ข้อตกลงร่วมกันอันมาจากหัวใจดวงน้อยๆ...


กติกาอันเป็นข้อตกลงร่วมกันนี้...ทุกวันนี้ข้าพเจ้าก็ยังคงใช้ เพราะถือว่าเป็นความศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดขึ้นมาจากการใช้ปัญญาของเด็กๆ นั่นเอง

 

งานสร้าง...

 

ธรรมชาติของเด็กๆ คือ การได้เล่น ยิ่งหากว่าได้เล่นรวมกันเป็นกลุ่มนั้น ยิ่งสนุกและมีความสุข ... เด็กๆ ที่มาเรียนหนังสือกับข้าพเจ้าเองก็เช่นกัน เมื่อหลากหลายชั้นปี และได้มารวมตัวกัน ซึ่งจะมีทั้งสองหมู่บ้าน (วัดตั้งอยู่ระหว่าง ๒ หมู่บ้าน) ก็ยิ่งเป็นที่สนุนสนานมาก

 

แต่ด้วยความที่ว่า เราใช้สถานที่ในวัดเป็นสถานที่แห่งการบ่มเพาะเด็กๆ...

ดังนั้น การได้นำพาเด็กฝึกในเรื่องการสำรวมกาย วาจา ใจ จึงเป็นเรื่องที่น่าท้าทายสำหรับข้าพเจ้าอย่างมากว่าจะนำพาในการฝึกเด็กๆ ได้อย่างไร ... โดยที่ไม่ขัดธรรมชาติของเด็กๆ ที่ต้องอาศับการเคลื่อนไหวร่างกาย

 

การที่ข้าพเจ้าได้รับการสนับสนุนไม่ว่าจะเป็นสื่อ อุปกรณ์ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ตลอดจนหนังสือนิทานต่างๆ ถือว่าเป็นเป็นความกรุณาจากกัลยาณมิตรที่คอยเกื้อหนุนให้ข้าพเจ้าจัดกิจกรรมได้ง่ายขึ้น

 

การมีสื่ออุปกรณ์เหล่านี้... ช่วยให้เด็กมีจิตจดจ่อมากขึ้น การได้เล่นก็จะเป็นแบบสำรวมและรวมกลุ่มกันได้ ไม่ว่าจะเป็นเกมคอสเวิร์ด.... โดมิโน หรือหนังสืออ่านต่างๆ จะช่วยเร้าให้เด็กมีความสนใจที่ชี้เฉพาะมากขึ้น ... มีสมาธิมากขึ้น

 

ดังนั้นจากเสียงที่วุ่นวายก็คลายลงได้บ้างในเวลาที่เด็กๆ มารอข้าพเจ้าอยู่ที่ศาลาสี่ จากเดิมที่มักจะวิ่งไล่กันส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว...

มีวันหนึ่ง ...

ก่อนเข้าสู่กระบวนการแห่งการฝึกสำรวมกาย วาจา ใจนั้น กระแสคลื่นแห่งจิตของเด็กๆ ดูปั่นป่วนมาก จะมีเด็กซนหลายคนที่เข้ามาแทรก ทำให้การดูแลทำได้ลำบากและยาก ข้าพเจ้าใช้วิธีพาเด็กนั่งสมาธิและสวดมนต์ สลับกับการเรียน...

 

เวลาผ่านไป จนถึงเที่ยง ... ความวุ่นวายแม้ดูเหมือนเบาบางลงบ้างแต่ก็ยังต้องพาฝึก ข้าพเจ้าเลยปล่อยไม้เด็ดออกไปว่า จะเลิกสอนดีกว่าเพราะเสียงดังรบกวนมาก เด็กๆ ก็หน้าจ๋อยลง และพากันร้องขอว่า "แม่ครูสอนต่อเถอะค่ะ/ครับ"...

 

แหม...จะให้รับปากจอมซนทั้งหลายแบบง่ายๆ ได้อย่างไรกัน

ข้าพเจ้าจึงได้ออกอุบาย...เพื่อที่จะให้เขาเป็นผู้มีส่วนร่วมรับผิดชอบในสถานที่ที่เรียนแห่งนี้

 

อ้น เด็ก ป....จึงเสนอว่า เรามาตั้งกติกากัน ลงล็อคข้าพเจ้าทันทีเลย ข้าพเจ้าได้เรียกเด็กๆ มานั่งล้อมวงกัน และเปิดโอกาสว่าให้ประชุมกัน ตกลงกัน ว่าเราจะเรียนอย่างไรให้มีความสุขและเสียงก็ไม่ดังรบกวน ... ไม่น่าเชื่อในปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในลำดับต่อมา

เด็กๆ...มีการยกมือเสนอความคิดเห็น มีอ้นและกิ่งออกไปช่วยกันเขียนกระดาน

เป็นภาพที่น่าทึ่งที่เด็กมีตั้งแต่ ป.๑ ไปจนถึง ป.๖ ต่างเสนอความคิดกัน ตกลงกัน ซึ่งการประชุมเป็นสิ่งที่เด็กจัดขึ้นเอง ข้าพเจ้าเป็นเพียงผู้เอื้ออำนวยให้เขาดำเนินกระบวนการไปได้ต่อเนื่อง

 

ข้าพเจ้าไม่เข้าไปแทรกแซงใดใดทั้งสิ้น ปล่อยให้เขาคิด และเสนอกันเอง

ทำให้เราได้กติกามาถึง ๗-๘ ข้อ...

ทุกๆ วันนอกจากการท่องศีล ๕ และทบทวนตนเองในเรื่องศีล ๕ แล้วเด็กๆ ก็ต้องมีการทบทวนกติกาอันเป็นข้อตกลงร่วมกันอยู่เสมอๆ

แต่ในการปฏิบัติไม่เพียงแค่อาศัยกติกาเท่านั้น ก่อนเรียนข้าพเจ้าก็จะพาเด็กๆ สวดมนต์ไหว้พระ และนั่งสมาธิ ...สำรวมจิตใจกันก่อน จากนั้นก็ค่อยหารือกันว่าวันนี้จะเรียนอะไรดี

 

และหากว่าวันไหนภาพรวมของการกระทำดำเนินไปด้วยความสำรวมและสงบ ข้าพเจ้าก็จะพาเด็กๆ ไปกราบพระในวิหารและนั่งสมาธิที่นั่น ซึ่งดูเหมือนว่าเด็กๆ จะชอบกันมาก เพราะในวิหารนั้นมีภาพเขียนฝาผนังเต็มไปหมด... และการที่เขาได้เข้ามานั่งสมาธิร่วมกันที่นี่ ก็สืบเนื่องจากที่ว่า ...เป็นผลลัพธ์แห่งความดีที่เขาพากันตั้งใจสำรวมกาย วาจา ใจ

 

ซึ่งการสำรวมกาย วาจา ใจนี้...ไม่ได้หมายถึงการห้ามไม่เขาเล่น

หากแต่เป็นการเล่นที่เต็มไปด้วยสติและปัญญา ไม่ใช่เล่นด้วยความรุนแรงก้าวร้าว

 

กติกาอันเป็นข้อตกลงร่วมกันนี้...ทุกวันนี้ข้าพเจ้าก็ยังคงใช้

เพราะถือว่าเป็นความศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดขึ้นมาจากการใช้ปัญญาของเด็กๆ นั่นเอง

...

๓๐ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๕


หมายเลขบันทึก: 493059เขียนเมื่อ 1 กรกฎาคม 2012 20:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 ตุลาคม 2013 06:51 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท