กรอกทราย เสริมทาง
เช้าวันที่ 26 กันยายน 2554 กับการเดินทางมาทำงานของข้าพเจ้า พอเดินทางมาถึงรพ.ท่าเรือ ก็พบกับภาพเจ้าหน้าที่หลายคนช่วยกันกรอกทรายหน้าโรงพยาบาล บรรยากาศคึกคักมาก ข้าพเจ้าจึงรีบขับ
รถมอเตอร์ไซด์คู่ชีพไปจอดรถ แล้วนำสัมภาระไปเก็บไว้ที่ฝ่ายบริหารฯ พร้อมเตรียมผ้าขนหนูไว้เช็ดหน้าเวลาเหงื่อออก แล้วรีบวิ่งไปบริเวณหน้าโรงพยาบาล ช่วยกันกรอกกระสอบทราย มีเจ้าหน้าที่ที่ช่วยกันประมาณ 20 คน โดยมีผอก.เดินไป เดินมา(คุมงาน) ท่านให้กำลังใจในการทำงานมาก ซึ่งก็เป็นขวัญกำลังใจสำหรับเจ้าหน้าที่ทุกคน
ตลอดอาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์กิจกรรมช่วงบ่ายของข้าพเจ้าก็คือ การร่วมกิจกรรมช่วยกันกรอกกระสอบทราย ชนิดเหงื่อไหลไคลย้อย จนรักแร้เป็นแผลที่เกิดจากการเสียดสีรู้สึกว่าตัวเองทรหดอดทนมาก เป็นกำลังใจให้กับตัวเอง สู้..สู้...นะคะ.. มีวันหนึ่งข้าพเจ้าได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลหลายคนช่วยกันกรอกกระสอบทรายท่ามกลาง สายฝน บริเวณข้างบ้านผอก.เก่า มีมอเตอร์ไซค์รับจ้างคนหนึ่งผ่านมาชื่อพี่ภามาพบการกรอกกระสอบทรายก็ใช้ มือถือถ่ายรูปขณะกรอกกระสอบทรายให้ แล้วพูดว่า "ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกหน่อยนะน้องหมอน" ผ่านมาไม่กี่วันพี่ภา มอเตอร์ไซด์รับจ้างผู้ใจดีก็ล้างรูปมาให้ก็เป็นภาพที่ประทับใจมาก ในวิกฤตก็มีโอกาสเสมอ ถ้าน้ำไม่ท่วมเราเจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลก็คงไม่มีโอกาสมาทำกิจกรรมร่วมกันแบบนี้ เหนื่อยมาก แต่ก็ประทับใจ....
ที่ข้าพเจ้าประทับใจที่ได้มีส่วนร่วมในการทำงานที่ทรหดนี้ เพื่อการช่วยเหลือคนไข้ ผู้รับบริการ ได้เข้ามารับบริการได้สะดวกขึ้น มันเป็นช่องทางเดียว เป็นประตูด้านข้าง ที่เปิดไว้เพราะระดับน้ำที่ถนนยังสามารถเดินลุยน้ำเข้ามาในโรงพยาบาลได้ เนื่องจากระดับน้ำหน้าโรงพยาบาลสูงแล้ว เป็นท่าเรือ มีเรือจอดอยู่ เรือพาย เรือเครื่อง เพราะปีที่แล้ว โรงพยาบาลก็เปิดช่องทางนี้ให้เดินทางได้สะดวก ปีนี้ก็เช่นกัน แต่จำเป็นต้องใช้กระสอบทรายหนุนให้สูงขึ้น แล้วใช้ไม้กระดานแผ่นใหญ่ปูรอง เพื่อเวลารถเข็นคนไข้จะได้เข็นได้ง่ายขึ้น เพราะระดับน้ำที่สูงและยังได้ก่ออิฐบล็อกเพิ่มไว้อีกด้วย ข้าพเจ้าเข้าใจและเห็นใจคนไข้ในเรื่องการเดินทาง นี่ก็เพราะการเดินทางของข้าพเจ้าเองก็ลำบาก กว่าจะออกมาจากบ้านได้ก็ต้องปีนคันดินสูงที่ อบต.จำปาทำไว้เพื่อป้องกันน้ำท่วม ต้องใช้เวลาประมาณ 10 นาที เพื่อไปนั่งรถยนต์ส่วนตัวไปพร้อมกับสามีแล้วต่างคนก็ขึ้นรถรับ-ส่งของตัวเอง ข้าพเจ้าก็นั่งรถรับ-ส่งที่ทางโรงพยาบาลจัดให้ ต้นทางที่อบต.ท่าหลวง มีเพื่อนร่วมทางหลายคน ขามาโรงพยาบาลรถออกเวลา 7.30 น. วิ่งผ่านเส้นทางน้ำท่วมตลอด สุดโหดที่สุดก็คือบริเวณหน้าวัดหัวหิน ใช้เวลาประมาณเกือบชั่วโมงจึงผ่านจุดนี้ได้ สรุปแล้วใช้เวลาในการเดินทางมาทำงาน ตอนเช้าประมาณ 1.5 ชั่วโมง จากเดิมสถานการณ์ปกติจากที่บ้านมาโรงพยาบาลใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งก็จะเป็นประสบการณ์ชีวิตต่อยอดเป็นภูมิคุ้มกันในปีต่อไป และทำให้ข้าพเจ้ามีแรงที่จะช่วยคนไข้ต่อไปอีกเช่นกัน
ไม่มีความเห็น