นวัตกรรมปัญหาสุขภาพหลังน้ำท่วม


นวัตกรรม ปัญหาสุขภาพหลังน้ำท่วม

โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหินซ้อน อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี

นายอานนท์  ภาคมาลี นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ

      

 ปัญหา/สาเหตุ

       หลังภาวะน้ำท่วมนอกจากผู้ประสบภัยจะประสบกับการสูญเสียญาติมิตรและทรัพย์สินแล้ว ยังต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพหลายด้าน ทั้งนี้เพราะเมื่อเกิดน้ำท่วม แหล่งน้ำสำหรับการอุปโภคบริโภคจะปนเปื้อน กระแสน้ำจะพาสิ่งสกปรก เชื้อโรค ของเสียที่เคยถูกเก็บในที่มิดชิด หรือสารเคมี กระจายเป็นวงกว้างและไปห่างไกลจากแหล่งเดิม น้ำท่วมทำให้สภาพสิ่งแวดล้อมเปลี่ยน ทำให้ สัตว์ แมลง ไม่มีที่อยู่อาศัยออกจากถิ่นที่อยู่เพ่นพ่านทั่วไป ในขณะเดียวกันสภาพน้ำท่วมทำให้พาหะนำโรคต่างๆเจริญเติบโตได้ดี ซึ่งส่งผลทำให้ปริมาณเชื้อโรคมีจำนวนเพิ่มขึ้นและแพร่ได้อย่างรวดเร็ว จึงมีโอกาสเกิดโรคระบาดได้ง่าย สภาพผิวดินหลังน้ำท่วมมีความเหมาะสมสำหรับการแพร่พันธ์ของยุง โรคหลายชนิดที่เกิดจากยุงเป็นพาหะ จึงมีโอกาสระบาดสูงขึ้นหลังน้ำท่วม โดยสรุปปัญหาด้านสุขภาพที่จะเกิดขึ้นหลังน้ำท่วม มีทั้งอาการเจ็บป่วยในระยะแรกและระยะยาวหลังจากนั้นได้แก่ โรคติดเชื้อทางเดินอาหาร เช่นโรคท้องร่วงจากการติดเชื้อจากอาหารเป็นพิษ โรคเล็บโตสไปโลซีส (หรือโรคฉี่หนู) โรคผิวหนังจากการสัมผัสกับสารเคมีสิ่งสกปรก หรือติดเชื้อที่ผิวหนังไม่ว่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา หรือหนอนพยาธิ โรคผิวหนังจากแมลง สัตว์มีพิษกัดต่อย ซึ่งนอกจากจะทำให้ไม่สบายจากการถูกกัดต่อยแล้ว ในภายหลังหากได้รับเชื้อโรคเข้าไปด้วยอาจทำให้ป่วยเป็นโรคไข้เลือดออก มาลาเรีย ไข้สมองอักเสบ หรือติดเชื้อในกระแสเลือด

          โรคผิวหนังที่ประชาชนมักคุ้นเคยและพบเสมอหลังภาวะน้ำท่วม คือโรคน้ำกัดเท้า เมื่อเดินย่ำน้ำบ่อยๆ หรือยืนแช่น้ำนานๆ จะทำให้เท้าเปื่อย โดยเฉพาะบริเวณซอกเท้า บริเวณที่ผิวหนังเปื่อยนี้เป็นจุดอ่อน ทำให้เชื้อโรคที่มากับน้ำเข้าสู่ร่างกาย หลังเสร็จกิจธุระนอกบ้านแล้วควรรีบล้างเท้าด้วยน้ำสะอาดและสบู่ แล้วเช็ดให้แห้งโดยเฉพาะซอกนิ้วเท้า หากเท้ามีบาดแผล ควรชะล้างด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ โรคน้ำกัดเท้าในระยะแรกนี้ ยังไม่มีเชื้อรา เป็นอาการระคายเคืองจากความเปียกชื้นและสิ่งสกปรกในน้ำ ทำให้เท้าเปื่อย บวมแดง คันและแสบ การรักษาในระยะนี้ควรใช้ยาทาสเตียรอยด์อ่อนๆ เช่น 0.02 Triamcinolone cream หรือ3%vioform in 0.02% Triamcinolone cream เมื่อจำเป็นต้องใช้ยาฆ่าเชื้อรา เพราะยาเชื้อราบางชนิดจะทำให้เกิดอาการะคายเคืองและแสบมากขึ้น ถ้าผิวลอกเปื่อยเป็นแผล เมื่อสัมผัสกับสิ่งสกปรกที่เจือปนที่อยู่ในน้ำจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย เมื่อมีการติดเชื้อ แบคทีเรีย จะทำให้เกิดอาการอักเสบ บวมแดง เป็นหนองและปวด ต้องให้การรักษา โดยการรับประทานยาปฏิชีวนะ ร่วมกับการชะล้างบริเวณแผลด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ เช่นน้ำด่างทับทิม และทายาฆ่าเชื้อ หรือยาปฏิชีวนะ หากปล่อยให้มีอาการโรคน้ำกัดเท้าอยู่นาน ผิวที่ลอกเปื่อยและชื้นจะติดเชื้อรา ทำให้เป็นโรคเชื้อราที่ซอกเท้ามีอาการบวมแดง มีขุยขาวเปียก มีกลิ่นเหม็นและถ้าปล่อยทิ้งไว้ให้เป็นเรื้อรัง เชื้อราจะเข้าไปฝังตัวอยู่ในผิวหนังรักษาหายยาก ถึงแม้ว่าจะใช้ยาทาจนอาการดีขึ้นดูเหมือนหายดีแล้ว แต่มักมีเชื้อหลงเหลืออยู่ เมื่อเท้าอักเสบขึ้นเมื่อใด ก็จะเกิดเชื้อราลุกลาม ขึ้นมาใหม่ทำให้เกิดอาการเป็นๆหายๆเป็นประจำอยู่ไม่หายขาด การดูแลป้องกันโรคเชื้อราที่เท้าไม่ให้กลับเป็นซ้ำอีกจึงมีความสำคัญ การรักษาความสะอาดให้เท้าแห้งอยู่เสมอเป็นหลักปฏิบัติที่สำคัญที่สุดในการป้องกันโรคนี้และควรให้ความสนใจเป็นพิเศษที่บริเวณซอกนิ้วเท้า เมื่อเช็ดให้แห้งแล้วทายารักษาโรคเชื้อรา แต่ถ้ามีอาการรุนแรงและเรื้อรัง ทายาไม่ได้ผลควรไปพบแพทย์ ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง ซึ่งอาจมีผลข้างเคียงต่อตับ ไต และควรรักษาอย่างต่อเนื่อง ไม่ควรหยุดยาเองแม้ว่าจะดีขึ้น การหยุดยาเร็วเกินไปขณะที่เชื้อยังไม่หมด มีโอกาส กลับมาเป็นซ้ำอีกได้ง่าย นอกจากนี้ ผู้ประสบภัยกับปัญหาน้ำท่วมควรระมัดระวังเมื่อเดินลุยน้ำเพราะอาจถูกของมีคม ทิ่ม ตำ ทำให้เกิดบาดแผลและติดเชื้อโรคต่างๆ รวมทั้งเชื้อบาดทะยักตามมาได้ เมื่อประสบเหตุดังกล่าวควรไปทำแผลที่หน่วยบริการสาธารณสุขทันที่ และถ้าไม่เคยฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิกันเชื้อบาดทะยักมาก่อนควรปรึกษาแพทย์

 

  

   

 การดูแลสุขภาพหลังน้ำท่วม

  1. ใช้น้ำดื่มน้ำใช้ที่สะอาด หากหาแหล่งน้ำสะอาดไม่ได้ให้ต้มน้ำให้เดือดก่อนใช้อย่างน้อย 10 นาที
  2. ถ้าอาศัยใกล้แหล่งโรงงานอุตสาหกรรมหรือแหล่งสารเคมี พึงระลึกเสมอว่าแหล่งน้ำในครัวเรือนอาจปนเปื้อนสารเหล่านี้ และความร้อนไม่สามารถทำให้น้ำเหล่านี้สะอาดพอสำหรับบริโภคควรปรึกษาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบความปลอดภัยของน้ำหรือจัดหาน้ำสะอาดไว้บริการ
  3. ล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหารเสมอ รับประทานอาหารที่ปรุงสุกและปรุงเสร็จใหม่ งดรับประทานอาหารสุกๆดิบๆ
  4. สวมเสื้อผ้ามิดชิด ป้องกันแมลงสัตว์กัดต่อย นอนในมุ้ง พึงระลึกเสมอว่าแมลง และสัตว์มีพิษ ทั้งหลายก็หนีน้ำมาอาศัยอยู่ในที่สูงเช่นกัน
  5. ผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานที่ยังเล็กเพราะเด็กจะสนุกกับการเล่นน้ำและไม่ใส่ใจรักษาความสะอาดและอันตรายที่แฝงมากับน้ำ
  6. ตรวจสอบระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้าน ระมัดระวังไฟฟ้าลัดวงจร
  7. หากไม่มาสบายรีบปรึกษาแพทย์
  8. หลีกเลี่ยงการแช่เท้าในน้ำนานๆ หากจำเป็นต้องลุยน้ำให้สวมรองเท้าบู๊ทกันน้ำ ป้องกันของมีคม
  9. รีบทำความสะอาดเท้าด้วยน้ำสะอาด ฟอกสบู่ เช็ดเท้าให้แห้งเมื่อเสร็จธุระนอกบ้าน
  10. เมื่อมีบาดแผล ผื่น ที่ผิวหนังให้พบแพทย์
  11. ทายาหรือรับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 464368เขียนเมื่อ 10 ตุลาคม 2011 19:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 กันยายน 2012 18:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ขอบคุณคะ บทความมีประโยชน์ในการปฎิบัติตัวช่วงน้ำท่วมได้อย่างตรงจุดดียิ่งคะ

ผู้ประสบภัยกับปัญหาน้ำท่วมควรระมัดระวังเมื่อเดินลุยน้ำเพราะอาจถูกของมีคม ทิ่ม ตำ ทำให้เกิดบาดแผลและติดเชื้อโรคต่างๆ รวมทั้งเชื้อบาดทะยักตามมาได้ เมื่อประสบเหตุดังกล่าวควรไปทำแผลที่หน่วยบริการสาธารณสุขทันที่ และถ้าไม่เคยฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิกันเชื้อบาดทะยักมาก่อนควรปรึกษาแพทย์

ส่วนมาก ในบ้านเราไม่ค่อยมีใครฉีด วัคซีนบาดทะยัก กระตุ้นทุก 10 ปี เว้นแต่ได้รับบาดเจ็บมีแผลแล้วได้ฉีดตอนนั้น..บาดแผลที่ไม่ใช่ตะปูสนิมตำ แต่ปนเปื้อนดิน มูลสัตว์ ก็เสี่ยงต่อบาดทะยักเช่นกัน 

ขอบคุณคะ

ผู้เขียนขอบคุณทุกท่านที่ติ....ชม ..ผู้เขียนไม่ปริญญา แต่ต้องการเสนอแนะ และให้ความรู้ระดับชาวบ้านได้มีความรู้ ทั่วไปเพราะชาวบ้านจริงๆไม่มีโอกาสเปิดnet หรอกครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท