ลั่นกลองรบ
ล่วงเข้าเดือนกันยายน ฝนฟ้ายังตกกระหน่ำ พลันมวลน้ำก้อนใหญ่ก็รุกคืบและถาโถมเข้าสู่หลายพื้นที่ในจังหวัดอุทัยธานี นครสวรรค์ สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรีมาจนถึงอยุธยา สื่อทุกสื่อต่างเกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ข่าวน้ำท่วมกลายเป็นประเด็นร้อน
การป้องกันผืนแผ่นดินทำกิน เรือกสวนไร่นากับผลผลิตที่กำลังออกรวงและให้ดอกออกผลเป็นไปอย่างฉุกละหุกและจ้าละหวั่น แม้จะเอาชีวิตและทรัพย์สินที่มีอยู่เป็นเดิมพัน ก็ไม่อาจปิดกั้นความเกรี้ยวกราดของสายน้ำ และเมื่อสิ้นสุดเวลาแห่งการยื้อยุดฉุดรั้ง ความตระหนกปนคราบน้ำตาของคนตัวเล็กๆ พร้อมเสียงร่ำไห้และเรื่องเล่าของคนที่ไม่เคยมีปากมีเสียงก็ได้ถูกกล่าวขานเป็นรายงานไม่เว้นแต่ละวัน ความล่มสลายในภาคเกษตรกรรมยังไม่ทันจางหาย ความวอดวายของนิคมอุตสาหกรรมก็ตามติด
ภาพเหล่านี้ เป็นดั่งสัญญาณแห่งการ “ลั่นกลองรบ” เป็นสัญญาใจที่ไม่อาจฝึกฝืนให้แต่ละค่ำคืนผ่านไปอย่างง่ายดาย การรณรงค์รับบริจาคเงินและข้าวของเครื่องใช้เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลาเก้าคืนที่บริเวณองค์พระปฐมเจดีย์ ผุดแวบขึ้นมาเป็นระยะๆ ในครั้งนั้นเราได้รับธารน้ำใจจากพ่อแม่พี่น้องชาวนครปฐมและนักท่องเที่ยวเป็นเครื่องอุปโภคบริโภคจำนวนมากพร้อมเงินกว่าสี่แสนบาท เพื่อนำมาจัดทำถุงยังชีพส่งให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยทั้งในจังหวัดนครปฐม ราชบุรีและสุพรรณบุรี ทว่าในครานี้ ด้วยบริบทและเงื่อนไขที่แตกต่าง ในฐานะขององค์กรที่ประกาศตัวอยู่เคียงคู่กับท้องถิ่น และในฐานะของปัจเจกบุคคลที่ตระหนักว่าทุกชีวิตต่างก็เป็นเพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นนั้น เราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อแบ่งเบาความทุกข์ยากของเพื่อนร่วมชาติ
แผนระยะสั้นที่จะต้องทำทันที มีสองภารกิจหลัก
ภารกิจหนึ่ง การเตรียมป้องกันมวลน้ำที่จะไหลบ่าเข้ามาในมหาวิทยาลัย และการเตรียมความพร้อมด้านอาคารสถานที่ เพื่อรองรับการเป็นศูนย์พักพิงให้แก่ผู้เดือดร้อน การขุดลอกโคลนเลนในสระมรกตตลอดจนการปกป้องจุดเสี่ยงต่างๆ ดำเนินไปด้วยความเร่งรีบพร้อมๆ กับการประเมินสถานการณ์ชนิดวันต่อวัน
ณ วันนั้นเราไม่อาจทราบได้ว่านครปฐมโดยเฉพาะในเขตเมืองจะถูกโจมตีโดยกองทัพน้ำหรือไม่ ด้วยขนาดกองกำลังเท่าใด ข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ของนักวิชาการซึ่งนำเสนอผ่านสำนักข่าวต่างๆ กับข้อมูลที่ได้จากรัฐบาลดูจะย้อนแย้งกันชนิดหน้ามือกับหลังมือ ยิ่งผนวกกับ “วาทกรรมชาวบ้าน” ที่ผ่านประสบการณ์น้ำท่วมใหญ่ ครั้ง 2485, 2538 และ 2549 ต่างฟันธง น้ำจะไม่ท่วมแน่นอน ในขณะที่อีกวาทกรรมหนึ่งก็ว่า น้ำท่วมปีนี้ไม่อาจใช้กระบวนทัศน์หรือวิธีคิดแบบเดิมๆ ได้ เพราะความผิดแผกอันเกิดจากการทำลายธรรมชาติอย่างสะสม และความผิดแผกอันเนื่องมาจาก “การเมือง” ณ วันนั้น จึงไม่อาจทำอะไรได้ดีไปกว่าการเตรียมตัวและการป้องกันให้ดีที่สุด
อีกภารกิจหนึ่ง คือ การประสานงานกับเครือข่ายภายนอกเพื่อระดมสรรพกำลัง รณรงค์รับบริจาคและวางแผนงานด้านเตรียมเสบียงในการกระจายความช่วยเหลือเบื้องต้นส่งต่อให้กับผู้นำชุมชนและท้องถิ่น ซึ่งแม้จะรู้ว่ามันอาจจะไม่ทั่วถึงทุกกลุ่มคนและทุกชุมชนกลางน้ำ ทั้งอาจจะไม่ครอบคลุมทุกความจำเป็น แต่เราก็ต้องทำ พร้อมๆ กับการพยายาม “ปักหมุด” ลงบนแผนที่โดยเชื่อมต่อกับข้อมูลของทุกภาคส่วนเท่าที่จะทำได้ เพื่อลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มการกระจายให้ได้มากที่สุด
แล้วทุกคนก็เริ่มทำงานแข่งกับเวลา... โดยไม่รอ “คำสั่ง” จากทางราชการ
ไม่มีความเห็น