นายหัว
นาย เจ้าชาย ณ เมืองห้วยแร่

เจ้าชายแห่งรัตติกาล


เจ้าชายแห่งรัตติกาล

เจ้าชายแห่งรัตติกาล

            ณ ดินแดนแห่งรัตติกาล นครแห่งมหานิมิตสุบันกาล ปกคลุมไปด้วยความสวยงามแห่งทุ่งหญ้าเขียวชอุ่ม มองไปในนภา หมู่วิหคโผบินเริงร่า ฝ่าแสงรุ้งของห้วงนภา ทอดไปสุดสายตา เบื้องหลังมหานครคือภูผายืนตระหง่าน มากมายไปด้วยแมกไม้นานาพันธ์ มหานทีเทตัวลงสู่เบื้องล่าง ก่อเป็นน้ำตกวิไลนัก มองลงไป หมู่มัจฉาแหวกว่ายเคลียคลอ ยามพระพายพัดผ่านห้วงมหานคร ทุ่งหญ้าปลิวไหว ดอกหญ้าขาวโพลนฟุ้งกระจายในอากาศส่งกลิ่นหอมยั่วยวนใจ

                นี่คืออาณาจักรแห่งเจ้าชาย เจ้าชายทรงอยู่อย่างโดดเดี่ยวมาแสนนาน นครแห่งนี้ นครแห่งมหานิมิตสุบัน เป็นดินแดนที่มีความสุขมากที่สุดสำหรับเจ้าชาย ณ ที่แห่งนี้มีแต่เจ้าชาย และมวลหมู่สิงสาราสัตว์ แล้วคนอื่นไปไหนกัน ที่นี่มีใครอีกหรือ

                อย่าสนใจเลย เนิ่นนานมาแล้วอาณาจักรแห่งนี้ได้ถูกสถาปนาขึ้นอย่างงดงามและยิ่งใหญ่ โดยเจ้าชายหนุ่ม นานแสนนานมาแล้วท่านอยู่เปล่าเปลี่ยว เหล่าสิงสาราสัตว์ เป็นมิตรสหายที่มาทายทักและรักษาใจ มีใครอีกไหม ใช่ เจ้าชายมีสหายอีกท่านหนึ่ง ท่านมีนามว่า เวลา เจ้าชายทรงอยู่กับเวลา เวลาเป็นสหายของเจ้าชาย เวลาคือใครกัน เวลามาจากไหน เวลาทำอะไร ไม่มีใครรู้ไม่มีใครทราบ นานเท่าไรแล้วหนา เจ้าชายมิทรงรู้ แต่เจ้าชายรู้ว่าเวลาคือสหาย เมื่อมีที่นี่ เจ้าชายก็มีเวลาแล้ว

                จนวันหนึ่ง เจ้าหญิงโฉมงามผู้น่ารักจากฟากฟ้าได้มาสู่อาณาจักรแห่งเจ้าชาย บัดดลมหานครแปรเปลี่ยน ทุกอย่างดูงดงามและมีความสุขยิ่งกว่าเก่า เจ้าชายและเจ้าหญิงเคียงคู่กัน เจ้าชายทรงรักและห่วงใยเจ้าหญิงอย่างมาก เจ้าชายทรงดูแลเจ้าหญิงเป็นอย่างดีที่เดียว แม้ยามตื่นเจ้าชายทรงมิห่างจากกายทรงยิ้มรับทุกวันใหม่ แม้ยามนอนเจ้าชายมิห่างจากนางนักบอกรักและกล่อมฝันทุกวันคืน ยามเจ้าหญิงป่วยไข้เจ้าดูยิ่งกว่าป่วยไข้ของเจ้าหญิงเสียอีก ยามเจ้าหญิงเจ็บปวดความเจ็บปวดของเจ้าชายทวีคูณมากกว่าไหนๆ ทั้งคู่คือชีวิตกันและกัน เจ้าหญิงคือทุกอย่างของเจ้าชาย คือชีวิตของเจ้าชาย

                นานวันนานปีความรักยิ่งหยั่งรากลึกลงสู่หัวใจทั้งสองดวง พันธนาการแห่งรักผูกมัดทั้งสองไว้ด้วยกัน เจ้าชายทรงสัญญากับเจ้าหญิงไว้เสมอว่าจะดูแลเจ้าหญิงตลอดไป จะไม่จากเจ้าหญิงไปไหน จะโอบกอดเจ้าหญิงตลอดไป กระนั้นวันหนึ่งเจ้าหญิงก็หายไป หายไป หายไปไหน อาณาจักรเงียบสงบ ทุกสรรพสิ่งดูเศร้าหมอง ความระทมทุกข์ของเจ้าชายคือความระทมทุกข์ของสรรพสิ่งในมหานคร มหานครดูมืดมิดหม่นหมอง ไร้ชีวิตชีวา เจ้าหญิงหายไปไหน เจ้าหญิงหายไปไหน เสียงสรรพสิ่งทุกอย่างในมหานครถามหา เจ้าชายเฝ้าถามหา ตามหา  ค้นหาทุกวัน ทุกวัน ทุกเวลา จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี จากปีเป็นนานเนิ่นนาน

                มหานครที่เคยชุ่มฉ่ำเขียวขจี วันนี้กลับแห้งกรอบ มหานทีที่ไหลทุกคืนวันกลับแห้งผาก เหล่าวิหคสกุณากลับเงียบหาย เหล่ามัจฉาพากันหน่ายหนีโศกเศร้าสรวล ความมืดมิดความคับแค้นตกอยู่ทุกย่อมหญ้า เจ้าหญิงหายไปประดุจดั่งความสุขหายไป ความยินดีปรีดาหดหายจางไป

                เจ้าชายทรงรำพึงรำพันกับเวลา และรอคอยเจ้าหญิงกลับมา ทั้งคู่สนทนากัน

เวลา   : โอ้เจ้าชาย เหตุใดรึเจ้าหญิงหายไป นางหายไปไหนกันหนอ

เจ้าชาย: เหตุใดกันข้ามิอาจล่วงรู้ นางหายไป ใจข้าก็หายตามนางไปด้วย

เวลา: ท่านมาหาข้าทำไมกันหนา มีเหตุใดกัน

เจ้าชาย :ข้าคิดถึงท่าน ข้าอยากพบท่าน ท่านกับเราคือมิติเดียวกัน ท่านเวลาท่านกับเราอยู่ด้วยกันเสมอ เสมอ ท่านว่างเราว่าง ท่านนอนเรานอน เมื่อท่านยิ้มฉันยิ้ม ท่านกับเราคือสสารเดียวกัน และจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

เมื่อเจ้ายิ้ม เวลาก็ยิ้ม เมื่อเจ้าชายหัวเราะเวลาก็หัวเราะ เมื่อเจ้าชายนอนหลับเวลาก็หลับฝัน

                เจ้าหญิงกลับมาแล้ว เจ้าหญิงกลับมาแล้ว เจ้าหญิงกลับมาแล้ว ความยินดีปรีดา ความสุขสันต์ดังกังวานทั่วพิภพมหาอาณาจักร ทุกสรรพสิ่งกับดูมีชีวิตชีวา ความเขียวชอุ่มกลับคืน ความสดชื่นกลับคืน หมู่วิหคเริงร่า หมู่มัจฉาร่ายรำ มหานทีไหลหลากสุกสันต์ มหานครกลับมีชีวิตอีกคราหนึ่ง เจ้าชายโอบกอดเจ้าหญิงอย่างแนบแน่นน้ำตาไหลรินด้วยความปลื้มปิติ

เจ้าชาย : เจ้าหนีหน้าข้าไปไหนรึ ยอดรักแห่งข้า

เจ้าหญิง: น้องมิได้หนีหน้าท่านพี่ไปไหน น้องกลับไปสู่โลกแห่งความจริง

เจ้าชาย: ข้าคิดถึงเจ้าทุกวันคืน ข้ากินไม่ได้นอนไม่หลับ ข้าอยากพบเจ้าทุกวันเวลา

เจ้าหญิง: น้องคิดถึงท่านพี่เช่นกัน

                มหานครกลับสู่ความมีชีวิตชีวาและดำเนินต่อไป ดินแดนแห่งรัตติกาล มหานครแห่งนิมิตสุบัน มหานครแห่งความฝัน ดินแดนแห่งความฝันมันดูงดงามยิ่งนัก แต่มันคือความฝัน มิใช่โลกแห่งความจริงแต่ประการใด โลกใบนี้ช่างโหดร้ายทารุณนักแล เหตุนี้มหานครแห่งความฝันจึงดูยิ่งใหญ่นัก เป็นได้แค่เจ้าชายในความฝัน เราจึงโอบกอดและบอกรักคนที่เรารักได้แค่ในฝันเท่านั้น เป็นแบบนี้ แค่นี้ เจ้าหญิงคงถูกกักขังไว้นานแสนนานหรือไม่ จะเป็นอย่างไรกัน มหานครแห่งนี้คงจองจำเจ้าหญิงไว้ นครแห่งความฝันนั้นจะพันธนาการความรักและสิเน่หาผูกมัดรัดเราไว้ด้วยกัน

                โลกแห่งความจริงโหดร้ายทารุณเยี่ยงนัก เจ้าหญิงความจริงเธอกับฉันช่างต่างกันดั่งฟ้ากับเหว หุบเหวลึกคือบ้านฉัน คือความจริง เราจึงครองคู่กันแค่ในนิทราเท่านั้น นครแห่งรัตติกาลได้ถูกอุบัติขึ้นมานานแล้ว มันคือความสุขของฉันเสมอๆ ฉันมีเวลาเป็นมิตรสหายตลอดมา ฉันมีเจ้าหญิง ฉันมีเจ้าหญิงและมีเจ้าหญิงตลอดไป

                แม้ว่ามันดูหลอกลวงตัวเองไปมากนักแล้ว มันคือความสุขที่หาที่ไหนมิได้อีกแล้วบนโลกใบนี้ อาณาจักรแห่งเวลาปลอมๆ อาณาจักรแห่งความฝันที่มีเจ้าชาย มีเจ้าหญิง มีความสุข มีความรักเคียงคู่กัน มันเป็นความสุขเสมอๆที่พบเจอ แม้ว่าเจ้าหญิงจะหนีหน้าไปบางบางเวลา แต่เจ้าหญิงก็กลับคืนมาเสมอๆเช่นกัน เธอจะไม่หนีหน้าฉันไปไหน แม้ว่าโลกแห่งความจริงจะพรากเธอไป หรือแม้กระทั่งไม่ยินยอมให้เธอกลับมา แต่วันหนึ่งเธอจะอยู่กับฉันตลอดไป วันที่นิทรานิรันดร วันที่นครแห่งความฝันจะดำเนินต่อไป วันที่นครแห่งความจริงพังทลายลงมา วันนั้นสันติสุขและสงบจะเกิดแก่เรา เจ้าหญิงของฉัน ฉันจะโอบกอดเธอตลอดไป ฉันจะรักเธอตลอดไป ณ เมืองแห่งนี้ ณ ที่แห่งนี้ ดินแดนแห่งรัตติกาล

                                                                                                                     เจ้าชาย

                            25/1/55

                              

หมายเลขบันทึก: 480315เขียนเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2012 12:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 มิถุนายน 2012 14:30 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

อาจารย์เขียนได้ดีมากครับ

ขอตามเป็นแฟนคลับนะครับ

สวัสดีครับ

เก็บลีลาและสำนวนการเขียนแบบนี้

และพัฒนาต่อนะครับ

เขียนอย่างมีวินัย...มุ่งมั่น

อีกไม่ได้นาน ผมคงมีโอกาสล้วงเงินจากกระเป๋าตนเอง

ซื้อหนังสือของอาจารย์นะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท