การตรวจอุจาระ
การตรวจอุจาระเป็นการตรวจหน้าที่ของระบบย่อยอาหารรวมถึงการดูดซึมอาหารและโรคอื่นๆใการตรวจอุจาระแพทย์จะตรวจดังต่อไปนี้
- ลักษณะ ดูลักษณะเหลว ก้อน มีมูกหรือไม่ มีเลือดหรือไม่
- สี ของอุจาระ สีของอุจาระนอกจากจะเกิดจากลักษณะอาหารที่เรารับประทานเข้าไปยังเกิดจาก น้ำดีที่หลั่งออกมาจากถุงน้ำดีและเลือดที่ออกในทางเดินอาหาร อุจาระสีขาวอาจจะเกิดจากท่อน้ำดีอุดตัน อุจาระสีดำหลามถึงมีเลือดออกในกระเพาะ อุจาระมีเลือดสดปนหมายถึงมีเลือดตั้งแต่ลำไส้ใหญ่
- ดูไข่พยาธิจากกล้องจุลทรรศน์
- ตรวจ หาเลือดในอุจาระ บางครั้งเลือดที่ออกมีปริมาณน้อยไม่สามารถแยกด้วยตาเปล่าจึงต้องใช้ ปฏิกิริยาทางเคมีเพื่อตรวจหาเลือดในอุจาระถ้าให้ผลบวกแสดงว่าตลอดทางเดิน อาหารมีเลือดออกซึ่งอาจจะเกิดจาก แผลในกระเพาะอาหาร มะเร็งทางเดินอาหาร ริดสีดวงทวารหนัก และเกิดจากยาแก้ปวด ก่อนตรวจควรลดวิตามินซี ผลไม้ที่อุดมด้วยวิตามินซีเนื่องจากทำให้ผลตรวจคลาดเคลื่อน ไม่ควรทานเนื้อแดง เลือด ธาตุเหล็กก่อนตรวจ
การตรวจอุจจาระ
Stool Examination
-
การตรวจอุจจาระ เรียกว่า Stool exการตรวจอุจจาระเป็นวิธีการที่ทำได้ง่าย ๆ แต่มีความสำคัญในทางการแพทย์
-
เป็นตัวช่วยในการวินิจฉัยโรคต่าง ๆ ได้มากมาย amination หรือ Fecal analysis
ประกอบด้วย
-
การตรวจทางกายภาพ ( Physical examination)
- การตรวจหาเชื้อปรสิตโดยกล้องจุลทรรศน์
( Microscopic examination )
เป็นการตรวจดูลักษณะทั่ว ๆ ไปของอุจจาระโดยใช้ตาเปล่า
-
ดูสี ( Color )
-
ลักษณะของอุจจาระ ( Consistency )
-
มูก ( Mucus )
-
เลือด ( Blood )
-
สีของอุจจาระปกติคือสีน้ำตาล ( Brown ) เกิดจากสาร Stercobilin ซึ่งเป็นสารที่ได้มาจากการที่ bacteria ในลำไส้ทำปฏิกิริยากับ bilirubin ที่ถูกขับออกมาในอุจจาระนั้นเอง
ลักษณะของอุจจาระ ( Consistency )
-
อุจจาระปกติจะมีลักษณะอ่อนตัว ( Soft ) และ formed หรือ semiformed คือเป็นก้อนนั้นเอง
-
การที่อุจจาระมีลักษณะแข็ง ( Hard ) และแห้งเนื่องจากภาวะของผู้ที่มีอาการท้องผูกเนื่องมาจากมีการดูดซึมน้ำกลับมากเกินไปหรืออดื่มน้ำเข้าไปไม่มากพอ หรือ ลักษณะและรูปร่างของอุจจาระที่เกิดเนื่องจากโรคบางอย่าง
มูก ( Mucus )
- มูกที่อยู่ในอุจจาระของคนปกตินั้นมีจำนวนน้อยและไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ แต่หากเห็นมูกด้วยตาเปล่าได้ในสิ่งส่งตรวจที่เป็นอุจจาระแล้ว ก็ชี้ให้เห็นว่าเป็นสิ่งผิดปกติ
การรายงานผล
Mucus : Positive = พบมูกในอุจจาระ
Mucus : Negative = ไม่พบมูกในอุจจาระ
เลือด ( Blood )
- ถ้ามีเลือดออกมาปนกับอุจจาระเกินกว่า 3 มล. ภายใน 24 ชั่วโมงแล้ว เป็นสัญญาณที่สำคัญที่แสดงให้เห็นถึง gastrointestinal disease บางครั้งอาจมี bleeding ใน upper G.I. tract มากถึงกับมีเลือดออกมา 75-200 มล. โดยที่สีหรือลักษณะที่ปรากฏออกมาของอุจจาระไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยก็ได้
- ในทางตรงกันข้าม bleeding จำนวนเล็กน้อยอันเนื่องมาจาก hemorrhoids , cancer หรืออื่น ๆ อาจมีเลือดออกมามากกว่า 20 – 200 มล.
-
ความแตกต่างระหว่าง Upper GIT กับ Lower GIT
ระบบทางเดินอาหารตอนบน Upper GIT คือส่วนที่เริ่มจาก ปาก ไปจนถึงกระเพาะอาหาร
-
ระบบทางเดินอาหารตอนล่าง Lower GIT คือส่วนที่เริ่มจากส่วนลำไส้ (Duodenum) ไปจนถึงทวารหนัก (Anus)
การมีเลือดออกตอนบน Upper GI Bleeding
เม็ดเลือดแดงที่แตกจะปล่อยฮีโมโกลบินออกมา
เมื่อมาถึงกระเพาะ
เจอกับน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร (Gastric acid)
จะเปลี่ยนฮีโมโกลบินให้กลายเป็นฮีม
การมีเลือดออกตอนล่าง Lower GI Bleeding
เม็ดเลือดแดงที่แตกจะปล่อยฮีโมโกลบิน ออกมาปนกับอุจจาระ โดยตรง หรืออาจพบเม็ดเลือดแดงปนกับอุจจาระโดยตรง
การตรวจดูลักษณะของอุจจาระโดยกล้องจุลทรรศน์
( Microscopic examination )
-
จุดประสงค์ในการตรวจดูลักษณะของอุจจาระโดยกล้องจุลทรรศน์นั้น ก็เพื่อหาพวก ไข่พยาธิ ( eggs ) , ปล้องพยาธิ , หรือพยาธิต่าง ๆ โดยวิธี Direct method
-
หา Protozoa
- หาเซลล์เม็ดเลือด
-
หา yeast
การตรวจอุจจาระโดยวิธี Direct method
- ใช้ไม้จิ้มอุจจาระให้ได้ขนาดเท่าหัวไม้ขีดไฟ
-
จิ้มลงบนแผ่น glass slide ที่หยด 0.85% NSS ( Normal Saline Solution ) 1 หยด เตรียมไว้แล้ว
- จิ้มแล้วกวนให้ผสมเข้ากับ NSS
-
จากนั้นใช้ Cover slip ปิด
- นำไปดูภายใต้กล้องจุลทรรศน์
การตรวจหา Occult blood ในอุจจาระ
-
การตรวจหาเลือดในอุจจาระ ( Fecal Occult Blood Test )
- เป็นการตรวจหาเลือดในอุจจาระในกรณีที่มีเลือดอยู่น้อยเกินกว่าจะมองเห็นได้
มีการทดสอบ 2 แบบ คือ
- Traditional Chemical Test
- COLOSCREEN Occult Blood Screening Test โคโลสกรีน ชุดตรวจหาภาวะเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร แบบ ปฏิกิริยาเคมี
2. Single Immunoassay Test
- ชุดตรวจหาภาวะเลือดออกในระบบทางเดินอาหารแบบ ปฏิกิริยาอิมมูโน
- Traditional Chemical Test
COLOSCREEN Occult Blood Screening Test
โคโลสกรีน ชุดตรวจหาภาวะเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร
แบบ ปฏิกิริยาเคมี
- ใช้ไม้ป้ายอุจจาระ เลือกตำแหน่งโดยการสุ่มหลายๆจุด นำไปป้ายบนแถบสำหรับทดสอบ
- หยดน้ำยาสำหรับทดสอบจำนวน 2 หยด
- รอสังเกตสีฟ้าที่เกิดขึ้นบนพื้นกระดาษทดสอบสีขาว แล้ว แปลผลการตรวจ
การรายงานผลการตรวจวิเคราะห์
-
หากไม่ปรากฏสีฟ้า = Negative ผลลบ
-
หากปรากฏสีฟ้า = Positive ผลบวก ( หรืออาจเป็นผลบวกปลอม )
2. วิธีการทำการทดสอบ
-
Single Immunoassay Test
ชุดตรวจหาภาวะเลือดออกในระบบทางเดินอาหารแบบ ปฏิกิริยาอิมมูโน
1. ป้ายอุจจาระมาใส่ลงในหลอดทดสอบ
2. ปิดฝาให้สนิทแล้วทำการเขย่าหลอดทดสอบ เพื่อละลายเอาส่วน
Hemaglobin ออกมา แล้วตั้งทิ้งไว้
3. จากหลอดน้ำยาในตอนแรก หยดน้ำยาลงในช่องตัวอย่างของตลับบทดสอบ จำนวน 3-5 หยด
4. รออ่านเครื่องหมายที่เกิดขึ้นนาน 10 นาที
5. แปลผลการตรวจ โดยการสังเกตุแถบสีในช่องอ่าน
การรายงานผลการตรวจวิเคราะห์
หากปรากฏแถบสีม่วงแดงจำนวน 1 แถบที่บริเวณ C = Negative
ผลลบหากปรากฏแถบสีม่วงแดงจำนวน 2 แถบ
ที่บริเวณ C /T = Positive ผลบวก
ผลบวกปลอม ( False positive )
ไม่มีสารนั้นอยู่จริง แต่ให้ผลบวกจากปฏิกิริยาอื่น จึงรายงาน Positive
ผลลบปลอม ( False negative )
มีสารนั้นอยู่จริง แต่ตรวจว่าไม่มีสารนั้น จึงรายงาน Negative
ข้อควรระวัง
ข้อควรระวังและแนวทางแก้ไขเพื่อป้องกันการเกิดผลบวกปลอม
1. Sample ต้องไม่ปนเปื้อนกับปัสสาวะซึ่งอาจมี RBC ปนเปื้อน ทำให้เกิดผลบวกปลอม
ผลบวกปลอมอาจเกิดจากอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ เนื่องจากในเนื้อสัตว์จะมี Myoglobin ซึ่งสามารถ Peroxidase activity เช่นเดียวกับ Hemoglobin ซึ่งจำเป็นต้องให้ผู้ป่วยงดอาหารประเภทเนื้อสัตว์ประมาณ 3 วันแล้วทำการทดสอบซ้ำ
2. Bacteria ในลำไส้, ผัก และผลไม้บางชนิด เช่น กล้วยหอม, horseradish , turnip ก็จะมี peroxidase activity ทำให้เกิดผลบวกปลอมเช่นกัน
3. การรักษา ที่มี Iron เป็นส่วนประกอบ จะให้ผลบวกปลอมได้
4. ผลลบปลอม อาจเกิดจากสารจำพวก Ascorbic acid เมื่อรับประทานวิตามินซี ทุกวันในปริมาณที่มากกว่า 500 mg เนื่องจากเป็น Reducing agent