“โลกได้เปลี่ยนไปแล้ว เพราะทุกอย่างถูกเชื่อมโยงเข้าไว้ด้วยกันกันในเวลาอันรวดเร็ว เราจึงจำเป็นต้องมีกฎหมายเข้ามารองรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันในวันนี้”
ในการประกอบการทำการค้าระหว่างประเทศ ประกอบไปด้วยปัจจัยหลายประการที่ต้องคำนึงถึง และต้องอาศัยกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องในแทบทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็น การเลือกใช้กฎหมายในการเข้าทำสัญญา การเลือกวิธีการชำระราคา การส่งมอบ การขนส่ง และการประกันภัย เป็นต้น
เศรษฐกิจของประเทศจะเติบโตก้าวหน้าไปด้วยดี ด้วยเหตุที่มีการวางรากฐานของกฎหมายที่สอดคล้องและเป็นธรรมกับความเปลี่ยนแปลงของโลก
พระราชบัญญัติขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ พ.ศ. 2548
เป็นอีกหน้าหนึ่งของการพัฒนาในวงการกฎหมายไทย ที่ตระหนักและรู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงในการดำเนินนโยบายที่เอื้อต่อการทำการค้าระหว่างประเทศ กับทั้งเพื่อให้สอดคล้องกับ “กรอบความตกลงอาเซียนว่าด้วยการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ (ASEAN Framework Agreement on Multimodal Transport)” อีกทางหนึ่งด้วย
เพื่อความเปลี่ยนแปลงที่ดีในอนาคตอันใกล้ ให้ประเทศไทยเป็นเวทีหนึ่งที่น่าสนใจในการเข้ามาลงทุน นำมาซึ่งสร้างงาน และนำมาซึ่งรายได้ และเพื่อให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่ยั่งยืนและเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นต่อไป
[ข้อมูลโดยสังเขป]
ชื่อกฎหมาย พระราชบัญญัติขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ พ.ศ. 2548
หลักการและเหตุผล
โดยที่รูปแบบของการให้บริการขนส่งระหว่างประเทศได้พัฒนาไปจากเดิมที่มีลักษณะเป็นการให้บริการขนส่งสินค้าจากท่าเรือถึงท่าเรือ หรือจากท่าอากาศยานถึงท่าอากาศยานจนสามารถขยายบริการเป็นลักษณะจากจุดรับมอบสินค้าที่ต้นทางจนถึงจุดส่งมอบสินค้าที่ปลายทางมีรูปแบบหรือยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่งมากกว่าหนึ่งรูปแบบหรือหนึ่งประเภท ภายใต้สัญญาขนส่งเพียงฉบับเดียว ฉะนั้น จึงต้องกำหนดหลักเกณฑ์ในการอนุญาตและหลักเกณฑ์ในการประกอบกิจการเพื่อรองรับการบริการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบดังกล่าว และเพื่อให้สามารถอำนวยความสะดวกแก่การดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศที่มีการแข่งขันสูงมากยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต
จำนวนมาตรา 80 มาตรา (4 หมวด)
วันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับ ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
หน่วยงานที่รับผิดชอบ กระทรวงคมนาคม
ที่มาตัวบท : ราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา เล่ม 122 ตอนที่ 61ก วันที่ 27 กรกฎาคม 2548 [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2548/00167847.PDF]