สภาพร่างกายหลังไปเยียวยาฯ น้ำท่วม


ต้องรีบ Reset ตัวเองด้วยวิถีธรรมชาติและการฝึกเจริญสติ

ข้าพเจ้าเคยเขียนเรื่อง ผ่านอินเดียแล้วไปได้ทุกที่ เพราะการเดินทางไปอินเดียล่าสุดนั้นไปแบบได้เห็นชีวิต ไม่ได้ไปจากการซื้อทัวร์ เพราะการเดินทางไปเช่นนั้นสะดวกสบายแน่นอน แต่จะพลาดการได้สัมผัสชีวิตที่เป็นชีวิต

อะไรที่เป็นชีวิต...

คือการได้เรียนรู้ "ว่าการเกิดนี้เป็นทุกข์" มันเป็นเช่นนี้นี่เอง

สัปดาห์ที่ผ่านมาอาสาไปเยียวยาจิตใจผู้ประสบภัยน้ำท่วม ... เป็นการเดินทางที่ใช้ความรู้สึกวัดและประเมินตนเอง ข้าพเจ้าพบว่าสภาพที่ร่างกายประสบ จากการเดินทางไปเยียวยาฯ น้ำท่วมนั้นหนักกว่าการเดินทางไปอินเดีย

ไปอินเดีย...เดินทางแต่ละวันนานมากไม่ต่ำกว่าสิบชั่วโมงต่อเนื่องกว่าสิบวัน... 

แต่ทำไม ความรู้สึกเมื่อยล้าต่างกัน ...

การเดินทางใน กทม. ช่วงเยียวยาฯ นี้ มีการต้องต่อรถจากรถตู้ไปรถสิบล้อ ลุยน้ำเข้าไปที่ศูนย์พักพิง และจากนั้นก็เป็นการเดิน

เป็นเช่นนี้แทบทุกวัน

เมื่อพิจารณาทางกายภาพไม่น่าจะเหนื่อยเช่นนี้ จึงย้อนกลับเข้ามาพิจารณาภายใน...อาจจะเป็นความแปรปรวนของสารชีวเคมีในร่างกายที่เป็นหมวดหมู่ของอดรินาลีนที่หลั่งออกมาอย่างไม่รู้ตัว

แม้เมื่อยล้าแต่ในแต่ละวันทางทีมเองก็จะมีเรื่องขำขำ ประมาณว่า "จากหอยเชอรี่ถึงชีวิตบนดาวอังคาร" ที่นำมาซึ่งเสียงหัวเราะและความเบิกบาน พอให้เกิดความสดชื่นกระปรี่กระเปร่า แต่นั่นก็เป็นเอนโดรฟินที่หลั่งไม่มากพอเท่ากับอดรินาลินหลั่ง เมื่อ "ใจ" ของเราได้ไปสัมผัส "ทุกข์" ของผู้คน

Large_dsc02352

หากพิจารณาแล้ว...

งานนี้สำหรับข้าพเจ้าคือ การฝึกวาง / อุเบกขา อีกหนึ่งบทเรียน 

ทุกข์ที่ยิ่งใหญ่ของมหาชนที่ยากเราจะเยียวยาได้อย่างแผ่ไพศาล ...เราทำได้เพียงแค่เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มคนที่ลงมือทำ ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ส่งความรู้สึก "เห็นใจ" อย่างเดียวเท่านั้น

การเดินทางเมื่อกลับจากไปเยียวยาฯ วันถัดมาข้าพเจ้าได้เดินทางไปทำกระบวนการ R2R ต่อที่ รพ.อำนาจเจริญ...ที่นี่ทำให้ข้าพเจ้าได้เกิดการเรียนรู้การได้รับการเยียวยาเป็นเช่นไร...

 

ไม่เคยหลุดปากคำว่าเหนื่อย...แต ่วันนี้ได้รับการเยียวยาจากชาว R2R รพ.อำนาจเจริญ สุดยอด...จริงๆ นี่คือ ความงดงามของคนหน้างานอย่างแท้จ ริง...

 

เมื่อตกเย็น...

จากเสร็จภารกิจ สิ่งที่เยียวยาตนเองได้ดีที่สุดคือ การนอน...

และข้าพเจ้าก็ได้นอนอย่างเต็มที่ เป็นการนอนที่เริ่มต้นในช่วงแรกด้วยการนอนแบบผ่อนคลาย ด้วยลมหายใจ ทำสมาธิผ่านท่านอน ซึ่งเป็นการเยียวยาตนเองที่ดีที่สุด เพราะเมื่อจิตเกิดเป็นสมาธิ การผ่องถ่ายพิษจากเซลล์จะถูกขับออกมาได้ดี และเซลล์ใหม่ได้รับออกซิเจนและพลังที่ดีเข้าไปแทนที่

เช้านี้จึงตื่นขึ้นมาด้วยความสดใจ เปี่ยมด้วยพลังชีวิตอีกครั้ง

ทำดีท๊อกและทานอาหารที่มีผักผลไม้จะทำให้ร่างกายนี้ฟื้นได้เร็ว ...ประกอบกับการเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อให้ต่อมน้ำเหลืองทำงานได้ดีขึ้น 

แต่ที่ดีเยี่ยมที่สุดสำหรับข้าพเจ้า คือ ลมหายใจ...

"หายใจเข้าสบาย...หายใจออกสบาย" นี่คือ การเยียวยาตนเองด้วยวิถีธรรมชาติที่เลือกปฏิบัติต่อตนเองเสมอ แบบทุกขณะจิต

ความผ่อนคลายทำให้เกิดการเยียวยา

การรู้ตัว(เจริญสติ)...ทำให้ป้องกัน Effect  ของ Toxin ที่จะเกิดขึ้นเองในตัวเราได้

...

หมายเลขบันทึก: 468694เขียนเมื่อ 19 พฤศจิกายน 2011 07:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 ตุลาคม 2013 22:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

อนุโมทนานะครับ..

พลังบุญจะฟื้นฟูพลังกาย พลังใจ ครับ..

เยียวยาผู้อื่นแล้วก้ต้องเยียวยาตนเองไปด้วย บางทีคนเราก็ลืมนึกถึงตนเองนะคะ

ซึ้งใจที่คนไทยได้ดูแลกัน

Large_zen_pics_007 

ถูกต้องเลยค่ะ...พี่นาง...

"เยียวยาตนเพื่อการเยียวยาผู้อื่น"

...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท