ภาษาผู้ไท


ภาษาผู้ไทจะไม่มีสระเอีย สระอัวสระเอือ แต่จะใช้สระเอ สระโอ สระเออแทน ไม่มีฟ ฝ แต่ใช้พ ผ แทน ไม่มีชแต่ใช้ซแทน เสียงยบางคำจะพูดขึ้นนาสิก

     ผู้เขียนเกิดที่บ้านหนองสูงอ.หนองสูงจ.มุกดาหารมีพ่อแม่ปู่ย่าตายายเป็นคนผู้ไทซึ่งพวกเราจะเรียกตัวเองตามสำเนียงภาษาว่าพู้(ออกเสียงสูงกว่าเสียงโทแต่ต่ำกว่าเสียงตรี)ไท่ซึ่งเทียบได้กับผู้ไทในภาษาไทยกลางไม่ใช่ภูไทเพราะพวกเราไม่ใช่ชาวภูเราอยู่ใกล้ลำห้วย อยู่ในที่ราบใกล้ภูแต่ไม่ได้ไปอยู่บนภู

      ผู้ไทเป็นชนเผ่าหนึ่งที่มีภาษาพูดแตกต่างจากภาษาไทยกลาง ซึ่งภาษาที่พูดนี้จะไปเหมือนกับพี่น้องลาวพวนบ้างหรือว่า้อาจจะเป็นเชื้อสายเดียวกันแต่ไปอยู่คนละที่เลยมีชื่อเรียกต่างกัน  ผู้เขียนอยากรู้ว่าจะมีที่ไหนบ้างที่พูดเหมือนผู้ไทจึงขอนำเสนอภาษาผู้ไทมาไว้ณ.ที่นี้เผื่อมีผู้ที่รู้จักภาษาแบบนี้แต่ไม่ได้เรียกว่าเป็นผู้ไทได้มาแลกเปลี่ยนกันว่ามีกลุ่มใดบ้างที่พูดอย่างนี้ ลาวพวน ,ไทยทรงดำพูดเหมือนผู้ไทไหมลองเทียบดูนะคะ

ผู้เขียนจะเสนอภาษาผู้ไทดังนี้ค่ะ

หมวดอวัยวะ

โห่   หมายถึง  ศีรษะหรือหัว เช่น โห่โหล่ง  (หัวโต) โห่ง่อน(หัวทุย)  โห่เบ๊ว(ออกเสียงเบวเป็นเสียงวรรณยุกต์ที่สูงกว่าเสียงโทแต่ต่ำกว่าเสียงตรี) หมายถึงหัวเบี้ยว

เฮ่อะ หมายถึง เหงือก

แฮ้ว(ออกเสียงสูงกว่าเสียงโทแต่ต่ำกว่าเสียงตรี)หมายถึง ฟัน

ป้ะ หมายถึง ปาก

ค่าง หมายถึงคาง

แก๊ม(เสียงสูงกว่าเสียงโทแต่ต่ำกว่าเสียงตรี) หมายถึงแก้ม

หน๊า(เสียงสูงกว่าโทแต่ต่ำกว่าเสียงตรี)หมายถึงใบหน้า

หน๊าพ่ะ (พ่ะออกเสียงโท)หมายถึงหน้าผาก

หู่ดั๋ง  หมายถึงจมูก

หู่       หมายถึงหู

ต๋า      หมายถึงตา

คี้ว     หมายถึงคิ้ว

กะด๊น(ด๊นออกเสียงสูงกว่าเสียงโทแต่ต่ำกว่าเสียงตรี) หรือง้อนด๊น     หมายถึงท้ายทอย

โห่แล่,โห่ใล่ หมายถึงไหล่

บ้า หมายถึงบ่า

หน  หมายถึงขน

ขี๊(เสียงสูงกว่าโทต่ำกว่าตรี)แฮ้ หมายถึงรักแร้

แอ๋ว หมายถึงเอว

น่ม หมายถึง นม

เอิ๊ก(เสียงตรี) หมายถึงอก

แห่น หมายถึงแขน

ก๋ก(เสียงจัตวา)แห่น หมายถึงต้นแขน

แห่นเซ่าะ(เสียงเซ่าะเป็นเสียงโท) หมายถึงข้อศอก

ค่อแห่น หมายถึงข้อมือ

นี้วมื่อ  หมายถึงนิ้วมือ

โป๊มื่อ  หมายถึงหัวแม่มือ

นี้วซี้ หมายถึงนิ้วชี้

นี้วก่าง หมายถึงนิ้วกลาง

นี้วน่าง หมายถึงนิ้วนาง

นี้วก๊อย(ก๊อยออกเสียงสูงกว่าเสียงโทแต่ต่ำกว่าเสียงตรี) หมายถึงนิ้วก้อย

ผ่ามื่อ หมายถึงฝ่ามือ

ข่ำปั๊น(ปั๊นออกเสียงสูงกว่าโทแต่ต่ำกว่าเสียงตรี) หมายถึงกำปั้น

หมะเก้าะ หมายถึงมะเหงก

หลั่งมื่อ หมายถึง หลังมือ

กะโพ่ะ(โพ่ะออกเสียงเป็นเสียงโท)หมายถึงสะโพก

ตั๋ก หมายถึงตัก เช่นนั้งตั๋ก หมายถึงนั่งตัก

ห่า  หมายถึง ขา

ห่าโต๊น(เสียงสูงกว่าโทแต่ต่ำกว่าเสียงตรี)หมายถึงต้นขา หรือ ขาใหญ่

ก๋กห่า หมายถึงต้นขา

ห่าตุ๊ย(เสียงตรี) หมายถึงขาโต

ห่าตุ๊ย(เสียงสูงกว่าโทแต่ตำ่กว่าตรี)หมายถึง ต้นขา

 

โห่โค้ย  หมายถึงหัวเข่า

ขะน้อง  หมายถึงขาพับ

บี่แค้ง   หมายถึงปลีน่อง

หน๊า(เสียงสูงกว่าโทต่ำกว่าเสียงตรี)แค้ง หมายถึงหน้าแข้ง

ป่อมเผ้อะ หมายถึง ตาตุ่มใน

ตุ้มม๊อง(ม๊องออกเสียงสูงกว่าเสียงโทต่ำ่กว่าตรีและเป็นเสียงสระเอาะ) หมายถึงตาตุ่มนอก

ค่อแค้ง หมายถึงข้อเท้า           

โป๊ตี๋น หมายถึงหัวแม่เท้า

ส๊น(ออกเสียงสูงกว่าเสียงโทแต่ต่ำกว่าเสียงตรี)ตี๋น หมายถึงซ่นเท้า

ผ่าตี๋น หมายถึงฝ่าเท้า

หลั่งตี๋น หมายถึงหลังเท้า

นี้วตี๋น หมายถึงนิ้วเท้า

จบหมวดอวัยวะค่ะ   ยังมีต่อตอนต่อไปอีกค่ะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ

                                                              สุภัทรา  เจติโคตร

                                                            ๓ตุลาคม๒๕๕๔

 อ่านต่อ ที่นี่ นะคะ

หมายเลขบันทึก: 463674เขียนเมื่อ 4 ตุลาคม 2011 09:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2012 18:01 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ตระกูลภาษาไทย (TaiKadai) คำศัพท์พูดเหมือนกันหมด ร้อยละ 90 กว่าขึ้นไป แต่สำเนียงต่างกัน

เช่นในกลุ่มของผู้พูดภาษาไทยลื้อ (เรียกตัวเองว่า ไตลื้อ หรือ ลื้อ) มีกลุ่มภาษาที่เรียกแตกต่างออกไป แม้ว่าจะพูดจาคล้ายกัน

เช่น กลุ่มคนยอง (ภาษาพูดและสำเนียงเหมือนกลุ่มพูดไตลื้อ ไตเขิน) กลุ่มคนพูดลื้อ(ไตลื้อ) เช่น พวกแข่ไตเหนอ (ไทยลื้อ) พวกไตเขิน พวกไตยอง เป็นต้น

นอกจากนี้กลุ่มพูดภาษาไทยใหญ่ (เรียกตัวเองว่าไต) ก็คล้าย ๆ ภาษาไทลื้อ (เรียกตัวเองว่าไตลื้อ) และยังเหมือนภาษาอีสาน(ไทลาว)หลายคำ เช่น คำว่า "เฮ็ด" หมายถึง "ทำ" ในขณะที่ภาษาคำเมือง (ไทยวน หรือภาษาชาวไทย8จว.ภาคเหนือตอนบน) ใช้คำว่า "เยียะ"(นาสิก) หมายถึง "ทำ" ภาษาลื้อ(ไทลื้อ) ใช้ว่า "เยะ"(นาสิก) หมายถึง "ทำ" เพราะ ภาษาไทลื้อ ไม่มีเสียงสระเอีย สระเอือ สระอัว มีเพียงเสียงสระเอ เอ โอ เท่านั้น นอกจากนี้ภาษาลื้อ ยังไม่มีตัวกล้ำ เช่น กล กร ก็ใช้เพียง ก เท่านั้น

เช่น คำว่า "เมีย" ภาษาไทลื้อว่า "เม"

เสีย ว่า เส

กลัว ว่า โก๋

ผัว ว่า โผ

เสือ ว่า เสอ

เกลือ ว่า เก๋อ

โรงเรียน ว่า โฮงเฮน

ผมเห็นว่าภาษาไตลื้อ มีคำศัพท์เหมือนกับ ภาษาผู้ไท (ไทคำ) ร้อยละ 90 เพียงแต่สำเนียงต่างกัน

เพราะผมบ้านผมเรียกตัวเองว่าเป็นคนลื้อ(ไทลื้อ)ครับ แต่ผ่าหลงเข้ามาอยู่ในภาคเหนือนานมาแล้ว สืบสาวประวัติศาสตร์ไม่ได้เลย คาดว่าคงอพยพเข้ามานานแล้ว ไม่น้อยกว่า 3-4ร้อยปี เพราะที่บ้านยังมีป่าช้าเก่าที่ใช้วิธีฝังแบบดั้งเดิม แต่ตอนนี้ร้างเป็นนาไปแล้ว หากพิสูจน์กระดูกได้ คงทราบห้วงอายุของบรพพบุรุษ

ประวัติศาสตร์ของคนเผ่า "ไท-ไต-ลาว" น่าศึกษามากครับ เพราะเป็นคนกลุ่มเดียวกันที่แตกออกไปเป็นกลุ่ม ๆ ตามพื้นที่

http://www.gotoknow.org/blogs/posts/471046

ตระกูลภาษาไทย (TaiKadai) คำศัพท์พูดเหมือนกันหมด ร้อยละ 90 กว่าขึ้นไป แต่สำเนียงต่างกัน

เช่นในกลุ่มของผู้พูดภาษาไทยลื้อ (เรียกตัวเองว่า ไตลื้อ หรือ ลื้อ) มีกลุ่มภาษาที่เรียกแตกต่างออกไป แม้ว่าจะพูดจาคล้ายกัน

เช่น กลุ่มคนยอง (ภาษาพูดและสำเนียงเหมือนกลุ่มพูดไตลื้อ ไตเขิน) กลุ่มคนพูดลื้อ(ไตลื้อ) เช่น พวกแข่ไตเหนอ (ไทยลื้อ) พวกไตเขิน พวกไตยอง เป็นต้น

นอกจากนี้กลุ่มพูดภาษาไทยใหญ่ (เรียกตัวเองว่าไต) ก็คล้าย ๆ ภาษาไทลื้อ (เรียกตัวเองว่าไตลื้อ) และยังเหมือนภาษาอีสาน(ไทลาว)หลายคำ เช่น คำว่า "เฮ็ด" หมายถึง "ทำ" ในขณะที่ภาษาคำเมือง (ไทยวน หรือภาษาชาวไทย8จว.ภาคเหนือตอนบน) ใช้คำว่า "เยียะ"(นาสิก) หมายถึง "ทำ" ภาษาลื้อ(ไทลื้อ) ใช้ว่า "เยะ"(นาสิก) หมายถึง "ทำ" เพราะ ภาษาไทลื้อ ไม่มีเสียงสระเอีย สระเอือ สระอัว มีเพียงเสียงสระเอ เอ โอ เท่านั้น นอกจากนี้ภาษาลื้อ ยังไม่มีตัวกล้ำ เช่น กล กร ก็ใช้เพียง ก เท่านั้น

เช่น คำว่า "เมีย" ภาษาไทลื้อว่า "เม"

เสีย ว่า เส

กลัว ว่า โก๋

ผัว ว่า โผ

เสือ ว่า เสอ

เกลือ ว่า เก๋อ

โรงเรียน ว่า โฮงเฮน

ผมเห็นว่าภาษาไตลื้อ มีคำศัพท์เหมือนกับ ภาษาผู้ไท (ไทคำ) ร้อยละ 90 เพียงแต่สำเนียงต่างกัน

เพราะผมบ้านผมเรียกตัวเองว่าเป็น คนลื้อ(ไทลื้อ)ครับ แต่ผ่าหลงเข้ามาอยู่ในภาคเหนือนานมาแล้ว สืบสาวประวัติศาสตร์ไม่ได้เลย คาดว่าคงอพยพเข้ามานานแล้ว ไม่น้อยกว่า 3-4ร้อยปี เพราะที่บ้านยังมีป่าช้าเก่าที่ใช้วิธีฝังแบบดั้งเดิม แต่ตอนนี้ร้างเป็นนาไปแล้ว หากพิสูจน์กระดูกได้ คงทราบห้วงอายุของบรพพบุรุษ

ประวัติศาสตร์ของคนเผ่า "ไท-ไต-ลาว" น่าศึกษามากครับ เพราะเป็นคนกลุ่มเดียวกันที่แตกออกไปเป็นกลุ่ม ๆ ตามพื้นที่

http://www.gotoknow.org/blogs/posts/471046

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท