นายสนม ศิริทวี บ้านสลักได หมู่ 1 ต.สลักได ถ.สุรินทร์-สังขะ อ.เมือง จ.สุรินทร์
รายงานการศึกษาแนวคิด รูปแบบ เทคนิค กระบวนการ
ในการพัฒนาและผลงานของนายสนม ศิริทวี
นำเสนอโดยนายสนธยา มุลาลินน์
ประสบการณ์ด้านการศึกษาและพัฒนาวิชาชีพในสมัยต่อมา ประกอบด้วย
ด้านการศึกษาใฝ่รู้ในภาษาเขมรและการเขียนยันต์ ด้วยความเชื่อถือศรัทธาในความเป็นสิริมงคล :
ท่านเรียนรู้จากญาติที่เป็นชาวกัมพูชา และเรียนรู้จากพระสงฆ์ ฝึกเขียนภาษาเขมรจนสามารถเขียนได้ อ่านได้ และนำไปใช้เขียนสาระวิชาการในสมุดบันทึกต่างๆได้
ด้านการศึกษาโหราศาสตร์ เพื่อการทำนายดวงชะตาราศรี เพื่อใช้เป็นแนวทางสร้างกำลังใจในการดำเนินชีวิตหรือประกอบกิจกรรมการงานต่างๆ
ด้านการศึกษาตำรายาสมุนไพรแพทย์แผนโบราณและจิตวิญญาณอันเป็นกุศลที่มีต่อผู้ป่วย
ด้านการศึกษาบทสวด สำหรับพิธีกรรมทางศาสนาและประเพณีของท้องถิ่น
ด้านบทบาทความเป็นผู้นำ การมีส่วนร่วมกับสังคม และแกนนำเพื่อความเป็นธรรมนำความสงบสุขมาสู่สังคมเพื่อนบ้าน
2. แนวความคิดและรูปแบบการดำเนินชีวิต
2.1 การครองตน ยึดมั่นในหลักธรรมของพระพุทธศาสนา ความกตัญญูรู้บุญคุณ มุ่งมั่นพัฒนาตนเป็นคนดีมีคุณภาพ ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงปัจจุบัน บนหลักแนวคิดทฤษฎีพอเพียงและเพียงพอหรือทางสายกลางตามปรัชญาแนวคิดของพุทธศาสนา สามารถนำไปสู่สภาวะแห่งความว่างและความสงบ เป็นที่พึ่งของตนเอง
2.2 การครองคน ปฏิบัติตนเป็นคนดี เป็นที่พึ่งของผู้อื่นได้ เป็นการครองคนที่เริ่มต้นด้วยการครองใจและการทำความดีงามอันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นครัวเรือนและสังคม ญาติมิตรเพื่อนบ้านให้การยกย่อง ยอมรับให้เข้าไปนั่งอยู่ในจิตใจด้วยความเคารพเลื่อมใสศรัทธาในคุณงามความดีที่ท่านมีให้ต่อสังคม
2.3 การครองงาน งานที่สุจริตทำได้ด้วยความรู้ความสามารถ และเป็นประโยชน์ ทั้งต่อตนเองและต่อสังคม ข้อคิดจากการทำงาน คือ การงานใดก็ตามทำดีย่อมได้ดี แสวงหาความสุขก็ย่อมได้พบกับความสุข ยึดมั่นในอิทธิบาทสี่ คือ ฉันทะ วิริยะ จิตะ วิมังสา
3. แนวความคิดในการพัฒนาและผลงานที่เกี่ยวกับสุขอนามัยและแพทย์แผนโบราณ
3.1 มีบันทึกเป็นตำรายาสมุนไพรทั้งฉบับภาษาไทยและภาษาเขมร
3.2 เคยเป็นบุคคลที่ได้รางวัลผู้สูงอายุที่มีสุขภาพแข็งแรง ด้วยเหตุมาจากการดูแลสุขภาพ
4. แนวความคิดในการพัฒนาและผลงานที่เกี่ยวกับการดนตรี
4.1 เป็นนักดนตรี ที่สามารถสีซอในบทเพลงไทยหลายๆเพลงได้อย่างไพเราะ ในอดีตเมื่อครั้งยังเป็นหนุ่ม ท่านเคยรับงานการแสดงดนตรีไทยตามงานประเพณีต่างๆโดยร่วมกับคณะนักดนตรีพื้นบ้านในสมัยนั้น ปัจจุบันท่านก็ยังมีความสามารถนั้นติดตัวอยู่ถึงแม้ว่า การสีซออาจจะไม่คล่องแคล่วเหมือนเมื่อก่อน แต่ที่สังเกตจากการได้ชมฝีมือการสีซอในคราวที่ท่านไปร่วมงานประเพณีและเยี่ยมญาติพี่น้องที่ประเทศกัมพูชา ได้ฟังแล้วรู้สึกประทับใจในความอัจฉริยะของท่านจริงๆ
5. แนวความคิดในการพัฒนาและผลงานที่เกี่ยวกับโหราศาสตร์และคาถาเพื่อสร้างพลังทางจิตวิญญาณ
5.1 มีบันทึกตำราทางด้านโหราศาสตร์และการดูดวงชะตาราศรี
5.2 มีตำราและผลงานการเขียนยันต์ผ้าแดงประดับบ้านในแบบฉบับของสัญลักษณ์อักษรขอมโบราณ
5.3 มีตำราที่เป็นบทสวดคาถาต่างๆ
5.4 เป็นบุคคลที่ให้บริการวิชาการทางด้านการดูฤกษ์ดูดวงแก่ประชาชนทั่วไป
6. แนวความคิดในการพัฒนาและผลงานที่เกี่ยวกับการเกษตร
6.1 มีการทดลองทำนาแบบผสมผสานระหว่างการปลูกพืชเลี้ยงสัตว์
7. แนวความคิดในการพัฒนาและผลงานที่เกี่ยวกับการศึกษาและอาชีพ
7.1 เป็นคนที่ใฝ่ศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ
8. แนวความคิดในการพัฒนาและผลงานที่เกี่ยวกับสร้างบ้านที่อยู่อาศัย
8.1 การเลือกจัดวางที่ตั้งในการสร้างบ้าน
8.2 การจัดวางองค์ประกอบและโครงสร้างของบ้านให้เหมาะสัมพันธ์กับนิเวศของธรรมชาติสิ่งแวดล้อม
9. แนวความคิดในการพัฒนาและผลงานที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมประเพณีและสังคม
9.1 เป็นผู้นำชาวบ้านเรียกร้องความเป็นธรรม เพื่อแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินอยู่อาศัย
9.2 ช่วยเหลือผู้ป่วยที่ตกทุกข์ได้ยากด้วยยาสมุนไพรการแพทย์แผนโบราณ
9.3 เป็นผู้นำชุมชนด้านประเพณีและพิธีกรรมต่างๆทางศาสนา ประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น
9.4 เป็นบุคคลอาวุโสได้รับความเลื่อมใสศรัทธาในสังคม
ภาพที่ 3 นายสนม ศิริทวี เป็นผู้นำตัวแทนชาวบ้านเข้าที่ประชุมแถลงปัญหาเรื่องที่ดิน เมื่อ พ.ศ. 2532
ภาพที่ 4 นายสนม ศิริทวี และคณะเข้าพบนายชวน หลีกภัย (อดีตนายยกรัฐมนตรี)
บทสรุปแนวความคิดในการพัฒนา
ใช้แนวทางในการดำเนินชีวิตและดำรงอยู่ในสังคมอย่างเรียบง่าย เป็นบุคคลที่ใฝ่รู้อยู่เสมอ ครองตนอยู่ในหลักศีลธรรมอันดีงาม ยึดมั่นในหลักธรรมคำสอนของพุทธศาสนา ใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พึ่งพาตนเอง ปฏิบัติตนอย่างมีคุณค่าและบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม ซึ่งรับรู้ได้ด้วยการครองตนครองธรรม นำชีวิตเป็นสุข รับรู้ทางจิตวิญญาณด้วยความรู้สึกที่พุ่งออกมาจากแก่นแท้ในจิตใจ และรับรู้ทางกายภาพด้วยการมองเห็น สัมผัสจับต้อง
กระบวนการพัฒนา
ข้อเสนอแนะต่อแนวทางการพัฒนาชุมชน
1. การพัฒนาควรเริ่มต้นจากฐานรากของภูมิปัญญาท้องถิ่น ยั่งลึกให้ถึงจิตใจ ก้าวไปอย่างมั่นคง เป็นขั้นตอนและต่อเนื่อง มุ่งสู่เป้าหมายปลายทาง บนเส้นทางของการสร้างสรรค์และการแก้ไขปัญหา โดยการมีส่วนร่วมจากหลายฝ่าย ทั้งในด้านสังคม เศรษฐกิจ ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ศิลปวัฒนธรรมประเพณี การกินดีอยู่ดีมีความสุขของประชาชนให้เกิดดุลภาพอย่างยั่งยืน
2. ควรส่งเสริมให้มีการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาเขียนเป็นตำรา และส่งเสริมให้มีการสืบสานองค์ความรู้ภูมิปัญญาสู่ชนรุ่นหลัง เพื่อให้วิชาการความรู้ที่มีคุณค่าคงอยู่ยั่งยืนต่อไป ซึ่งจะสามารถพัฒนาให้เกิดความเจริญงอกงามประกอบด้วยศีลธรรมอันดีในจิตใจและความรู้วิชาการสร้างสรรค์สถานภาพการดำรงชีพต่อไป
3. ส่งเสริมให้มีการพัฒนาอย่างน้อย 3 ด้าน คือ
3.1 การพัฒนาด้านเศรษฐกิจ หมายถึง การผลิต การแลกเปลี่ยน จัดจำหน่าย การลงทุนที่ช่วยทำให้ประชาชนไม่ประสบปัญหาความยากจนข้นแค้น
3.2 การพัฒนาทางสังคม หมายถึง พัฒนาจิตใจและพฤติกรรมของคน ให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข ด้วยการมีหลักศีลธรรมคุ้มครองจิตใจ ก่อให้เกิดความสามัคคีในหมู่คณะ มีเอกภาพและเป็นชุมชนที่มีความเข้มแข็ง มีภูมิคุ้มกัน
3.3 การพัฒนาทางการเมือง หมายถึง เน้นส่งเสริมประชาธิปไตย ทำให้ประชาชนทุกคนมีความเข้าใจอย่างถูกต้องในสิทธิและหน้าที่ของตนเองและผู้อื่น ส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาและแก้ปัญหาต่างๆของชุมชน
ไม่มีความเห็น