ภาวะบกพร่องทางสติปัญญาส่งผลต่อการพัฒนาทั้งทางด้าน
• physical development
• cognitive development
• emotional development
• social development
• spiritual development
ทำให้ผู้ที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาดำเนินชีวิตได้อย่างยากลำบาก แต่หลายคนคงสงสัยว่าภาวะบกพร่องทางสติปัญญาคืออะไร เราไปทำความรู้จักกันเลยคะ
ความหมาย
บุคคลที่มีภาวะบกพร่องทางสติปัญญาต้องมีภาวะดังต่อไปนี้
1.ระดับเชาวน์ปัญญาต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ย
2.พฤติกรรมการปรับตนบกพร่องตั้งแต่ 2 ด้านขึ้นไป จากทั้งหมด 10 ด้าน ดังนี้
• Communication
• Self-care
• Home living
• Social and Interpersonal Skills
• Use of Community Resources
• Self- direction
• Functional Academic Skills
• Leisure
• Work
• Health and Safety
3.อาการแสดงก่อนอายุ 18 ปี
สาเหตุของภาวะบกพร่องทางสติปัญญา
1. ปัจจัยทางพันธุกรรม: กลุ่มอาการดาวน์
2. ความผิดปกติในระหว่างการพัฒนาของทารกในครรภ์
3. ปัญหาต่างๆในระยะตั้งครรภ์และคลอด
4. ปัญหาต่างๆในระยะหลังคลอด
5. ปัจจัยต่างๆจากสิ่งแวดล้อมและความผิดปกติทางจิต
ประเภทของภาวะบกพร่องทางสติปัญญา
แบ่งตามระดับความรุนแรง 4 ระดับ
ระดับความรุนแรงน้อย ระดับ IQ 55-69
ระดับความรุนแรงปานกลาง ระดับ IQ 40-54
ระดับความรุนแรงมาก ระดับ IQ 25-39
ระดับความรุนแรงมากที่สุด ระดับ IQ <25
อาการแทรกซ้อน
• ความพิการซ้ำซ้อน: ความพิการร่างกาย แขนขา ตาบอด หูหนวก เป็นใบ้
• ปัญหาพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม (Challenging behavior)
• พฤติกรรมแบบออทิสติก(Autistic-like behavior)
• โรคลมชัก
Occupational Performance Profile (OPP)
ในทางกิจกรรมบำบัดจะแบ่งขอบเขตของการทำกิจกรรม ออกเป็น 3 ด้าน ดังนี้
1.Performance areas
A. Activity of daily living
- ช่วยเหลือตนเองได้บ้างแต่ต้องอาศัยการฝึกอย่างมาก
- มีความจำกัดในการดูแลตนเอง
- ต้องการการดูแลตลอดเวลา ตลอดชีวิต แม้จะเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ตาม
- พฤติกรรมการกินจุผิดปกติ (Feeding and eating)
- มีทักษะการป้องกันตนเองน้อย (Emergency response )
- สามารถเรียนรู้การเดินทางตามลำพังได้ในสถานที่ที่คุ้นเคย (Community mobility)
- ปัญหาพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ----> การเข้าสังคม (Sosialization)
B. Work and Productive activity
- ทำงานง่ายๆได้
- ล่าช้าในด้านการใช้ภาษา
- บกพร่องในทักษะการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้องกับมิติสัมพันธ์ (visuo-spatial processing skills)
- สามารถเรียนได้ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 2-3
- เรียนได้ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หรือสูงกว่า
- เมื่อเป็นผู้ใหญ่สามารถทำงาน แต่งงาน ดูแลครอบครัวได้ (แต่เมื่อพบปัญหาอาจจะต้องให้คนอื่นช่วยแก้)
C. Play or Leisure
- กิจกรรมยามว่างส่วนใหญ่จะเป็นการพักผ่อน
- เล่นเพียงลำพัง
- เปลี่ยนกิจกรรมบ่อยครั้ง
2.Performance component
- พัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวร่างกาย (motor development) ช้ากว่าวัย
- มีความพิการทางระบบประสาทส่วนกลาง (central nervous system) ด้วยทำให้มีการเกร็งของแขน ขา ลำตัว
- การทำงานของตาและมือให้ประสานกัน (eye-hand co-ordination)
- ซน สมาธิสั้น
- แยกตัวจากกลุ่ม มีโลกของตัวเอง เหม่อลอย
3.Performance context
- สิ่งแวดล้อมทางด้านกายภาพ ที่เอื้อต่อการทำกิจกรรม
- การวินิจฉัยให้ได้เร็วที่สุดและการฟื้นฟูสมรรถภาพทันทีที่วินิจฉัยได้
- ครอบครัว คนใกล้ชิด คนดูแล
- เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม
- ข้อจำกัดทางด้านเวลา
บทบาทของนักกิจกรรมบำบัดในผู้รับบริการภาวะบกพร่องทางสติปัญญา
• การฝึกการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก
• ฝึกการทำงานของตาและมือให้ประสานกัน (eye-hand co-ordination)
• กระบวนการฝึกเกี่ยวกับปัญหาการพูดและการสื่อความหมาย
• ฟื้นฟูสมรรถภาพทางอาชีพ
• สนับสนุนให้ได้เรียนรู้ชีวิตในสังคมร่วมกับบุคคลปกติ
ไม่มีความเห็น