จากคำถามที่กระตุ้นให้เราต้องคิด เกี่ยวกับเรื่องเวลา...ประเด็นนี้ในกลุ่มเราได้มีการปรับเปลี่ยนหัวข้อหรือโจทย์ใหม่คะว่า...เป็นคำถามที่ว่า"ปัจจัยอะไรที่ทำให้กระบวนการในเรื่องเวลาสั้นลง" นั้นคือ ใช้เวลาไม่มากนัก
คุณกิจ หรือนักปฏิบัติ R2R ของทีมศิริราช ท่านเล่าว่าส่วนใหญ่ในองค์กรหรือในหน่วยงานนั้น จะใช้เวลาช่วงต่อเวรในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และใช้วิธีการกระจายงาน แบ่งงานกันทำโดยเฉพาะในช่วงที่ทำการทบทวนวรรณกรรม ก็จะแบ่งกันไป review จากนั้นค่อยมาคุยกันอีกที และเรียบเรียงให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ
จากนั้นก็มีการเสนอว่า น่าจะมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาร่วมใช้ผสมผสานไปกับกระบวนการการพัฒนางานวิจัย เช่น web blog โทรศัพท์ เป็นต้น...นอกจากนั้นได้มีการเสนอเทคนิคเล็กน้อยๆ...เช่น การเขียน Paper ให้เหมือนการเล่านิทาน เรียบเรียงไปในทำนองนี้ก่อนค่อยใส่เนื้อหาหลักการเป็นวิชาการ ที่สำคัญหากรักที่จะทำเราต้องไม่กลัว
นอกจากนี้แนวทางที่หลายๆ ท่านได้เคยใช้ เช่น หาเวลาเท่าที่มีโอกาส คุยกันกลุ่มเล็กๆ กันก่อน แล้วค่อยนัดคุยกันกลุ่มใหญ่ มีตัวกลางประสานกระจายข้อมูล...
โดยสรุปในกลุ่มเรา...เน้นการกระจายงาน มีผู้ประสานงาน และหาโอกาสทุกโอกาส...ในการทำและแลกเปลี่ยนเรียนรู้
อาจารย์บวรคะ...
ท่านมาจุดประกายมากเลยคะ...ท่าน อ.หมอวิจารณ์เพิ่งพูดเรื่องนี้คะ ไปดูที่นี่นะคะ...เราลองมาคุยรายอะเอียดดีไหมคะอาจารย์ กะปุ๋มก็อยากให้เกิดนะคะ...เพราะที่กะปุ๋มไป CoP ครูภาษาอังกฤษ สพท.เขต1 หนองคายนั้น...ทำให้กะปุ๋มมองเห็นว่าครูท่านสามารถทำวิจัยในห้องเรียนได้ตั้งหลายเรื่อง...เราลองจุดประกายกระตุ้นนำ..ให้ครูรู้สึกว่าการทำนั้นสนุกและมีความสุข...ลองดูไหมคะอาจารย์
*^__^*
กะปุ๋ม
Ms.Sunee-คะ
ไม่มีคำว่าช้าหรือสาย...สำหรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้นะคะ...
...
เวลาเรามีเท่ากัน 24 ชั่วโมง...ขึ้นอยู่กับใจเราในการจัดสรร...หากลงตัวเราก็จะรู้สึกว่าเรามีเวลาที่ใช้อย่างคุ้มค่าคะ...
ขอบคุณนะคะ..สำหรับความคิดเห็นที่ต่อยอด...ได้ยอดเยี่ยมยิ่งคะ...
*^__^*
กะปุ๋ม