ในหน้าที่ของพยาบาลแผนกผู้ป่วยนอก ได้ทำงานคลุกคลีกับผู้ป่วยโรคต่างๆมากมาย ทำให้เข้าในความทุกข์ของผู้ป่วยแต่ละคน ซึ่งความทุกข์นั้น ฉันสามารถแบ่งออกได้ประมาณ 3 ประเภท
1. ทุกข์จากใจทุกข์ คือโรคที่เจ็บป่วยทางจิต ซึ่งรักษายากต้องใช้ทั้ง ยา จิตบำบัด
2. ทุกข์จากกายทุกข์ คือความเจ็บป่วยด้วยโรคทางกายต่างๆ บางอย่างรักษาหาย บางอย่างรักษาแล้วทุเลา บางอย่างรักษาไม่หาย ใช้ยารักษา หัตถการต่างๆ ผ่าตัดรักษา
3. ทุกข์ใจที่เกิดจากร่องรอยของทุกข์ทางกาย เช่นการสูญเสียภาพลักษณ์ต่างๆ อันนี้รักษายาก เราะหลายคนไม่รู้ว่าจะรักษาที่ไหน ไปโรคพยาบาลก็ ให้ประวัติหมอลำบาก หลายคนเลือกที่จะบำบัดความรู้สึกของตัวเอง ด้วยกลไกการปรับตัวของตัวเอง บางคนทำสำเร็จ บางคนไม่สำเร็จ ส่งผลกลับไปเป็นทุกข์ใน และทุกข์กายต่อ
แต่ฉันเป็นพยาบาลที่ได้มีโอกาส ได้บำบัดทุกข์ใจที่เกิดจากร่องรอยของทุกข์ทางกาย ซึ่งฉันรู้สึกภาคภูมิใจมาก จึงอยากจะนำเรื่องราวมาแบ่งปันให้ทุกคน มองคนรอบข้างเราด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ เพราะเพียงสิ่งเล็กๆ ที่เราให้เขาไปนั้น มันกลับทำให้ ชีวิตคนเปลี่ยนไปได้มากมาย ทุกข์ต่างๆเริ่มลดลงปัญหาเริ่มมีทางออก เรื่องที่จะพูดถึงคือ มีจิตอาสาคนหนึ่งดิฉัเรียกแกว่าป้า ..... เขาจะเข้ามาดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV ในคลินิกบริการ วันหนึ่งต้องกลับเป็นผู้ป่วยซะเอง เขาเป็นมะเร็งเต้านม แต่ด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง ทำให้เขายังคงช่วยเหลืองานในคลินิกอยู่แต่แกจะดูท่าทางไม่มั่นใจไม่เหมือนเมื่อก่อน ได้มีโอกาสพูดคุยซักถาม รู้ว่าเขาไม่ได้กังวล เรื่อง มะเร็งเต้านม เขาเข้าใจดีว่า เราเลือกไม่ได้ว่าจะไม่เป็นมะเร็งเต้านม เป็นแล้วก็รักษาไป ดีที่ตรวจเจอแต่เนิ่นๆ จะได้รักษาได้ทันการณ์ ก็ดูเหมือนไม่มีอะไรที่ทำให้แกเปลี่ยนไป ก็ได้แต่สังเกตอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่ง แกเข้ามาถามว่า หมอมีวิกผมที่ดีๆถูกๆ ขายบ้างมั๊ย ฉันไปดูมามีแต่ราคาเป็นพันขึ้น อันถูกๆ ก็ใส่แล้วรัดแน่นทนไม่ได้ แน่ ถึงได้พูดคุยซักถามแก จึงรู้ว่าความทุกข์ ของป้าแกคือผมที่มันร่วงทั้งศีรษะจากการให้เคมีบำบัด แล้วป้าแกเป็นคนของสังคม ต้องทำกิจกรรมโน่นนี่นั่น แกไม่มั่นใจเลยที่จะออกไปทำอะไร ด้วยหัวโล้นๆ หรือต้องใส่หมวกตลอดดูแล้วไม่สุภาพ ฉันก็เลยมาเริ่มคิดว่า จะช่วยแกได้ยังไง ก็เริ่มจาการหาในอินเตอร์เนต และร้านขายวิก เออ....แพงจริง ตั้งใจจะซื้อบริจาค กำลังทรัพย์ ก็ซื้อได้อยู่ แต่ก็คงให้ได้แต่แกคนเดียว แล้วคนอื่นๆที่มีทุกข์แบบนี้อีกล่ะ ฉันจะช่วยได้อย่างไร และแล้ว ไอเดียในสมอง ของคน Alert อย่างฉันก็เกิดขึ้น Idea การทำผมปลอมขึ้นมาด้วย อุปกรณ์ดังในภาพ + กับความสามารถในการถักโคเชต์ ของฉัน ก็ได้วิกผมแสนจะราคาถูกตกอันละ 65 บาทไม่รวมค่าถัก เท่านี้ก็สามารถเป็น ไอเดียว แบ่งปันความสุข ปลดทุกข์ในใจของใครหลายๆคนที่ เป็นผลมาจากทุกข์ทางกายค่ะ อุปกรณ์ทำวิกผม
ใช้ตัวเองเป็นนางแบบ
คุณสามีเป็นนายแบบบ้าง
ลูกสาวเป็นนางแบบตัวน้อย
ป้าแกได้วิกไปแล้ว แกมีความสุขมากขึ้น ทำงานจิตอาสาที่แกรัก ได้ โดยไม่รู้สึกมีปมด้อย เห็นแล้วก็รู้สึกดีใจกับแกด้วย
ถ้าคนที่เคย ถักโคเชต์วันเดียวก็เสร็จค่ะ เดียวจะลงแพทเทินร์ให้เผื่อใครสนใจลองไปทำดู ผมที่ใช้เป็นผมปลอมที่เขาเอามามัดแต่งผมผู้หญิง มีหลายแบบหลายราคา แบบนีเหมาะสำหรับวัยสูงอายุหน่อย เขาขายเป็นโหล ๆละ79 บาท พอคลี่เส้นออกมายาวๆ เราใช้แค่ 5 อัน โหลหนึ่งทำได้ 2 อัน ไหมพรมก็ม้วนละ 35 บาท ทำได้ 2อัน แถมมีเหลืออีก
การป่วยทางจิตสำคัญกว่าการป่วยทางกาย เพราะคนเรานั้นท่านว่า จิตเป็นนายกายเป็นบ่าว ถ้าเราป่วยกายแต่จิตไม่ยอมป่วยไปด้วย ก็สบายไปได้อักโข ขออนุโมทนาบุญด้วย ...แหมพอเราป่วยอยากเจอนางพยาบาลแบบนี้จริงๆ
น่ารักและได้ไอเดียดีมากๆ ค่ะ
ขอบคุณค่ะ ตอนนี้กำลังทำไว้ที่ตึกผู้ป่วยหญิง ไว้บริจาคคนไข้ที่ไม่มีกะตังค์ซื้อ อันใหม่ได้ผมเป็นสีออกน้ำตาลสวยเชียวมีพี่ที่แกเป็นหัวหน้า รพ.สต. แกขอซื้อ แกหัวล้าน แกบอกให้ 500 เลย ใส่สบายมาก ก็เลยบอกแกว่าไม่ขาย เอาไว้แจก แกก็เลยขอแจก บอกไม่แจกพี่ แกถามทำไม ก็พี่หัวล้านมาตั้งหลายปี แล้วขืนใส่วิกคนอื่นเขาคงเห็นแปลกๆ เป็นมานานแล้วก็เป็นต่อไปเถอะพี่ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ป้าศรีผู้ป่วยวิกผมปลอมที่ทำจากไหมพรม และ ยางรัดผม ทำจากผมปลอมรูป โดนัท
ป.ล.ภาพนี้ได้รับอนุญาตจากผู้ป่วยแล้ว
ทำสิ่งดีๆ ส่งผลมาสู่จิตใจจริงๆนะคะ
แอบปลื้มไปด้วยเลย