ในวันที่ 22 ธันวาคม 2554
ดิฉันได้นำเสนอต่อคณะจารย์และเพื่อนๆในชั้นเรียนของกิจกรรมบำบัดเกี่ยวกับ case study ที่เคยให้การรักษาทางกิจกรรมบำบัด
Client history : น.ส.จำปาทิพย์ อายุ 51 ปี จบการศึกษาระดับ ปวส. อาชีพพนักงานบัญชี เข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจและได้เข้ารับการฟื้นฟูทางกิจกรรมบำบัด ซึ่งผู้ป่วยมีความต้องการในการเขียนและการกลับไปประกอบอาชีพเดิม
อาการสำคัญ : หลังจากการผ่าตัด เนื่องด้วยผู้ป่วยได้รับบาดเจ็บของการผ่าตัดผ่านชั้นกล้ามเนื้อบริเวณหน้าอกและหัวใจ จึงเป็นผลทำให้ไม่ได้เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน และทำให้มีกำลังกล้ามเนื้อ ความทนทานในการทำกิจกรรมต่ำ เหนื่อยง่าย มีปัญหาในการเปล่งเสียงพูดสื่อสารและการหายใจ
การประเมินทางกิจกรรมบำบัด : COPM evaluation of client center, Dynamometer hand strength, Perdue Pegboard dexterity test, Role and interest checklist and observation with testing the activitise
ผลจากการประเมินพบว่า ผู้ป่วยต้องการจับปากกาเขียนหนังสือได้เพื่อที่จะสามารถกลับไปประกอบอาชีพเดิมหลังจากการฟื้นฟู เนื่องจากผู้ป่วยมีแรงกำมือและความทนทานต่ำ จึงไม่สามารถควบคุมมือในการเขียนตัวหนังสือได้อย่างพึงพอใจ
การให้การรักษาและกิจกรรมการรักษา : สำหรับ case นี้ ดิฉันได้ใช้ 2 กรอบอ้างอิง ได้แก่ Biomechanical FoR และ Physical Rehabilitation FoR
กิจกรรมการรักษา ได้แก่
Pre-hand writing training with home program : ฝึกการควบคุมมือในการลากเส้นตามแบบฟอร์มและการเขียนชื่อให้อยู่ในเส้นบรรทัด
Progressive resistive exercise : ฝึกการเคลื่อนไหวนิ้วมือทีละนิ้ว (ไต่บันได)ร่วมกับกิจกรรมต่างๆ
Graded pinch exercise : ฝึกการเพิ่มแรงกำมือและการจับแบบ tripod pinch โดยใช้ resistive prehension bench, putty exercise
Sounding & breathing exercise : ฝึกการเป่าฟองหรือเป่าลม,ฝึกการเปล่งเสียง อา อี อู เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ vocal cord
Evidence base support : หลักฐานเรื่องแรกที่นำมาสนับสนุนวิธีการรักษาคือ progressive resistence training ในผู้ป่วยที่ผ่าตัดมะเร็งเต้านม (BMC Cancer 2006, 6:273) ได้กล่าวถึงผลจากการผ่าตัดที่กระทบต่อคุณภาพชีวิตและกิจวัตรประจำวันของผู้ป่วย โดยการใช้แบบสอบถามและการประเมินความแข็งแรงของแขนและไหล่หรือช่วงการเคลื่อนไหวเพื่อฟื้นฟูความสามารถในการประกอบกิจกรรมการดำเนินชีวิต ผลการทดลองแบบสุ่มสามารถป้องกันปัญหาแทรกซ้อนและระบุการออกกำลังกายเพื่อลดบวมได้
level of evidence : C เนื่องจากเป็นแบบการทดลองแบบสุ่ม
หลักฐานเรื่องที่สองที่นำมาอ้างอิงเกี่ยวกับ Strength training เพื่อเพิ่มกำลังของกล้ามเนื้อระยางค์ส่วนบนในผู้ป่วยหลอดเลือดสมองเพื่อเปรียบเทียบกับโปรแกรมการรักษาต่างๆ (American of Stroke Associated 2010, 41:136-140:) ได้รายงานความสำคัญของการเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อระยางค์ส่วนบน เช่น แรงกำมือหรือการเคลื่อนไหวระยางค์แขน ไหล่ ผลของการทดลองแบบสุ่มนี้ พบว่าการฟื้นฟูความแข็งแรงของกล้ามเนื้อของระยางค์ส่วนบนมีความสำคัญต่อการดำเนินโรค
level of evidence : D เนื่องจากเนื้อหาเป็นการนำข้อมูลจากหลากหลายที่มามาเปรียบเทียบและหาผลสรุปร่วมกัน
วันนี้ทำได้ดีนะค่ะ น่าสนใจมาก อยากรู้เรื่องเกี่ยวกับมะเร็งสอบถามเพิ่มเติมได้หรือไม่