ย้ำเตือน 2 กลุ่มเสี่ยงโรคอาหารเป็นพิษ เที่ยว ฉลองอย่างปลอดภัยต้องใส่ใจอาหารสุก ร้อน สะอาด


โรคอุจาระร่วงและอาหารเป็นพิษ

เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2555 เภสัชกรเชิดเกียรติ แกล้วกสิกิจ หัวหน้ากลุ่มสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 พิษณุโลก กรมควบคุมโรค  เผยว่า จากข้อมูลระบบเฝ้าระวังโรค ของสำนักระบาดวิทยา พบว่าในปี 2554 มีผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษทั่วประเทศมากถึงจำนวน 100,534 ราย เฉพาะช่วงตั้งแต่วันที่ 1 - 19 มี.ค.55 ที่ผ่านมามีรายงานผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษแล้วถึง 24,340 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิต 1 ราย  กลุ่มอายุที่พบการป่วยมากลำดับแรก คือ 15 – 24 ปี อาชีพส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรและนักเรียน

สำหรับในช่วงฤดูร้อนระหว่างเดือน มีนาคม – พฤษภาคม 2555 เป็นช่วงที่อากาศในประเทศไทยมีอุณหภูมิที่ร้อนมาก นอกจากนี้ยังเป็นช่วงเทศกาลที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ประชาชนส่วนใหญ่มักจะเดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ หรือกลับภูมิลำเนาของตนเอง และมีงานเลี้ยงฉลอง มีการรับประทานอาหารรวมกลุ่มกันเป็นจำนวนมาก สิ่งที่พบบ่อยๆ ตามมา คือ การเจ็บป่วยด้วยโรคอาหารเป็นพิษจากการรับประทานอาหารที่มีเชื้อโรค อาหารไม่สะอาด อาหารปรุงสุกๆ ดิบๆ อาหารที่เตรียมไว้ล่วงหน้าจำนวนมาก

โรคอาหารเป็นพิษ เป็นโรคที่พบได้บ่อย เกิดจากการรับประทานอาหาร ที่ปนเปื้อนเชื้อโรคเข้าไป ซึ่งมักพบในอาหารที่ปรุงสุกๆ ดิบๆ จากเนื้อสัตว์ที่ปนเปื้อนเชื้อ เช่น เนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อวัว และไข่เป็ด ไข่ไก่ รวมทั้งอาหารกระป๋อง อาหารทะเล และน้ำนมที่ยังไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้อ นอกจากนี้ อาจพบในอาหารที่ทำไว้ล่วงหน้านาน ๆ แล้วไม่ได้แช่เย็นไว้ ถ้าไม่ได้อุ่นให้ร้อนพอก่อนรับประทาน ก็จะทำให้เป็นโรคนี้ได้   

            ดังนั้นขอกระตุ้นเตือนให้ผู้ประกอบอาหาร ผู้เดินทางท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไป ตามสถานที่ๆ เป็นแหล่งรวมของผู้คนเดินทางกลับบ้าน หรือเดินทางท่องเที่ยว เช่น  สถานีขนส่ง  ปั๊มน้ำมัน  ร้านอาหารในแหล่งท่องเที่ยว ฯลฯ ได้ตระหนักในการเตรียมอาหาร และเลือกรับประทานให้ปลอดภัย โดยมีคำแนะนำที่สำคัญสำหรับกลุ่มเสี่ยงดังนี้

1) ผู้ประกอบอาหาร ที่จำหน่ายตามสถานที่ท่องเที่ยว  ปั๊มน้ำมัน สถานีขนส่ง หรือผู้ประกอบอาหารในงานเทศกาล งานฉลอง งานบุญ ฯลฯ ควรรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลที่ดี แต่งกายและล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังประกอบอาหารทุกครั้ง ไม่ปรุงอาหารทิ้งไว้เป็นเวลานานก่อนนำไปบริการให้ผู้บริโภค อาหารประเภทยำ ลาบ ต้องปรุงให้สุกและไม่ควรประกอบอาหารที่มีกะทิเป็นส่วนผสม เนื่องจากอากาศร้อนจะทำให้อาหารบูด เสียได้ง่าย

2) ผู้เดินทางท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไป  เมื่อแวะรับประทานอาหารระหว่างการเดินทาง ให้เลือกร้านที่แน่ใจว่าสะอาด หรือหรือมีเครื่องหมายรับรองความปลอดภัย เลือกรับประทานน้ำดื่มหรือน้ำแข็งที่มีเครื่องหมายรับรองคุณภาพจากสำนักงานอาหารและยา (อย.) ล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ก่อนรับประทานอาหาร หรือหลังจากเข้าห้องน้ำทุกครั้ง             

เภสัชกรเชิดเกียรติ กล่าวย้ำเตือนว่า ขอให้ประชาชนทุกคนระมัดระวังตนเอง ลูกหลาน และครอบครัว ช่วงหน้าร้อนนี้ ในผู้ที่มีอาการถ่ายเหลวเป็นเนื้อปนน้ำไม่จำเป็นรักษาด้วยยาฆ่าเชื้อทันที แต่หากมีอาการถ่ายเหลวตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไป หรือมีถ่ายเป็นน้ำ 1 ครั้งขึ้นไปใน 1 วัน ให้ดื่มสารละลายเกลือแร่ โอ อาร์ เอส จะช่วยป้องกันและรักษาภาวะขาดน้ำ  แต่หากถ่ายอุจจาระเป็นมูกเลือด ต้องรีบไปตรวจรักษาที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้เคียงทันที  และขอให้ “ เที่ยว ฉลองอย่างปลอดภัย ใส่ใจอาหาร สุก ร้อน สะอาด ท่านจะปลอดภัยจากโรคอุจาระร่วงและอาหารเป็นพิษ

เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2555 เภสัชกรเชิดเกียรติ แกล้วกสิกิจ หัวหน้ากลุ่มสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 พิษณุโลก กรมควบคุมโรค  เผยว่า จากข้อมูลระบบเฝ้าระวังโรค ของสำนักระบาดวิทยา พบว่าในปี 2554 มีผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษทั่วประเทศมากถึงจำนวน 100,534 ราย เฉพาะช่วงตั้งแต่วันที่ 1 - 19 มี.ค.55 ที่ผ่านมามีรายงานผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษแล้วถึง 24,340 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิต 1 ราย  กลุ่มอายุที่พบการป่วยมากลำดับแรก คือ 15 – 24 ปี อาชีพส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรและนักเรียน

สำหรับในช่วงฤดูร้อนระหว่างเดือน มีนาคม – พฤษภาคม 2555 เป็นช่วงที่อากาศในประเทศไทยมีอุณหภูมิที่ร้อนมาก นอกจากนี้ยังเป็นช่วงเทศกาลที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ประชาชนส่วนใหญ่มักจะเดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ หรือกลับภูมิลำเนาของตนเอง และมีงานเลี้ยงฉลอง มีการรับประทานอาหารรวมกลุ่มกันเป็นจำนวนมาก สิ่งที่พบบ่อยๆ ตามมา คือ การเจ็บป่วยด้วยโรคอาหารเป็นพิษจากการรับประทานอาหารที่มีเชื้อโรค อาหารไม่สะอาด อาหารปรุงสุกๆ ดิบๆ อาหารที่เตรียมไว้ล่วงหน้าจำนวนมาก

โรคอาหารเป็นพิษ เป็นโรคที่พบได้บ่อย เกิดจากการรับประทานอาหาร ที่ปนเปื้อนเชื้อโรคเข้าไป ซึ่งมักพบในอาหารที่ปรุงสุกๆ ดิบๆ จากเนื้อสัตว์ที่ปนเปื้อนเชื้อ เช่น เนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อวัว และไข่เป็ด ไข่ไก่ รวมทั้งอาหารกระป๋อง อาหารทะเล และน้ำนมที่ยังไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้อ นอกจากนี้ อาจพบในอาหารที่ทำไว้ล่วงหน้านาน ๆ แล้วไม่ได้แช่เย็นไว้ ถ้าไม่ได้อุ่นให้ร้อนพอก่อนรับประทาน ก็จะทำให้เป็นโรคนี้ได้   

            ดังนั้นขอกระตุ้นเตือนให้ผู้ประกอบอาหาร ผู้เดินทางท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไป ตามสถานที่ๆ เป็นแหล่งรวมของผู้คนเดินทางกลับบ้าน หรือเดินทางท่องเที่ยว เช่น  สถานีขนส่ง  ปั๊มน้ำมัน  ร้านอาหารในแหล่งท่องเที่ยว ฯลฯ ได้ตระหนักในการเตรียมอาหาร และเลือกรับประทานให้ปลอดภัย โดยมีคำแนะนำที่สำคัญสำหรับกลุ่มเสี่ยงดังนี้

1) ผู้ประกอบอาหาร ที่จำหน่ายตามสถานที่ท่องเที่ยว  ปั๊มน้ำมัน สถานีขนส่ง หรือผู้ประกอบอาหารในงานเทศกาล งานฉลอง งานบุญ ฯลฯ ควรรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลที่ดี แต่งกายและล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังประกอบอาหารทุกครั้ง ไม่ปรุงอาหารทิ้งไว้เป็นเวลานานก่อนนำไปบริการให้ผู้บริโภค อาหารประเภทยำ ลาบ ต้องปรุงให้สุกและไม่ควรประกอบอาหารที่มีกะทิเป็นส่วนผสม เนื่องจากอากาศร้อนจะทำให้อาหารบูด เสียได้ง่าย

2) ผู้เดินทางท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไป  เมื่อแวะรับประทานอาหารระหว่างการเดินทาง ให้เลือกร้านที่แน่ใจว่าสะอาด หรือหรือมีเครื่องหมายรับรองความปลอดภัย เลือกรับประทานน้ำดื่มหรือน้ำแข็งที่มีเครื่องหมายรับรองคุณภาพจากสำนักงานอาหารและยา (อย.) ล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ก่อนรับประทานอาหาร หรือหลังจากเข้าห้องน้ำทุกครั้ง             

เภสัชกรเชิดเกียรติ กล่าวย้ำเตือนว่า ขอให้ประชาชนทุกคนระมัดระวังตนเอง ลูกหลาน และครอบครัว ช่วงหน้าร้อนนี้ ในผู้ที่มีอาการถ่ายเหลวเป็นเนื้อปนน้ำไม่จำเป็นรักษาด้วยยาฆ่าเชื้อทันที แต่หากมีอาการถ่ายเหลวตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไป หรือมีถ่ายเป็นน้ำ 1 ครั้งขึ้นไปใน 1 วัน ให้ดื่มสารละลายเกลือแร่ โอ อาร์ เอส จะช่วยป้องกันและรักษาภาวะขาดน้ำ  แต่หากถ่ายอุจจาระเป็นมูกเลือด ต้องรีบไปตรวจรักษาที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้เคียงทันที  และขอให้ “ เที่ยว ฉลองอย่างปลอดภัย ใส่ใจอาหาร สุก ร้อน สะอาด ท่านจะปลอดภัยจากโรคอุจาระร่วงและอาหารเป็นพิษ

ข้อความหลัก " เที่ยว ฉลองอย่างปลอดภัย ใส่ใจอาหาร สุก ร้อน สะอาด ป้องกันโรคอุจาระร่วงและอาหารเป็นพิษ”

กรมควบคุมโรค  ห่วงใย  อยากเห็นคนไทยมีสุขภาพดี

ที่มา http://dpc9.ddc.moph.go.th/crd/news/2555/04_05_food.html

 

หมายเลขบันทึก: 484462เขียนเมื่อ 6 เมษายน 2012 17:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 มิถุนายน 2012 20:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท