้แทนที่ดีมีความรู้ ความสามารถ 5. เป็นแบบอย่างที่ดีในระบอบ ประชาธิปไตย |
รวม |
87 |
100 |
|
N = 87
จากตาราง 4.17 พฤติกรรมทางการเมืองของบัณฑิตที่เป็นบรรพชิต ถ้ามีสิทธิเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมือง พบว่า ถ้ามีสิทธิในการเลือกตั้ง ท่านจะไปใช้สิทธิเลือกตั้ง คิดเป็นร้อยละ 93.1 เหตุผลที่ไปใช้สิทธิในการเลือกตั้งเป็นอันดับหนึ่ง ได้แก่ เป็นสิทธิและหน้าที่ รองลงมาได้แก่ ต้องการมีส่วนร่วมทางการเมือง และแสดงพลังทางการเมือง ตามลำดับ
ตารางที่ 4.18 จำนวน ร้อยละ และเหตุผล พฤติกรรมทางการเมืองของบัณฑิตที่เป็นบรรพชิต
ถ้ามีสิทธิในการเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมือง
กิจกรรมทางการเมือง |
จำนวน (คน) |
ร้อยละ |
ลำดับเหตุผลที่เข้าร่วมกิจกรรม |
จำนวนครั้งที่ท่านต้องการ ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง - ทุกครั้ง - เป็นบางครั้ง - ไม่ตอบ |
75 1 11 |
86.2 1.2 12.6 |
1. ใช้สิทธิของตน 2. ต้องการเลือกผู้แทนที่เป็นคนดี มีความรู้ความสามารถ 3. ต้องการมีส่วนร่วมทางการเมือง 4. เป็นการแสดงพลังอำนาจอธิปไตย
|
รวม |
87 |
100 |
|
N = 87
จากตาราง 4.18 พฤติกรรมทางการเมืองของบัณฑิตที่เป็นบรรพชิต ถ้ามีสิทธิเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมือง พบว่า จำนวนครั้งที่ต้องการไปใช้สิทธิในการเลือกตั้ง พบว่า ไปใช้สิทธิทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง คิดเป็นร้อยละ 86.2 เหตุผลที่ไปใช้สิทธิในการเลือกตั้งทุกครั้งเป็นอันดับหนึ่ง ได้แก่ ใช้สิทธิของตน รองลงมาได้แก่ ต้องการเลือกผู้แทนที่เป็นคนดี มีความรู้ความสามารถ และต้องการมีส่วนร่วมทางการเมือง ตามลำดับ
ตารางที่ 4.19 จำนวน ร้อยละ และเหตุผล พฤติกรรมทางการเมืองของบัณฑิตที่เป็นบรรพชิต
ถ้ามีสิทธิในการเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมือง
กิจกรรมทางการเมือง |
จำนวน (คน) |
ร้อยละ |
ลำดับเหตุผลที่เข้าร่วมกิจกรรม |
ถ้าท่านมีสิทธิในการเป็น สมาชิกกลุ่มการเมือง ท่านจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกหรือไม่ - เข้าร่วม - ไม่เข้าร่วม - ไม่ตอบ |
64 22 1 |
73.6 25.2 1.2 |
1. ต้องการมีส่วนร่วมในการพัฒนา ประเทศ 2. นำความรู้ที่ได้ศึกษามาไปใช้ให้เกิด ประโยชน์ 3. ได้เสนอความคิดเห็นทางการเมือง 4. เป็นแนวทางแห่งความเป็น ประชาธิปไตย 5. หาประสบการณ์ทางการเมือง |
รวม |
87 |
100 |
|
N = 87
จากตาราง 4.19 พฤติกรรมทางการเมืองของบัณฑิตที่เป็นบรรพชิต ถ้ามีสิทธิเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมือง พบว่า ถ้ามีสิทธิในการเป็นสมาชิกกลุ่มการเมือง จะเข้าร่วมเป็นสมาชิก คิดเป็นร้อยละ 73.6 เหตุผลที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มการเมืองเป็นอันดับหนึ่ง ได้แก่ ต้องการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ รองลงมาได้แก่ นำความรู้ที่ได้ศึกษาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ทางการเมือง และได้เสนอความคิดเห็นทางการเมือง ตามลำดับ
ตารางที่ 4.20 จำนวน ร้อยละ และเหตุผล พฤติกรรมทางการเมืองของบัณฑิตที่เป็นบรรพชิต
ถ้ามีสิทธิในการเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมือง
กิจกรรมทางการเมือง |
จำนวน (คน) |
ร้อยละ |
ลำดับเหตุผลที่เข้าร่วมกิจกรรม |
ถ้าท่านมีสิทธิในการรณรงค์ หาเสียงในการเลือกตั้ง ท่านจะเข้าร่วมการรณรงค์หาเสียง หรือไม่ - เข้าร่วม - ไม่เข้าร่วม - ไม่ตอบ |
76 10 1 |
87.3 11.5 1.2 |
1. เห็นความสำคัญของการเลือกตั้งใน ระบอบประชาธิปไตย 2. ต้องการให้ประชาชนไปใช้สิทธิในการ เลือกตั้ง 3. เป็นแนวทางในการเลือกผู้นำที่เป็นคน ดีมีคุณธรรมและความรู้ความสามารถ 4. ต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วมทาง การเมือง 5. หาประสบการณ์ทางการเมือง |
รวม |
87 |
100 |
|
N = 87
จากตาราง 4.20 พฤติกรรมทางการเมืองของบัณฑิตที่เป็นบรรพชิต ถ้ามีสิทธิเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมือง พบว่า ถ้ามีสิทธิในการรณรงค์หาเสียง จะเข้าร่วมรณรงค์หาเสียง คิดเป็นร้อยละ 87.3 เหตุผลที่เข้าร่วมรณรงค์หาเสียงเป็นอันดับหนึ่ง ได้แก่ เห็นความสำคัญของการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย รองลงมาได้แก่ ต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมือง และเป็นแนวทางในการเลือกผู้นำที่เป็นคนดี มีคุณธรรมและมีความรู้ความสามารถ ตามลำดับ
ตารางที่ 4.21 จำนวน ร้อยละ และเหตุผล พฤติกรรมทางการเมืองของบัณฑิตที่เป็นบรรพชิต
ถ้ามีสิทธิในการเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมือง
กิจกรรมทางการเมือง |
จำนวน (คน) |
ร้อยละ |
ลำดับเหตุผลที่เข้าร่วมกิจกรรม |
ท่านให้คำปรึกษาหรือให้ ความรู้ความเข้าใจด้านการ เมืองที่ถูกต้องแก่บุคคลทั่วไป หรือไม่ - ให้คำปรึกษา - ไม่ให้คำปรึกษา |
79 8 |
90.8 9.2 |
1. ประชาชนเกิดความรู้ความเข้าใจ ระบบการเมืองที่ถูกต้อง 2. ให้ประชาชนเห็นความสำคัญและ ประโยชน์ของการเลือกตั้ง 3. ต้องการพัฒนาประเทศ 4. มีความรู้ด้านการเมือง |
รวม |
87 |
100 |
|
N = 87
 
ไม่มีความเห็น