๐ โรคเอ๋ยโรคภัย ย่อมมีได้ไม่เลือกคนชนทั้งหลาย
เป็นสิ่งที่มีอยู่คู่เคียงกาย แวะทักทายเข้ามาคราอ่อนแอ
จะเป็นทุกข์มากไปก็ใช่ที่ สิ่งเหล่านี้มีอยู่ดูให้แน่
เป็นเพราะสิ่งอันใดให้ดูแล แล้วจงแก้จงรักษาอย่าช้าเอยฯ
พระมหาวินัย ๑๖.๑๓ น. : ๔ เม.ย. ๕๕
๐ คนเอ๋ยคนอื่น แต่กลับยื่นไมตรีมีให้เห็น
มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเมื่อลำเค็ญ แม้ไม่เป็นญาติมิตรสนิทกัน
ถึงเป็นญาติไม่หวังดีขี้อิจฉา คอยนินทาว่าร้ายหมายหยามหยัน
คราลำบากยากแค้นดูแคลนครัน แต่คราฉันมั่งมีนี้ญาติเอยฯ
พระมหาวินัย ๑๗.๓๒ น. ๔ เม.ย.๕๕
๐ ทุกเอ๋ยทุกข์ใจ ปล่อยให้เวลาพาพัดผัน
หากเรายึดจะปราศสุขทุกคืนวัน หากปล่อยมันจะสดใสใจสบาย
แต่ความทุกข์นี้ดีที่เตือนจิต ให้รู้คิดต่อสู้รู้ความหมาย
หาใช่สิ่งทารุณที่วุ่นวาย จงกลับกลายความทุกข์เป็นสุขเอยฯ
พระมหาวินัย ๑๗.๕๐ น. : ๔ เม.ย. ๕๕
กราบนมัสการพระอาจารย์คะ ขอลองบ้างคะ
o สุขเอ๋ยสุขใจ อย่าปล่อยมันผ่านพ้นไปให้นึกถึง
ควรเก็บไว้ในใจได้รำพึง จนติดตรึงซึ้งกายมิพ่ายมัน
อย่ามัวทุกข์คลุกกรุ่นวุ่นวายนัก ควรหยุดพักผ่อนกายหายโศกศัลย์
สุขหรือทุกข์ปลุกใจได้ทุกวัน ต่อสู้มันพลันยิ้มแย้มแต้มใจเอยฯ
พิมลพรรณ
๐ ความเอ๋ยความสุข แต่แอบคลุกความประมาทไม่คาดฝัน
ทำให้คนเตลิดเพลิดเพลินกัน หลงสุขสันต์หลงใหลใจอ่อนแอ
คราความสุขแปรเปลี่ยนกลับเวียนทุกข์ เคยสนุกกลับหงอยเหงาเศร้าใจแท้
ไม่รู้ทันธรรมดาคราผันแปร จึงมีแต่หวั่นไหวใจทุกข์เอยฯ
พระมหาวินัย ๒๑.๓๐ น. : ๔ เม.ย. ๕๕
๐ ความเอ๋ยความทุกข์ เกิดเพียงเพราะห่างสุขเพียงชั่วครู่
ยามอบอวลสิ่งดีที่พร่างพรู ก็ไม่รู้ว่าทุกข์เข็ญเป็นเช่นไร
เมื่อสร่างสุขก็ครองความหมองหม่น มีน้ำตาเจือปนจนร่ำไห้
จึงควรรักษาระดับปรับจิตใจ เผื่อเอาไว้ ให้ใจไม่ทุกข์เอย..
สุพรรณิกา
๐ เตรียมเอ๋ยเตรียมใจ เตรียมเพื่อให้รู้ทันสุขทุกข์ทั้งหลาย
จะเป็นสุขหรือทุกข์ที่เยี่ยมกราย มองเห็นคล้ายข้อสอบตอบให้ดี
ถ้าตอบผิดติดใจในความสุข จงเตรียมรับกับทุกข์สุขอาจหนี
ใช้สติพินิจคิดถ้วนถี่ สุขทุกข์นี้มีอยู่รู้รับเอยฯ
พระมหาวินัย
o ความเอ๋ยความทุกข์ จักมีสุขทุกวันพลันไม่ไหว
เปลี่ยนกันบ้างระหว่างทางของใจ ให้มีสุขทุกวันไปไม่มีจริง
หากมาหลงจมอยู่ในภวังค์รัก ยิ่งประจักษ์ในความสุขทุกข์สุงสิง
มันหลากหลายพ่ายแพ้แย่เสียจริง แต่ทุกสิ่งพักพิงได้ด้วยใจเอยฯ
พิมลพรรณ
ปุพฺเพว สนฺนิวาสน ปจฺจุปนฺนหิเตน วา ฯเปฯ
๐ ใกล้เอ๋ยใกล้ชิด ผูกสมัครดวงจิตคิดห่วงหา
คอยหยิบยื่นน้ำใจในทุกครา พระสัมมาฯตรัสไว้ในคัมภีร์
อีกอย่างหนึ่งซึ่งปางบรรพ์นั้นเคียงคู่ เคยได้อยู่ร่วมกันฉันน้องพี่
จึงใกล้ชิดสนิทกันในทันที ที่กล่าวนี้เหตุแห่งรักมักเห็นเอยฯ
พระมหาวินัย ๑๘.๑๖ น. :๔ เม.ย. ๕๕
๐ ตำเอ๋ยตำแหน่ง ไยยื้อแย่งแข่งขันเสาะสรรหา
เมื่อไม่มีก็อ่อนน้อมถ่อมวาจา เลียแข้งขาเจ้านายหมายจะเป็น
ถึงผลงานจะต่ำย่ำกับที่ กลับได้ดีมียศปรากฏเห็น
พวกคนเก่งจริงแท้แต่กระเด็น เพราะเด็กเส้นมาแรงแย่งชิงเอยฯ
พระมหาวินัย ๑๘.๕๖ น. : ๔ เม.ย. ๕๕
๐ เด็กเอ๋ยเด็กเส้น มีให้เห็นทั่วไปในตำแหน่ง
เห็นทางโค้งทางเบี่ยง เลี่ยงเบียดแซง ใช้อุบายยื้อแย่งแข่งด้วยกล
มีความรู้คู่ธรรมความสามารถ แต่มิอาจแข่งได้ไม่เป็นผล
ใช้อำนาจ เงินอ้าง ใช้ร่างตน ค่าของคน คือเด็กใคร ใช่ไหมเอย
สุพรรณิกา
๐ เด็กเอ๋ยเด็กเส้น ล้วนเป็นค่านิยมสังคมสยาม
คราที่คุณธรรมนั้นต่ำทราม ฤาจะห้ามธรรมเนียมเล่ห์เหลี่ยมคน
เพราะเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แปรเปลี่ยนจิต จะถูกผิดอย่างไรหาได้สน
เมื่อไม่ได้ด้วยเล่ห์ทุ่มเทกล หลอกล่อจนยินยอมพร้อมพลีเอยฯ
พระมหาวินัย
"อจฺจยนฺติ อโหรตฺตา ชีวิตํ อุปรุชฺฌติ อายุ ขียติ มจฺจานํ กุนฺนทีนโวทกํ"
วันคืนย่อมล่วงไป,ชีวิตย่อมหมดเข้าไป,ชีวิตของสัตว์ทั้งหลายย่อมสิ้นไป,
เหมือนน้ำในลำธารย่อมแห้งเหือดไปฉะนั้น.
๐ สักวาคืนวันย่อมผันผ่าน อายุกาลสรรพสัตว์พลัดพรายหนี
เปรียบอุทกตกขังยังนที เพียงสุรีย์สาดแสงย่อมแห้งไป
พุทธพจน์บทนี้ชี้ให้เห็น ธรรมดาว่าเป็นเช่นขานไข
รู้อย่างนี้อย่ามัวเมาว่าเยาวัย สิ่งใดใดไม่เที่ยงแท้แน่นอนเอยฯ
พระมหาวินัย ๒๐.๒๐ น. : ๔ เม.ย. ๕๕
ไม่มีความเห็น