ศักยทิฐิ คือ ความถือตัวถือตน เอาตนเป็นใหญ่ เอาตนเป็นประธาน...
พระพุทธเจ้าท่านสอนเราให้เอาธรรมเป็นใหญ่ เพราะไม่มีใครใหญ่กว่าธรรม เพราะธรรมะคือธรรมชาติ ธรรมชาติคือความบริสุทธิ์ผุดผ่องไม่มีตัวไม่มีตน ไม่มีเรา ไม่มีเขา ไม่มีผู้หญิง ไม่มีผู้ชาย
เราเกิดขึ้นมาแล้วเดี๋ยวก็แก่ เดี๋ยวก็ตาย
ท่านให้เราปรับใจเข้าหาธรรมะ พยายามฝึกฝนตนเอง พยายามสร้างบารมี พยายามกลับมาหาตัวเอง...
คนเรานี้นะ สิ่งที่มันสกปรกที่สุดก็คือหัวใจของเรา สิ่งที่ว่าปฏิกูลอันเรามองเห็นภายนอกนั้นยังไม่สกปรกเท่ากับหัวใจเรามีศักยะทิฐิ หัวใจของเราถือตัวถือตน
ใจเรานี้ถ้ามันไม่ละอายต่อบาป ไม่เกรงกลัวต่อบาป “ใจอย่างนี้พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่าเป็นใจสกปรก เป็นใจที่จะต้องแก้ไข”
เราจะแก้ไขอย่างไร...?
อันไหนมันดีเราก็คิด อันไหนไม่ดีเราก็ไม่คิด อันไหนดีเราถึงทำ อันไหนไม่ดีเราก็ไม่ทำ...
การปฏิบัติธรรมเราไม่ต้องหวังประโยชน์ภายนอก ให้เรามุ่งมรรคผลนิพพาน เพื่อให้ตัวเองกราบไหว้ตนเองได้ คนอื่นเขาไม่รู้จักเราเท่ากับตัวเรา
ศักยทิฐิ อัตตาตัวตนถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องที่เราจะต้องแก้ไข
เราจะทำอะไรทุกอย่างก็ต้องตั้ง นะโม ขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ น้อมมาใส่จิตใส่ใจเรา เพื่อให้พระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์มีในจิตใจของเรา จะได้ละเอามานะ ทิฐิ อัตตา ตัวตน ออกไปจากใจเรา
ข้อวัตรปฏิบัติ ปฏิปทาที่เราได้รับจากพระพุทธเจ้าไม่ว่าแนวความคิด คำพูด การกระทำ เป็นสิ่งที่สำคัญนำทางเราให้เข้าถึงความดับทุกข์เพื่อเป็นหลักการ เป็นจุดยืนในการสร้างเหตุ สร้างปัจจัย ในการสร้างมรรค เป็นการเดินทางทางจิตใจ เดินทางทางคุณธรรม เป็นการให้อาหารใจ สิ่งที่สำคัญที่สุดของเรานั้นก็คือการประพฤติปฏิบัติทั้งกาย วาจา และจิตใจ...
พระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ที่องค์พ่อแม่ครูอาจารย์เมตตามอบให้นำมาบรรยาย
กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔
ไม่มีความเห็น